จีนประกาศวันอังคาร (11 ส.ค.) ลดค่าเงินหยวนลงมาเกือบ 2% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี หลังข้อมูลเศรษฐกิจหลายส่วนแสดงให้เห็นอาการซวนเซ ทางด้านแบงก์ชาติแดนมังกรยืนยันยังคงเป้าหมายในการปฏิรูปตามแนวทางตลาด ขณะที่นักวิเคราะห์หวั่นใจว่า ความเคลื่อนไหวสุดเซอร์ไพรส์ครั้งนี้อาจกลายเป็นการจุดชนวนสงครามค่าเงินทั่วโลก
แบงก์ชาติจีน ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน (พีบีโอซี) ประกาศราคากลาง หรือ “อัตราอ้างอิง” ประจำวันสำหรับเงินหยวนของตนในวันอังคารให้อยู่ที่ 6.2298 หยวนต่อดอลลาร์ จากระดับ 6.1162 หยวนในวันจันทร์ (10) จึงเท่ากับลดค่าสกุลเงินตราของแดนมังกรลงมา 1.86%
การอ่อนตัวลงขนาดนี้ยังนับว่าเป็นการอ่อนตัวในรอบหนึ่งวันที่สูงที่สุด นับตั้งแต่การลดค่าเงินครั้งมโหฬารในปี 1994
นอกจากนั้น พีบีโอซียังระบุในคำแถลงว่า ได้เปลี่ยนวิธีการในการคำนวณเพื่อกำหนดราคากลาง หรือ “อัตราอ้างอิง” ประจำวัน ทั้งนี้เพื่อให้สะท้อนกับพลังของตลาดมากขึ้น
การลดค่าเงินหยวนคราวนี้ มีขึ้นหลังจากช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปักกิ่งรายงานว่า ยอดส่งออกประจำเดือนกรกฎาคมดิ่งแรงกว่าคาดถึง 8.3% และดัชนีราคาผู้ผลิตในเดือนเดียวกันตกลง 5.4% ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี
ความเคลื่อนไหวของจีนส่งผลกระทบต่อสกุลเงินตราของหลายประเทศในเอเชีย-แปซิฟิกเมื่อวันอังคาร โดย ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียทรุดลง 1% เมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ เช่นเดียวกับเงินวอนของเกาหลีใต้ที่อ่อนวูบ แม้เทรดเดอร์สงสัยว่า ทางการโซลเทขายดอลลาร์เพื่อไม่ให้วอนดิ่งรุนแรงก็ตาม
สำหรับตลาดหุ้นในเอเชียก็พากันดิ่งลงถ้วนทั่วเช่นเดียวกัน ขณะที่นักลงทุนกำลังขบคิดพิจารณานัยจากความเคลื่อนไหวที่น่าประหลาดใจของจีนครั้งนี้ ซึ่งแน่นอนว่า จะส่งผลต่อทั่วโลกทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
ขณะเดียวกัน การลดค่าเงินหยวนจุดประเด็นการถกเถียงเกี่ยวกับสงครามค่าเงินระดับโลก
วิษณุ วราธาน นักเศรษฐศาสตร์ของมิซูโฮ แบงก์ สาขาสิงคโปร์ แสดงความเห็นว่า สิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนในตลาดคือ การสังเกตทิศทางเงินหยวนในช่วง 2-3 วันต่อไปว่า สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นการปรับฐานเพียงครั้งเดียวหรือเป็นแนวโน้มระยะยาว
นอกจากนี้ ยังเป็นที่คาดการณ์กันว่า อเมริกาจะไม่พอใจอย่างมากกับเรื่องนี้
แบงก์ชาติจีน ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน (พีบีโอซี) ประกาศราคากลาง หรือ “อัตราอ้างอิง” ประจำวันสำหรับเงินหยวนของตนในวันอังคารให้อยู่ที่ 6.2298 หยวนต่อดอลลาร์ จากระดับ 6.1162 หยวนในวันจันทร์ (10) จึงเท่ากับลดค่าสกุลเงินตราของแดนมังกรลงมา 1.86%
การอ่อนตัวลงขนาดนี้ยังนับว่าเป็นการอ่อนตัวในรอบหนึ่งวันที่สูงที่สุด นับตั้งแต่การลดค่าเงินครั้งมโหฬารในปี 1994
นอกจากนั้น พีบีโอซียังระบุในคำแถลงว่า ได้เปลี่ยนวิธีการในการคำนวณเพื่อกำหนดราคากลาง หรือ “อัตราอ้างอิง” ประจำวัน ทั้งนี้เพื่อให้สะท้อนกับพลังของตลาดมากขึ้น
การลดค่าเงินหยวนคราวนี้ มีขึ้นหลังจากช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปักกิ่งรายงานว่า ยอดส่งออกประจำเดือนกรกฎาคมดิ่งแรงกว่าคาดถึง 8.3% และดัชนีราคาผู้ผลิตในเดือนเดียวกันตกลง 5.4% ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี
ความเคลื่อนไหวของจีนส่งผลกระทบต่อสกุลเงินตราของหลายประเทศในเอเชีย-แปซิฟิกเมื่อวันอังคาร โดย ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียทรุดลง 1% เมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ เช่นเดียวกับเงินวอนของเกาหลีใต้ที่อ่อนวูบ แม้เทรดเดอร์สงสัยว่า ทางการโซลเทขายดอลลาร์เพื่อไม่ให้วอนดิ่งรุนแรงก็ตาม
สำหรับตลาดหุ้นในเอเชียก็พากันดิ่งลงถ้วนทั่วเช่นเดียวกัน ขณะที่นักลงทุนกำลังขบคิดพิจารณานัยจากความเคลื่อนไหวที่น่าประหลาดใจของจีนครั้งนี้ ซึ่งแน่นอนว่า จะส่งผลต่อทั่วโลกทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
ขณะเดียวกัน การลดค่าเงินหยวนจุดประเด็นการถกเถียงเกี่ยวกับสงครามค่าเงินระดับโลก
วิษณุ วราธาน นักเศรษฐศาสตร์ของมิซูโฮ แบงก์ สาขาสิงคโปร์ แสดงความเห็นว่า สิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนในตลาดคือ การสังเกตทิศทางเงินหยวนในช่วง 2-3 วันต่อไปว่า สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นการปรับฐานเพียงครั้งเดียวหรือเป็นแนวโน้มระยะยาว
นอกจากนี้ ยังเป็นที่คาดการณ์กันว่า อเมริกาจะไม่พอใจอย่างมากกับเรื่องนี้