นายบุญยิ่ง วงษ์ลิขิต ตัวแทนเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เปิดเผยว่า หลังจากืั้สำนักงานผังเมือง จังหวัดระยอง ประกาศร่างผังเมืองรวม จ.ระยองฉบับใหม่ และใกล้ครบกำหนด 90 วัน หลังปิดประกาศผังเมืองในวันที่ 13 ส.ค.2558 มีการออกข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินตามที่จำแนกประเภทท้ายกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจ.ระยอง ซึ่งมี 2 พื้นที่ได้แก่ ได้แก่โครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมของการนิคมแห่งประเทศไทยและโครงการบริษัท ระยอง อินดัสเตรียล ปาร์ค ใช้โฉนดที่ดินจำนวนมาก มาขอให้สำนักงานผังเมืองจังหวัดระยอง ใช้ประโยชน์เพื่อทำนิคมอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ในผังเมืองจังหวัดระยอง มีการเปลี่ยนสีของผังเมืองจากสีเขียวไปเป็นสีม่วง แต่เป็นเพียงหย่อมๆจึงตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะมีนายหน้ามากว้านซื้อที่ดินมีโฉนดกับชาวบ้าน และนำไปขอให้สำนักผังเมืองเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการสร้างนิคมอุตสาหกรรม ด้วยการขอเปลี่ยนเป็นสีในผังเมืองเป็นสีม่วง นอกจากนี้ระหว่างที่มีการปิดประกาศ 90 วัน ผู้ประกอบการรายใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) ได้ทำหนังสือขอให้สำนักผังเมืองจังหวัดระยอง เปลี่ยนสีผังเมืองจากสีเขียวเป็นสีม่วงด้วย
"การบังคับใช้ผังเมืองรวมระยองฉบับใหม่ จะเปิดช่องให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินทำโรงงานอุตสาหกรรมได้ จึงได้ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อแสดงความต้องการของประชาชนในพื้นที่ว่ายังคงอยากให้คงสภาพสีผังเมืองเป็นสีเขียวเหมือนเดิม และไม่ต้องการให้มีการขยายพื้นที่สร้างโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มอีก เนื่องจากจะซ้ำเดิมปัญหามลพิษที่มีอยู่และยังไม่ได้รับการแก้ไข" นายบุญยิ่งกล่าว
สำหรับพื้นที่จ.ระยองนั้น กว่าร้อยละ 90 เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ปลูกยางพาราและสวนผลไม้ ยังเป็นพื้นที่สีเขียวในผังเมืองรวมจังหวัดระยอง ฉบับเดิม แต่บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) พยายามผลักดันให้เกิดนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่อ.บ้านค่าย จนมีการประกาศพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบ้านค่าย และเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองไปก่อนหน้านี้ ให้เพิกถอนประกาศนิคมอุตสาหกรรมบ้านค่าย ซึ่งศาลปกครองมีคำสั่งให้เพิกถอนประกาศนิคมอุตสาหกรรมบ้านค่าย โดยบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ได้ขอยื่นอุทธรณ์ แต่ยังถูกฟ้องกรณีการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมบ้านค่ายไม่โปร่งใส่ ซึ่งยังอยู่ในกระบวนการชั้นศาล
ทั้งนี้ในผังเมืองจังหวัดระยอง มีการเปลี่ยนสีของผังเมืองจากสีเขียวไปเป็นสีม่วง แต่เป็นเพียงหย่อมๆจึงตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะมีนายหน้ามากว้านซื้อที่ดินมีโฉนดกับชาวบ้าน และนำไปขอให้สำนักผังเมืองเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการสร้างนิคมอุตสาหกรรม ด้วยการขอเปลี่ยนเป็นสีในผังเมืองเป็นสีม่วง นอกจากนี้ระหว่างที่มีการปิดประกาศ 90 วัน ผู้ประกอบการรายใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด(มหาชน) ได้ทำหนังสือขอให้สำนักผังเมืองจังหวัดระยอง เปลี่ยนสีผังเมืองจากสีเขียวเป็นสีม่วงด้วย
"การบังคับใช้ผังเมืองรวมระยองฉบับใหม่ จะเปิดช่องให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินทำโรงงานอุตสาหกรรมได้ จึงได้ยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อแสดงความต้องการของประชาชนในพื้นที่ว่ายังคงอยากให้คงสภาพสีผังเมืองเป็นสีเขียวเหมือนเดิม และไม่ต้องการให้มีการขยายพื้นที่สร้างโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มอีก เนื่องจากจะซ้ำเดิมปัญหามลพิษที่มีอยู่และยังไม่ได้รับการแก้ไข" นายบุญยิ่งกล่าว
สำหรับพื้นที่จ.ระยองนั้น กว่าร้อยละ 90 เป็นพื้นที่เกษตรกรรม ปลูกยางพาราและสวนผลไม้ ยังเป็นพื้นที่สีเขียวในผังเมืองรวมจังหวัดระยอง ฉบับเดิม แต่บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) พยายามผลักดันให้เกิดนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่อ.บ้านค่าย จนมีการประกาศพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบ้านค่าย และเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออกได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองไปก่อนหน้านี้ ให้เพิกถอนประกาศนิคมอุตสาหกรรมบ้านค่าย ซึ่งศาลปกครองมีคำสั่งให้เพิกถอนประกาศนิคมอุตสาหกรรมบ้านค่าย โดยบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ได้ขอยื่นอุทธรณ์ แต่ยังถูกฟ้องกรณีการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมบ้านค่ายไม่โปร่งใส่ ซึ่งยังอยู่ในกระบวนการชั้นศาล