เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 58 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายกันต์ แซ่ตั๊ง พร้อมด้วยนางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริ บุตรชายและพี่สาวของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ พร้อมทนายความเดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้พิจารณาเปลี่ยน พันตำรวจเอกทวีรัชต์ ศรีธวัชพงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวน ที่หาสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ เนื่องจากญาติ พบข้อมูลว่า พันตำรวจเอกทวีรัชต์ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 39 กับพันตำรวจโทบรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงทำให้ญาติเกิดความไม่สบายใจ เกรงว่าสำนวนคดีจะไม่ได้รับความเป็นธรรม อีกทั้ง พันตำรวจเอกทวีรัชต์ ยังออกมาให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนในลักษณะที่ว่า การเสียชีวิตของนายชูวงษ์ เป็นอุบัติเหตุ ขณะเดียวกันยังร้องขอให้ ทางตำรวจหยุดให้ข่าวเกี่ยวความคืบหน้าทางคดีว่าเป็นอุบัติเหตุ เนื่องจากยังไม่มีการสรุปสำนวนอย่างเป็นทางการ
ส่วนเรื่องการสอบสวนทั้งเอกสารหลักฐานต่างๆ เช่น คลิปเสียงของนายชูวงษ์ ที่บันทึกไว้ก่อนนายชูวงษ์ เสียชีวิต 1 วัน ทางญาติได้ส่งให้ตำรวจกองปราบปราม รับไปเพื่อเปรียบเทียบกับคลิปเสียงที่ระบุว่า เป็นคลิปเสียงการซื้อขายหุ้นระหว่างนายชูวงษ์ กับ โบรกเกอร์ พร้อมส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้น ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ส่งให้ตำรวจกองปราบปรามไปแล้วเช่นกัน ส่วนที่มีรายงานข่าวระบุว่า ลายเซ็นการซื้อขายหุ้นของนายชูวงษ์ มีการเปลี่ยนแปลง มีการขีดนั้น เชื่อว่า ตำรวจกองปราบปราม จะสามารถให้ข้อเท็จจริงในส่วนนี้ได้ ทั้งนี้หากมีการสรุปสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ว่าเกิดจากอุบัติเหตุ และไม่สามารถเอาผิดกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ได้ ทางครอบครัว อาจจะมีพิจารณาใช้สิทธิ์ทางกฎหมายตามขั้นตอนที่สามารถจะกระทำได้ต่อไป
ด้าน พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การจะเปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวนหรือไม่ ถือเป็นอำนาจของผู้บังคับบัญชาที่จะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งไม่ใช่ใครจะไม่พอใจก็จะร้องขอเปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวนได้ เพราะต้องคำนึงถึงความรู้สึกของผู้ใต้บังคับบัญชาที่ตั้งใจทำงาน แต่จากที่สังเกตการทำงานของพนักงานสอบสวนก็ยังไม่มีเหตุผลให้เปลี่ยนคณะพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด
พร้อมกันนี้ พลตำรวจเอกสมยศ ยืนยันว่าได้เคยกำชับคณะทำงานทุกคน ให้ทำงานอย่างตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐานที่ต้องชี้แจงต่อสังคมและคู่กรณี และกรณีที่ญาติกังวลว่าพันตำรวจโทบรรยิน มีความสนิทสนมกับนายตำรวจหลายราย และอาจส่งผลให้รูปคดีไม่ได้รับความเป็นธรรม พลตำรวจเอกสมยศระบุว่าหากพยานหลักฐานยืนยันว่าเป็นการฆาตกรรม ต่อให้มี 100 เพื่อนบรรยิน ก็ไม่สามารถช่วยได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้าการสอบสวน พลตำรวจเอกสมยศ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากพลตำรวจโท ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลว่า ยังไม่มีพยานหลักฐานใดบ่งบอกว่าการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ เป็นการฆาตกรรม
ส่วนเรื่องการสอบสวนทั้งเอกสารหลักฐานต่างๆ เช่น คลิปเสียงของนายชูวงษ์ ที่บันทึกไว้ก่อนนายชูวงษ์ เสียชีวิต 1 วัน ทางญาติได้ส่งให้ตำรวจกองปราบปราม รับไปเพื่อเปรียบเทียบกับคลิปเสียงที่ระบุว่า เป็นคลิปเสียงการซื้อขายหุ้นระหว่างนายชูวงษ์ กับ โบรกเกอร์ พร้อมส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้น ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ส่งให้ตำรวจกองปราบปรามไปแล้วเช่นกัน ส่วนที่มีรายงานข่าวระบุว่า ลายเซ็นการซื้อขายหุ้นของนายชูวงษ์ มีการเปลี่ยนแปลง มีการขีดนั้น เชื่อว่า ตำรวจกองปราบปราม จะสามารถให้ข้อเท็จจริงในส่วนนี้ได้ ทั้งนี้หากมีการสรุปสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ว่าเกิดจากอุบัติเหตุ และไม่สามารถเอาผิดกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ได้ ทางครอบครัว อาจจะมีพิจารณาใช้สิทธิ์ทางกฎหมายตามขั้นตอนที่สามารถจะกระทำได้ต่อไป
ด้าน พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การจะเปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวนหรือไม่ ถือเป็นอำนาจของผู้บังคับบัญชาที่จะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งไม่ใช่ใครจะไม่พอใจก็จะร้องขอเปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวนได้ เพราะต้องคำนึงถึงความรู้สึกของผู้ใต้บังคับบัญชาที่ตั้งใจทำงาน แต่จากที่สังเกตการทำงานของพนักงานสอบสวนก็ยังไม่มีเหตุผลให้เปลี่ยนคณะพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด
พร้อมกันนี้ พลตำรวจเอกสมยศ ยืนยันว่าได้เคยกำชับคณะทำงานทุกคน ให้ทำงานอย่างตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐานที่ต้องชี้แจงต่อสังคมและคู่กรณี และกรณีที่ญาติกังวลว่าพันตำรวจโทบรรยิน มีความสนิทสนมกับนายตำรวจหลายราย และอาจส่งผลให้รูปคดีไม่ได้รับความเป็นธรรม พลตำรวจเอกสมยศระบุว่าหากพยานหลักฐานยืนยันว่าเป็นการฆาตกรรม ต่อให้มี 100 เพื่อนบรรยิน ก็ไม่สามารถช่วยได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้าการสอบสวน พลตำรวจเอกสมยศ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากพลตำรวจโท ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลว่า ยังไม่มีพยานหลักฐานใดบ่งบอกว่าการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ เป็นการฆาตกรรม