ปูด “เสี่ยชูวงษ์” เสียชีวิต เบรก-ถุงลมรถไม่ทำงานตั้งใจทำหรือไม่ พบสอบพริตตี้พิรุธหลายประเด็น

ความคืบหน้าคดี “เสี่ยชูวงษ์” ตร.ประสานผู้เชี่ยวชาญเทคนิครถเพื่อระบุการเสียชีวิตให้แน่ชัด ปูดรถคันดังกล่าวเบรคและถุงลมนิรภัยไม่ทำงาน สงสัยว่าตั้งใจกระทำให้ไม่ทำงานหรือไม่ แหล่งข่าวเผยเตรียมเรียกสอบ “บรรยิน” ประเด็นความสัมพันธ์ส่วนตัวกับ “เสี่ยชูวงษ์” ขณะที่พริตตี้สาว ตร.ยังพบพิรุธหลายประเด็นที่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นโบรกเกอร์ส่วนตัว แต่เอกสารกลับมีชื่อเป็ย จนท.การตลาดในการโอนหุ้น จ่อเรียกสอบหัวหน้าฝ่ายการตลาด ผู้เซ็นอนุมัติการโอนหุ้น

วันนี้ (26 ก.ค.) พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล รรท.ผบก.น.4 กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างให้ชุดสืบสวนสอบสวนรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมในทุกประเด็นที่ พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น.มอบหมายให้ไปดำเนินการ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ นอกจากนี้อยู่ระหว่างประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญเทคนิคเรื่องรถ มาดูรายละเอียดที่ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับประเด็นการเสียชีวิต อย่างไรก็ตามจะมีการประชุมสรุปผลการสืบสวนสอบสวนทุกด้าน เพื่อรายงานความคืบหน้าให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น.ทราบต่อไป

มีรายงานว่า ตำรวจได้มีการประสานงานให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบเรื่องรถแล้ว แต่อยู่ระหว่างรอผลตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เพื่อระบุสาเหตุการเสียชีวิตให้แน่ชัดอีกครั้ง เนื่องจากในเบื้องต้นตำรวจตรวจพบว่า รถคันดังกล่าวเบรกและถุงลมนิรภัยมีปัญหาไม่ทำงาน จึงเป็นข้อสงสัยว่ามีผู้ตั้งใจกระทำให้เบรกกับถุงลมนิรภัยไม่ทำงานหรือไม่ ทั้งนี้ ได้ประสานไปทางผู้เชี่ยวชาญของบริษัทที่นำเข้ารถยนต์คันดังกล่าวแล้ว แต่ทางบริษัทแจ้งว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้ทางตำรวจประสานผู้เชี่ยวชาญต้นสังกัดที่ต่างประเทศเอง

แหล่งข่าวจาก บก.ป.เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนจะเชิญ พ.ต.ท.บรรยินมาสอบปากคำในประเด็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของ พ.ต.ท.บรรยินและนายชูวงษ์ รวมถึงความสัมพันธ์ของนายบรรยิน นายชูวงษ์ และน.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล พริตตี้ และน.ส.อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์ ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบลายเซ็นและเอกสารการโอนหุ้นของนายชูวงษ์นั้น ตำรวจได้รับจากทางกองพิสูจน์หลักฐานแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเกรงจะกระทบต่อรูปคดี และการสืบสวนของเจ้าหน้าที่จะกระทำได้ลำบากมากขึ้น อย่างไรก็ตามขณะนี้สอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 10 ปาก และยังเรียกมาสอบปากคำอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้สำนวนรัดกุมและครบถ้วนที่สุด

แหล่งข่าวเปิดเผยต่อว่า ในส่วนของการสอบปากคำ น.ส.กัญฐณา เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม และ น.ส.อุรชา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้นยังคงพบพิรุธในหลายส่วนหลายประเด็น โดยเฉพาะ น.ส.อุรชา ที่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นโบรกเกอร์ส่วนตัวของนายชูวงษ์ แต่ในเอกสารกลับมีชื่อเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดในการโอนหุ้นกว่า 40 ล้านบาทให้แก่ น.ส.ศรีธรา พรหมา มารดาของ น.ส.อุรชา และยังมีชื่อ น.ส.สุรดา เที่ยงธรรม หัวหน้าฝ่ายการตลาดบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด เป็นผู้เซ็นอนุมัติการโอนหุ้นดังกล่าวอีกด้วย หลังจากนี้จะต้องเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการโอนหุ้นทั้งหมดของนายชูวงษ์มาสอบปากคำ โดยเฉพาะจากบริษัทหลักทรัพย์เออีซี ที่มาสอบปากคำเพียงแค่ 2 รายเท่านั้น