“บรรยิน” เลื่อนให้การ ตร.กองปราบฯ เผยติดธุระส่วนตัว

“พ.ต.ท.บรรยิน” ขอเลื่อนพบพนักงานสอบสวน เป็นวันพุธที่ 29 ก.ค. เวลา 09.00 น. เผยติดธุระส่วนตัว ด้าน “พ.ต.อ.จิรภพ” เผยความคืบหน้าแล้วไปกว่า 60%

วันนี้ (26 ก.ค.) พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างว่า พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.กระทรวงพาณิชย์ ได้ขอเลื่อนพบพนักงานสอบสวน จากเดิมวันที่ 27 ก.ค.นี้ เป็นวันพุธ ที่ 29 ก.ค. เวลา 09.00 น. โดยให้เหตุผลว่าติดธุระส่วนตัว ซึ่งพนักงานสอบสวนจะสอบถามถึงประเด็นความสัมพันธ์ระหว่าง น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล พริตตี้สาว และ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์สาวที่รับโอนหุ้นต่อจากนายชูวงษ์ ว่ามีความสัมพันธ์กับนายชูวงษ์ และพ.ต.ท.บรรยิน อย่างไร ทั้งนี้ จากการสอบปากคำ น.ส.อุรชา พบความไม่ปกติของการโอนหุ้นในส่วนที่น.ส.อุรชาระบุว่าเป็นผู้ทำธุรกรรมการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ ทั้งที่ไม่ได้เป็นโบรกเกอร์ดูแลหุ้นดังกล่าวซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเรียก น.ส.อุรชามาสอบปากคำอีกหรือไม่ และยังต้องเชิญพยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทหุ้นมาให้ข้อมูลต่อพนักงานสอบสวนอีกหลายปากเกี่ยวกับขั้นตอนการโอนหุ้นแต่ละครั้งของนายชูวงษ์ด้วย

พ.ต.อ.จิรภพกล่าวด้วยว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ส่งผลตรวจลายเซ็นของนายชูวงษ์มาให้ทางกองปราบปรามแล้วบางส่วน แต่ยังมาไม่ครบจึงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ สำหรับความคืบหน้าการดำเนินคดีในส่วนของกองปราบปรามถือว่ามีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 60 แล้ว

ด้าน พ.ต.อ.พลศักดิ์ ชูสมานศิริ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.อุดมสุข กล่าวว่า วันนี้ในส่วนของพนักงานสอบสวนได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานสำนวนคดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว เหลือเพียงสอบปากคำพยานในจุดเกิดเหตุเพิ่มเติมขณะที่เข้าไปช่วยเหลือนายชูวงษ์ ขณะเกิดอุบัติเหตุ และพยานแวดล้อมบางส่วนที่เกี่ยวข้องหลังเกิดเหตุเพื่อเชื่อมโยงเรื่องเวลาให้มีความชัดเจน

ขณะที่การตรวจสอบพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องความเร็วของรถจากกองพิสูจน์หลักฐาน และการชันสูตรพลิกศพเหลืออีกบางส่วนจากสถาบันนิติเวชวิทยาเท่านั้น ทั้งนี้อยากขอเวลาให้ชุดคลี่คลายคดี ตรวจสอบให้รอบคอบชัดเจนในทุกประเด็นที่ทางผู้บังคับบัญชากำชับมา

สำหรับ น.ส.กัญฐณา น.ส.อุรชา และน.ส.ศรีธรา ที่ได้เข้าให้ปากคำไปแล้วก่อนหน้านี้นั้น หลังจากนี้กำลังตรวจสอบข้อมูลคำให้การต่างๆ ว่าเกี่ยวโยงถึงใครก็จะเชิญตัวมาสอบปากคำ อย่างไรก็ตามจะต้องมีการเชิญตัวนายโจ๊ก ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ของบริษัท หลักทรัพย์ เออีซี จำกัด มาสอบปากคำ หลังน.ส.อุชาให้การว่าเป็นผู้ดูแลหุ้นนายชูวงษ์ และจะเชิญ น.ส.โบว์ ซึ่งเป็นโบรกเกอร์ของบริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค จำกัด มาสอบปากคำเพิ่มเติมถึงขั้นตอนการโอนหุ้นด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ทีมสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ ทั้งหมดกว่า 300 ล้านบาทให้แก่ น.ส.กัญฐณา และน.ส.ศรีธรา ว่าเป็นการโอนอย่างถูกต้องสุจริตหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบเอกสาร ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบลายเซ็นและเอกสารการโอนหุ้นของนายชูวงษ์นั้น ตำรวจได้รับจากทางกองพิสูจน์หลักฐานแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เนื่องจากเกรงจะกระทบต่อรูปคดี และการสืบสวนของเจ้าหน้าที่จะกระทำได้ลำบากมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 10 ปาก และยังเรียกมาสอบปากคำอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้สำนวนรัดกุมและครบถ้วนที่สุด รวมทั้งทางกองพิสูจน์หลักฐานประสานชุดสืบสวนขอเอกสารลายเซ็นเพิ่มเติมเพื่อนำไปตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง