บช.ก.เรียกประชุมคลี่คลายคดี “เสี่ยชูวงษ์” พุ่งเป้าประเด็นการโอนหุ้นไปยังบุคคลที่ 3 มั่นใจจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย วอนหญิงสาวที่มีชื่อเกี่ยวข้องในคดีเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวน หวั่นเรื่องความปลอดภัย
วันนี้ (21 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.30 น. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ได้เรียกประชุมคณะทำงานคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ผู้เสียชีวิต รวมทั้งกรณีที่ญาติผู้เสียชีวิตเข้าร้องทุกข์ไว้ที่ บก.ป.เพื่อขอให้ตรวจสอบการโอนหุ้นของผู้เสียชีวิตไปยังบุคคลที่ 3 โดยมี พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป. พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผบก.ป.พร้อมคณะพนักงานสอบสวนรวมทั้งผู้เชี่ยวชาญจากกองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวช เข้าร่วมประชุม
พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า ในวันเดียวกันนี้ได้เรียกประชุมคณะทำงานเพื่อคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ หลังจากทางญาติผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมกันนั้นก็จะติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีการตรวจสอบเรื่องการโอนหุ้นของผู้เสียชีวิตด้วย ทั้งสองกรณีต้องดำเนินการไปพร้อมกันและมีบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมากมาย ในเบื้องต้นขอเรียนให้ทราบว่า ขอให้ทางญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตอย่าได้กังวล ทางคู่กรณีก็ไม่ต้องวิตกเพราะว่าทางตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายทุกอย่างจะเป็นไปหลักฐานที่ปรากฏ จะผิดหรือถูกก็ว่าไปตามพยานหลักฐาน ใครทำผิดก็ต้องจับกุมดำเนินคดี
พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวต่อว่า อีกอย่างคือคู่กรณีก็เป็นนายตำรวจ เรื่องที่ญาติผู้เสียหายอาจจะรู้สึกว่าเป็นตำรวจแล้วอาจจะช่วยเหลือกัน ตรงนี้ก็ขอให้วางใจได้ ทั้งหมดทำงานจากพยานหลักฐาน และจะดำเนินการอย่างละเอียดรอบคอบ หากพบพยานหลักฐานต่างๆ การกระทำความผิดตรงไหน อย่างไร ก็จะดำเนินการ ขอยืนยันว่าให้วางใจทางเจ้าหน้าที่ได้ในจุดนี้ ส่วนรายละเอียดต่างๆ ตนคงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ คงต้องรอให้มีการประชุมติดตามประเด็นความคืบหน้าในส่วนต่างๆ เสียก่อน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการดำเนินการในส่วนของ บก.ป.ว่าจะตรวจสอบเรื่องการโอนหุ้นของผู้เสียชีวิตเพียงเรื่องเดียวหรือไม่ พล.ต.ท.ฐิติราชกล่าวว่า เรื่องนี้แบ่งเป็น 2 เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน เราคงไม่สามารถที่จะทำเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะได้ เรื่องหลักๆ ก็คงเป็นกรณีอุบัติเหตุรถชนกัน ตรงนี้เป็นความรับผิดชอบของทางตำรวจนครบาล แต่ของทาง บก.ป.และ บช.ก.จะกำกับดูแลก็จะเป็นกรณีที่ญาติผู้เสียชีวิตได้มาร้องทุกข์กรณีการโอนหุ้น แต่เราก็จะเริ่มต้นตั้งแต่กรณีการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุไล่ไปทั้งสองกรณีนี้ อย่างที่บอกแล้วว่าอาจจะเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันก็ได้
ผบช.ก.กล่าวอีกว่า ทั้งสองกรณีอาจเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องกันก็ได้ ทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงที่ยังต้องสืบสวนสอบสวน ตนเห็นว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะต้องใช้เวลานาน คาดว่าไม่น่าเกิน 2 สัปดาห์ก็น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น เรื่องของความเป็นธรรมนั้นไม่ต้องร้องขอ บช.ก. เราพร้อมจะทำให้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว ถูกก็คือถูก ผิดคือผิด หากมีการกระทำผิดเกิดขึ้นในจุดไหน อย่างไร เราก็จะไม่ละเว้น
ส่วนกรณีของหญิงสาวที่ได้รับโอนหุ้นไปนั้น ทางตำรวจก็พยายามติดต่อให้เข้ามาพบเพื่อให้ข้อมูล และทางตำรวจเราเองก็เป็นห่วงเพราะกรณีที่เกิดขึ้นมีเหตุปัจจัยหลายอย่าง ที่อาจทำให้รู้สึกวิตกกังวลเกรงว่าจะได้รับอันตรายหลังจากตกเป็นข่าวทางที่ดีก็อยากให้มาพบเจ้าหน้าที่จะดีที่สุดและเพื่อความปลอดภัยมากกว่า