xs
xsm
sm
md
lg

“ศรีวราห์” ยันคดี “เสี่ยชูวงษ์” คืบหน้า 90% ยังไม่สรุปปมตาย มีประเด็นข้องใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผบช.น.เผยคืบหน้าการตาย “เสี่ยชูวงษ์” ไปแล้ว 90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 10 เปอร์เซ็นต์จะต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเพิ่มเติม ยังไม่สรุปสาเหตุการเสียชีวิต รับมีประเด็นติดใจอยู่ คาดเดือน ส.ค.จะได้ข้อมูลครบถ้วน

วันนี้ (24 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.สส.บก.น.4 พ.ต.อ.นิธิศ บุญเจริญ ผกก.สน.อุดมสุข พ.ต.ท.นพพร ศรีสุชาติ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.อุดมสุข พ.ต.ท.ธนสิทธิ แตงจั่น นักวิทยศาสตร์ สบ 3 กลุ่มงานตรวจทางเคมี ฟิสิกส์ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง พ.ต.อ.พิสิฐ ธรรมสุริยะ นายแพทย์ สบ 5 รพ.ตำรวจ ประชุมติดตามคดีเสี่ยชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 51 ปี กรณีเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำในวันที่ 26 มิ.ย. 58 ที่ผ่านมาว่า

ด้าน พล.ต.ท.ศรีวราห์เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ในที่ประชุมพนักงานสอบสวนยังตอบคำถามในประเด็นข้อสงสัยไม่ได้อีกเยอะ ทั้งเรื่องของจราจรกลาง กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์ที่ไปตรวจ ซึ่งตอบคำถามได้ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ยังเหลืออีก 10 เปอร์เซ็นต์ที่ต้องไปตรวจสอบเพิ่มเติม ส่วนพยานหลักฐานในตอนนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากข้อหาเดิม ยังไม่พบว่ามีพยานหลักฐานใด ทำให้เปลี่ยนแปลงข้อหาที่ตั้งไว้เดิมได้ เพียงแต่ว่าวันนี้ที่เชิญผู้เชี่ยวชาญทั้งจราจรกลาง สพฐ. และนิติเวช มาประชุม เพราะว่ายังมีประเด็นที่ติดใจอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้ให้น้ำหนักของการเสียชีวิตเป็นเรื่องอุบัติเหตุมากที่สุดหรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ตราบใดที่ยังตอบข้อสงสัยอีก 10 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือไม่ได้ ได้ให้พนักงานสอบสวนกลับไปหาหลักฐานมาเพิ่มเติมแล้วกลับมาประชุมกันอีกครั้งในต้นเดือนหน้า

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ผลการสอบปากคำพยานที่เป็นหน่วยกู้ชีพที่ไปถึงที่เกิดเหตุให้การว่าอย่างไรบ้าง พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า จากการสอบปากคำพยานซึ่งเป็นหน่วยกู้ชีพ 2 รายยังให้ปากคำไม่สอดคล้องกัน โดยคนแรกบอกตอนไปถึงที่เกิดเหตุพบว่านายชูวงษ์ยังไม่เสียชีวิต ส่วนคนที่ 2 บอกว่าเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว เราไม่สามารถให้น้ำหนักได้เพราะพยานทั้ง 2 คนไม่ได้เป็นแพทย์ที่มีความรู้เรื่องการวัดสัญญาณชีพ ต้องฟังความเห็นจากแพทย์เท่านั้น

พ.ต.อ.พิสิฐ ธรรมสุริยะ นายแพทย์ สบ 5 รพ.ตำรวจ กล่าวว่า สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากการบาดเจ็บที่ศีรษะทำให้สมองได้รับความกระทบกระเทือนเป็นสาเหตุหลัก ส่วนเรื่องกระดูกสันหลังส่วนคอหักนั้นเป็นแค่จุดส่งเสริม แต่ลำพังเพียงคอหักที่ระดับล่างๆ จะไม่ทำให้เสียชีวิตในระยะเวลาอันสั้นหากได้รับการรักษาทัน เมื่อถามว่าการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ตอนนี้สามารถสรุปได้หรือไม่ว่าเสียชีวิตก่อนเกิดเหตุหรือเวลาสอดคล้องกับตอนที่ตรวจสภาพศพหรือไม่ พ.ต.อ.พิสิฐกล่าวว่า ยังไม่พบความผิดปกติในเรื่องความสอดคล้องกับเหตุที่รถชนและระยะเวลาของการเสียชีวิตหลังจากที่รถเกิดการชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า สามารถวิเคราะห์ได้หรือยังว่าร่องรอยในตัวผู้เสียชีวิตเกิดจากการกระแทกกับตัวรถหรือว่าเกิดจากสาเหตุอื่น พ.ต.อ.พิสิฐกล่าวว่า แนวโน้มเป็นการกระแทกจากในตัวรถ ส่วนรอยช้ำที่บริเวณเบ้าตาที่มีการตรวจพบเกิดจากการกระแทก ซึ่งจะต้องตรวจสอบหาสาเหตุและหาข้อมูลด้านอื่นๆ เพื่อนำมาประกอบว่าเกิดจากการกระแทกกับอะไร ก็เป็นไปตามที่ ผบช.น.พูดไว้ว่า ยังมีการตั้งข้อสงสัยไว้อีก 10 เปอร์เซ็นต์ ก็ต้องกลับไปหามาเพื่อตอบข้อสงสัยในส่วนที่เหลือให้ได้ชัดเจน

รายงานเพิ่มเติมว่า พล.ต.ต.ชาญเทพกล่าวว่า ต้องตรวจสอบว่าหากเป็นการฆาตกรรมต้องรู้ว่าใครได้ผลประโยชน์ใครเสียผลประโยชน์ ส่วนที่ พล.ต.ท.ศรีวราห์สั่งการให้ไปตรวจสอบเพิ่มเติมเรื่องเทคนิคต่างๆ ของระบบรถยนต์ที่บางส่วนไม่ทำการ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเนื่องจากขาดการบำรุงรักษา ศูนย์โตโยต้าไม่มีผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ และรถนำเข้ามา 10 กว่าปีแล้ว ทั้งนี้ยังไม่สามารถตอบคำถามให้ชัดเจนในหลายเรื่องได้ คือ เรื่องการชันสูตรพลิกศพ ความเร็วของรถที่ยังไม่มีความชัดเจน ตามคำให้การของ พ.ต.ท.บรรยิน ว่าใช้ความเร็ว 80 กม.ต่อชั่วโมง รอยเบรกมันไม่ปรากฏ จึงยังมีข้อสงสัยว่าระหว่างรถพุ่งเข้าชนฟุตปาธสูง 15 ซม. เสยขึ้นไปแล้วคนที่นั่งภายในจะได้รับแรงกระแทกน้อยลงหรือมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถระบุได้ ทั้งนี้ต้องนำไปเทียบกับภาพกล้องวงจรปิด อย่างไรก็ตาม ตนได้สอบถามแพทย์ว่าการเสียชีวิตจากการตีกับการกระแทกแตกต่างกันอย่างไร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ ต้องรอสอบสวนเพิ่มเติมก่อน

รายงานข่าวจากชุดสืบสวน คดีดังกล่าวมีการเรียกสอบปากคำพยานหลายปาก ได้แก่สอบปากคำ พ.ต.ท.สมยศ จาก บก.จร.ที่ได้ทำการตรวจสภาพรถ นายชาญศักดิ์ ธนเตชา เพื่อนร่วมก๊วนกอล์ฟ ไว้เป็นพยาน ยืนยันว่านายชูวงษ์และ พ.ต.ท.บรรยินออกจากสนามกอล์ฟประมาณ 20.49 น. เนื่องจากโทรศัพท์หาลูกชายจึงจำเวลาได้ นายวีระ สว่างศรี เพื่อนร่วมก๊วนกอล์ฟระบุว่าหลังจากเล่นกอล์ฟเสร็จแล้วได้ขอตัวกลับก่อน ต่อมาวันที่ 19 ก.ค.ได้ทำการสอบปากคำ พ.ต.อ.พิสิฐ ธรรมสุริยะ นายแพทย์ สบ 5 รพ.ตำรวจ จากการสอบปากคำสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์เกิดจากเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นใน สมองบวมจากการกระแทกของแข็งกระทบ บาดแผลช้ำบวม ศีรษะด้านหลังซ้ายพื้นที่ 8 คูณ 6 ซม. และกระดูกสันหลังส่วนคอซีกที่ 6 และ 7 หัก

จากนั้นได้ตามพยานซึ่งในที่เกิดเหตุ พ.ต.ท.บรรยิน คนขับ แจ้งว่ามีผู้ชายมาเคาะกระจกขอเบอร์โทรศัพท์กับพยานซึ่งตามมาไม่ห่างจากที่เกิดเหตุ ต่อมาทราบชื่อนายชัยพัฒน์ แช่มเจริญ หรือเดียร์ ขับขี่จักรยานยนต์ตามหลังมา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบมีรถยนต์ประสบอุบัติเหตุ เห็นว่าด้านซ้ายมือมีไฟรถเข้าไปอยู่ตรงต้นไม้ ขณะที่วนรถกลับมากำลังจะเข้าไปที่เกิดเหตุก็เห็นว่ามีผู้ชายอยู่ 1 คน ซึ่งไม่ทราบชื่อ เอารถจักรยานยนต์มาจอดก่อนหน้าแล้ว ระยะห่างประมาณ 10 เมตร ตนเองได้เดินตามเข้าไปและตะโกนถามชายคนดังกล่าวว่ามีอะไรให้ช่วยหรือไม่ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ ต่อมานายชัยพัฒน์ได้บอกให้ชายคนดังกล่าวโทร.แจ้งมูลนิธิเข้ามาช่วย จากนั้นประมาณ 20 นาที มูลนิธิก็มาที่เกิดเหตุนำตัวนายชูวงษ์ส่ง รพ.สิรินธร
หลังจากนั้น พ.ต.ท.บรรยินได้ไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายและเจาะเลือดตรวจแอลกอฮอล์ ผลการตรวจไม่มีแอลกอฮอล์ในเลือด

ต่อมาวันนี้ (24 ก.ค.) พนักงานสอบสวนได้เดินทางไปที่สนามกอล์ฟสอบปากคำพนักงานเสิร์ฟ แคดดี้สนาม เจ้าหน้าที่สนาม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมด 13 ปาก โดยเฉพาะแคดดี้สนามให้การว่าวันเวลาดังกล่าวมีก๊วนกอล์ฟของผู้ตายมาเล่น ซึ่งก๊วนนี้มี 6 คน มี พ.ต.ท.บรรยิน นายชูวงษ์ นายชาญศักดิ์ นายวีระ พล.ท.ศุภกร สงวนชาติสรไกร และนายชัจน์ ซึ่งในระหว่างที่เล่นกอล์ฟไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันแต่อย่างใด





กำลังโหลดความคิดเห็น