ภรรยา พี่สาวและทนาย แจงพิรุธการเสียชีวิต “เสี่ยชูวงษ์” พบความผิดปกติของเอกสารในใบโอนหุ้นเขียนชื่อนามสกุลจริง และมีการแก้ไขวันที่ อีกทั้งในวันเกิดเหตุ “บรรยิน” นั่งอยู่เบาะข้างผู้เสียชีวิต โดยไม่ยอมให้การช่วยเหลือ
จากกรณีที่นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เสียชีวิตขณะที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์และอดีต รมช.พาณิชย์ ขับรถยนต์เลกซัส สีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กรุงเทพมหานคร ไปส่งนายชูวงษ์กลับบ้านเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งญาติได้เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เพื่อให้สอบสวนรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่เนื่องจากยังติดใจการเสียชีวิตในหลายประเด็น
วันนี้ (20 ก.ค.) ที่ สน.อุดมสุข นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง อายุ 51 ปี ภรรยานายชูวงษ์ น.ส.วันเพ็ญ ธนธรรมศิริ อายุ 54 ปี พี่สาวของนายชูวงษ์ นายกันต์ แซ่ตั๊ง อายุ 22 ปี บุตรชายชูวงษ์ พร้อมนายเอนก คำชุ่ม ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.นพพร ศรีสุชาติ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.อุดมสุข เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม
พ.ต.ท.นพพรกล่าวว่า ภรรยาและพี่สาวของผู้ตายมาให้ปากคำเพิ่มเติมในส่วนของรายละเอียดที่ให้สัมภาษณ์ต่อทางสื่อมวลชนที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเด็นช่วงเวลาก่อนเกิดเหตุญาติผู้ตายอยู่ที่ใด ทำอะไรอยู่ และรายละเอียดอื่นๆ ที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ นอกจากนี้ ทางตำรวจได้แบ่งชุดพนักงานสอบสวน ไปสอบปากคำผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับรถที่ทางคู่กรณีอ้างว่าทางบริษัทของภรรยาซื้อรถคันนี้มาเป็นรถมือสอง และการชนลักษณะดังกล่าว ทำไมถุงลมนิรภัยไม่ทำงาน อีกทั้งในส่วนของตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลที่สนามกอล์ฟที่ผู้ตายและคู่กรณีเดินทางไป อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ต้องเรียกคนขับรถของครอบครัวผู้ตายที่มีคำกล่าวพาดพิงถึงในวันเกิดเหตุผู้ตายได้โทรศัพท์ไปสั่งให้นำเอาถุงกอล์ฟมาให้ยังสนามกอล์ฟว่าได้พบผู้ตายหรือไม่ และพบผู้ใดบ้าง ก่อนจะมีการประชุมชุดทำงานที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ในช่วงสายของวันนี้อีกครั้ง
นายเอนกกล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 18.40 น.วันที่ 26 มิ.ย. วันเกิดเหตุ นางศิริรัตน์ ภรรยาของนายชูวงษ์ได้โทรศัพท์ติดต่อไปหานายชูวงษ์ที่บ้านพัก ทราบว่านายชูวงษ์กำลังอาบน้ำเตรียมตัวจะออกไปข้างนอก ต่อมาเวลา 22.00 น. นางศิริรัตน์ได้รับโทรศัพท์จากภรรยา พ.ต.ท.บรรยิน ว่า พ.ต.ท.บรรยินและนายชูวงษ์เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ นางศิริรัตน์จึงรีบเดินทางไปที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักประมาณ 2 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที เมื่อไปถึงพบว่า พ.ต.ท.บรรยินยังคงนั่งอยู่ที่เบาะคนขับ พร้อมคาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่ง พ.ต.ท.บรรยินให้การต่อพนักงานสอบสวนว่าหลังเกิดอุบัติเหตุ พ.ต.ท.บรรยินได้สลบไป เมื่อรู้สึกตัวจึงโทรศัพท์บอกภรรยา โดยยอมรับว่าครอบครัวของนายชูวงษ์ยังติดใจ เพราะหากคิดตามสัญชาตญาณของคนทั่วไป หากเกิดอุบัติเหตุเมื่อ พ.ต.ท.บรรยินโทรศัพท์ไปบอกภรรยาแล้วน่าจะต้องลงจากรถไปอีกฝั่งเพื่อตรวจสอบว่าเพื่อนที่นั่งมาด้วยเป็นอย่างไรบ้าง หรือน่าจะเรียกตำรวจทันที แต่กว่านางศิริรัตน์จะไปถึงที่เกิดเหตุเป็นเวลากว่า 20 นาที กลับพบว่า พ.ต.ท.บรรยินยังนั่งคาดเข็มขัดนิรภัยอยู่จุดเดิม โดยหลังจากนั้นได้เรียกมูลนิธิและรถโรงพยาบาล พร้อมโทร.แจ้งตำรวจ ก่อนจะมีการช่วยปั๊มหัวใจนายชูวงษ์ 1 ครั้ง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยยอมรับทางครอบครัวก็ยังคงติดใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เนื่องจากเป็นคนสนิทกันจึงพยายามไม่คิดอะไร ทั้งนี้ พ.ต.ท.บรรยินก็ยังเดินทางมาร่วมงานศพของนายชูวงษ์ทุกคืน นอกจากนี้ พ.ต.ท.บรรยินยังให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาด้วยความเร็ว ก่อนที่จะมีรถตัดหน้า พ.ต.ท.บรรยินจึงตัดสินใจหักหลบจนรถปีนขึ้นฟุตปาธและชนกับต้นไม้ ตนจึงมาเพื่อตรวจสอบร่องรอยการเฉี่ยวชนของบริเวณกระทะล้อและใต้ท้องรถว่ามีร่องรอยการปีนขึ้นฟุตปาธรวมทั้งการหักหลบอย่างกะทันหันจริงหรือไม่ ซึ่งจะต้องสอบถามไปยังศูนย์โตโยต้าถึงสมรรถภาพความเร็วของรถคันดังกล่าวอย่างละเอียดต่อไป
นายเอนกกล่าวต่อว่า ในส่วนของการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ไปยังบุคคลอื่น ที่ทางครอบครัวพบพิรุธ จนกระทั่งเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปรามนั้น เบื้องต้นพบว่ามีการโอนจำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 ได้เซ็นโอนหุ้นไปให้ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล จำนวน 9.5 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ราคาหุ้นละ 24 บาท รวมมูลค่ากว่า 228 ล้านบาท แต่มีผลวันที่ 22 มิถุนายน ก่อนจะพบว่าหุ้นดังกล่าวถูกขายออกไปในขณะที่หุ้นมีราคาที่ถูกลง เบื้องต้นทราบว่าขายไปได้ประมาณ 30 ล้านบาท ก่อนที่ตำรวจจะดำเนินการอายัดในส่วนที่เหลือไว้ทัน ครั้งที่ 2 พบเอกสารใบคำขอถอน/โอนหลักทรัพย์ ระบุชื่อผู้โอนหุ้นว่า “นายชูวงษ์ แซ่ตั๋ง” ซึ่งนามสกุลจริงของนายชูวงษ์ คือ “แซ่ตั๊ง” ทำให้พบความผิดปกติของเอกสาร รวมถึงวันที่ที่โอน มีร่องรอยคล้ายมีการแก้ไขวันที่ โดยครั้งนี้เป็นการโอนหุ้นให้ น.ส.ศรีธรา พรหมา จำนวน 3 ตัว แบ่งเป็น BBC จำนวน 50,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 195 บาท, CPN จำนวน 400,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 46 บาท และ PTTEP จำนวน 60,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 115 บาท รวมมูลค่ากว่า 40 ล้าบาท โดยการโอนหุ้นทั้ง 3 ตัวดังกล่าวนั้นปรากฏชื่อว่า “อุรชา” เป็นเจ้าหน้าที่การตลาด จากการตรวจสอบพบว่าอุรชาและน.ส.ศรีธรา เป็นแม่-ลูกกัน อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามได้รับการยืนยันจากพนักงานในบริษัทและเลขานุการว่าลายเซ็นที่ถูกเซ็นลงในใบโอนหุ้นไม่ใช่ลายเซ็นของนายชูวงษ์ อยู่ระหว่างให้ตำรวจกองปราบปรามตรวจสอบ