พบพิรุธโอนหุ้น “เสี่ยชูวงษ์” ตร.ประสานตลาดหลักทรัพย์อายัดไว้ตรวจสอบ

ตำรวจเตรียมสอบประเด็นโอนหุ้น “เสี่ยชูวงษ์” กว่า 300 ล้าน ก่อนเสียชีวิตในรถ “บรรยิน” หลังญาติมอบเอกสารพร้อมระบุมีพิรุธ ลายเซ็นในใบโอนไม่ตรงกับของเสี่ยรับเหมา แหล่งข่าวเผยหลังเสี่ยตายมีการขายหุ้นไปยังบุคคลที่ 3 แล้ว 2 ครั้ง เตรียมประสานตลาดหลักทรัพย์อายัดธุรกรรมไว้ตรวจสอบ ด้าน ผบช.น.ตั้ง “รองฯ ชาญเทพ” คลี่คลายคดี

วันนี้ (16 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่นายชูวงษ์ แซ่ตั้ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน และประธานกลุ่มวิทยาตลาดทุน กิจการเพื่อสังคม (วตท.) รุ่นที่ 20 ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำที่บริเวณในซอยเฉลิมพระเกียรติ 48-50 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ หลังจาก พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ และอดีต รมช.พาณิชย์ ขับรถยนต์เลกซัส สีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กรุงเทพมหานคร ออกจากสนามกอล์ฟไปส่งที่บ้านพักเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา และต่อมาญาติได้เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.เพื่อให้สอบสวนรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่ เนื่องจากยังติดใจการเสียชีวิตในหลายประเด็น ขณะที่ พ.ต.ท.บรรยินยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุ ขณะที่วานนี้ทางพี่สาว ลูกชายของนายชูวงษ์พร้อมทนายความ หอบหลักฐานใบโอนหุ้นให้พนักงานสอบสวน บก.ป.ให้ช่วยตรวจสอบ หลังพบพิรุธก่อนตายมีการหุ้นไป 2 ครั้ง มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท

พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาการ ผบก.ป.กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ทางพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งตรวจสอบทุกประเด็นที่ทางฝั่งครอบครัวของนายชูวงษ์ตั้งข้อสงสัย ทั้งในส่วนของประเด็นการทำธุรกรรมการโอนหุ้น เอกสารต่างๆ ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ป.เป็นผู้รับผิดชอบในภาพรวม เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้อง และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่เมื่อวานนี้ทางฝั่งผู้เสียหายพร้อมด้วยทนายความได้นำเอกสารหลักฐานการโอนหุ้น มูลค่า 228 ล้านบาท มามอบให้กับทางพนักงานสอบสวนเพื่อประกอบสำนวนคดี รวมทั้งได้สอบปากคำถึงที่มาของเอกสารนั้น ในเบื้องต้นทางฝั่งของผู้เสียหายโดยเฉพาะเลขานุการส่วนตัวนายชูวงษ์ให้การว่าลายเซ็นในเอกสารการโอนหุ้นที่นายชูวงษ์ได้เซ็นไว้นั้น ไม่ใช่ลายเซ็นของนายชูวงษ์ หลังจากนี้ก็จะทำการตรวจสอบ

โดยในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ ตร.กก.1 บก.ป.จะเดินทางไปตรวจสอบเอกสารทางธุรกรรมของนายชูวงษ์ที่สำนักงานเพื่อนำมาเปรียบเทียบ ขณะเดียวกัน ได้ประสานไปยังโบรกเกอร์ให้นำเอกสารการโอนหุ้นตัวจริงที่มีลายเซ็นนายชูวงษ์มาตรวจสอบเพื่อความชัดเจนในคดีต่อไป

ในส่วนของกรณีหุ้นของนายชูวงษ์ที่มีการโอนไปให้บุคคลที่สามกว่า 300 ล้านบาทนั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบเส้นทางการทำธุรกรรมการโอนหุ้น พบความเคลื่อนไหวภายหลังจากการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ได้โอนหุ้นไปยังบุคคลที่ 3 ก็ได้มีการขายหุ้นตัวดังกล่าวไป 2 ครั้งมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ทำการประสานไปยังตลาดหลักทรัพย์เพื่อให้อายัดการทำธุรกรรมดังกล่าว อีกทั้งอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลว่ามีการโอนขายไปให้ใคร ก่อนที่จะทำการสืบสวนหากพบความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องก็จะเรียกมาสอบปากคำต่อไป

ส่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) วันนี้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยว่า ตนได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น.ลงไปควบคุมการสอบสวนคลี่คลายคดีนี้ โดยในการตรวจสอบได้สั่งการให้ดำเนินการอย่างรอบคอบและรัดกุม และต้องตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคลและทางนิติวิทยาศาสตร์ เพราะสามารถชี้ชัดถึงสาเหตุการเสียชีวิตได้อย่างชัดเจน โดยยืนยันว่าการตรวจสอบจะเป็นไปอย่างโปร่งใส และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย