“ประวุฒิ” ยืนยันการเสียชีวิต “เสี่ยชูวงษ์” ยังไม่ฟันธงว่าเป็นอุบัติเหตุ ย้ำมีหลายประเด็นที่ต้องสืบสวนสอบสวน คาดว่าจะสรุปคดีนี้โดยเร็ว และในวันพรุ่งนี้ พ.ต.ท.บรรยิน จะเข้าพบ พนง.สส.บก.ป.เกี่ยวกับการโอนหุ้น
วันนี้ (28 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกตร.เปิดถึงความคืบหน้าการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างว่า กรณีที่มีกระแสข่าวว่าการเสียชีวิตของเสี่ยชูวงษ์เป็นการประสบอุบัติเหตุนั้น ขอยืนยันว่ายังไม่มีการสรุปสำนวน เพราะเท่าที่ได้พูดคุยกับ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. และ พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รอง ผบช.น. ระบุว่ายังจะต้องรอตรวจสอบข้อมูลอีกหลายอย่าง ซึ่งจะจัดให้มีการประชุมติดตามคดีเสี่ยชูวงษ์ ระหว่างชุดคลี่คลายคดีของกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) และ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) คาดว่าต่อจากนี้จะต้องรอหลักฐานเกี่ยวกับรถยนต์ และข้อมูลสำคัญกับผู้เชี่ยวชาญ เพราะความละเอียดในวันเกิดเหตุคือแรงกระแทกในแนวตั้ง หากรถวิ่งเข้าไปในที่ขรุขระจะมีการกระแทกขึ้นลง ถ้าถามว่าสามารถทำให้เสียชีวิตได้หรือไม่นั้น มันเป็นไปได้ ขณะนี้ตนไม่ขอฟันธงว่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะต้องมีเหตุผลว่าชิ้นส่วนที่ไปกระแทกในรถเป็นส่วนใดหากเป็นจุดแข็งต้องไปพิสูจน์ หากพบว่าเสียชีวิตจากของแข็งกระแทกแต่ในรถไม่มีของแข็งเลยก็เป็นไปไม่ได้ว่าจะกระแทกในรถ ซึ่งต้องรอผลจากผู้เชี่ยวชายนำมาเปรียบเทียบกับบาดแผลจากศพที่อยู่ในรถ ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก หากชัดเจนก็สามารถวิเคราะห์ได้ว่าแผลที่เกิดตามร่างกายของนายชูวงษ์เกิดจากแรงกระแทกอะไรบ้าง แผลใดที่ทำให้เสียชีวิต หรือแผลใดที่ทำให้มีแผลฉกรรจ์ และต้องนำมาเปรียบเทียบกับสภาพในรถในตำแหน่งที่นายชูวงษ์นั่งอยู่
ด้านผู้สื่อข่าวถามว่า การประชุมร่วมกันระหว่าง บก.ป.และ บช.น.จะนำข้อมูลในส่วนใดที่จะนำมาเสนอหรือแลกเปลี่ยนกัน พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ก็เป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องในสำนวนแทบทั้งหมดไม่สามารถตอบได้ ซึ่งรายละเอียดต่างๆ จะมีการแถลงให้ทราบหลังจากที่สรุปสำนวนทั้ง 2 เรื่องแล้ว ส่วนการเสียชีวิตก็ยังไม่มีชี้ชัดว่าเป็นอุบัติเหตุ ข่าวที่ออกมามีความคลาดเคลื่อนหรือไม่นั้น ตนไม่ได้เป็นคนพูด ซึ่งความจริงดูจากข้อมูลก็ยังสันนิษฐานไม่ได้ อย่างที่ตนเคยย้ำว่าบางครั้งหลักฐานได้มาครบแล้วก็ยังไม่สามารถสรุปไม่ได้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ทั้งนี้ หากญาตินายชูวงษ์มีหลักฐานอะไรเพิ่มเติมก็ยินดีให้นำมาชี้แจง เพราะสามารถนำมาประกอบในการสืบสวนสอบสวนคดีได้
ด้านผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในส่วนของคลิปเสียงนายชูวงษ์มีการตรวจสอบแล้วเป็นอย่างไร พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า ในส่วนของคลิปเสียงมีการเลียนเสียงได้ ในกรณีอื่นๆ ซึ่งจะทำให้น้ำหนักในการใช้คลิปเสียงไปเป็นพยานในคดีต่างๆ มีความลดน้อยลง ตอนนี้กำลังหาเทคโนโนโลยีที่สามารถเพิ่มความละเอียดของการตรวจเสียงให้สามารถใช้ในการพิสูจน์ทราบเสียงบุคคลเพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในคดี
ด้านผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ในส่วนของการโอนหุ้น ที่ บก.ป.รับผิดชอบรายงานผู้บังคับบัญชาเรื่องความผิดปกติของการโอนหุ้นหรือมีความเชื่อมโยงกับ พ.ต.ท.บรรยินอย่างไรบ้าง พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า พบว่ามีความผิดปกติในเรื่องของเอกสารที่เกี่ยวข้องและพฤตินัย แต่ว่าตนไม่สามารถอธิบายได้ว่าเป็นอะไร ตอนนี้มีการอายัดหุ้นไว้แล้วห้ามซื้อขาย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดอื่นๆได้ ส่วน พ.ต.ท.บรรยินมีความสนิทสนมกับแคดดี้และโบรกเกอร์อย่างไร พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวว่า นายชูวงษ์และ พ.ต.ท.บรรยินสนิทกันมาก เวลาไปไหนทำอะไร รู้จักใครก็จะรู้จักพร้อมๆ กัน จากการสอบปากคำเพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันบอว่าเวลาไปไหนสองคนนี้ก็จะไปด้วยกันตลอดเวลา
ทั้งนี้ พล.ต.ท.ประวุฒิกล่าวอีกว่า วันพรุ่งนี้ (29 ก.ค.) พ.ต.ท.บรรยินจะเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อให้ปากคำกรณีการโอนหุ้นว่ารู้เห็นเกี่ยวข้องกับการโอนหุ้นให้กับหญิงสาวคนสนิทของนายชูวงษ์ ทั้งสองรายอย่างไร แต่ว่าเรื่องอุบัติเหตุการเสียชีวิตทาง สน.อุดมสุข ได้สอบปากคำไว้หมดแล้ว ส่วนจะมีการเชิญตัวโบรกเกอร์และอดีตแคดดี้มาสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ต้องดูว่ามีประเด็นใหม่ที่ต้องสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมก็จะเชิญมา แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไร อย่างไรก็ตามเรื่องนี้จะพยายามทำเต็มที่ เพราะต้องชี้แจงต่อสังคมและญาติให้ได้ ทางฝ่ายผู้ต้องหาจะเปลี่ยนข้อหาจขากขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก็ต้องชี้แจงให้ได้ว่าเพราะอะไร และต้องมีข้อมูลที่ใช้ในการดำเนินคดีในศาลให้ได้