กองปราบปรามสอบเจ้าหน้าที่บริษัทโบรกเกอร์ 3 รายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโอนหุ้น “เสี่ยชูวงษ์” อย่างละเอียด
วันนี้ (28 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. เปิดเผยความคืบหน้าคดีนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ว่าพนักงานสอบสวนได้เชิญเจ้าหน้าที่บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี 3 ราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ไปยัง น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล แคดดี้สาว รวมมูลค่า 228 ล้านบาท โดยจะสอบถามในประเด็นเกี่ยวกับขั้นตอนการโอนหุ้นอย่างละเอียด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 10 ปาก แต่ยังมีผู้ที่จะต้องเชิญตัวมาสอบถามข้อมูลอีกจำนวนหนึ่ง และยังคงเป็นประเด็นเกี่ยวกับการโอนหุ้น โดยคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะสอบปากคำเสร็จสิ้น
พ.ต.อ.จิรภพกล่าวต่อว่า หลังจากสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไว้แล้วก็จะนำข้อมูลที่ได้รับมาประมวลอีกครั้งก่อนรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และร่วมประชุมคณะทำงานเพื่อวางแผนการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ส่วนการสอบปากคำ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ และ รมช.พาณิชย์ ยังคงเป็นไปตามกำหนดนัดหมายซึ่งทาง พ.ต.ท.บรรยินขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวนเป็นวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ เวลา 09.30 น.โดยจะมีการสอบถามในประเด็นความสัมพันธ์กับ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล และ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด และยังรับงานเป็นพริตตี้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการตรวจสอบลายเซ็นในเอกสารที่เกี่ยวข้อง พ.ต.อ.จิรภพกล่าวว่า ในส่วนของลายเซ็นในเอกสารต่างๆ ทางพนักงานสอบสวนได้นำส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้ตรวจสอบแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการคาดว่าไม่นานก็จะตรวจสอบเสร็จสิ้นและส่งผลกลับมายังพนักงานสอบสวน ขณะที่คลิปเสียงของนายชูวงษ์ คงไม่มีการตรวจพิสูจน์จากทาง พฐ.เนื่องจากไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานที่ใช้ยืนยันในชั้นศาลได้ โดยเจ้าหน้าที่จะใช้วิธีเรียกคู่สนทนาของผู้เสียชีวิต ที่อยู่ในคลิปเสียงมาสอบสวนเพื่อยืนยันว่าเป็นเจ้าของเสียงจริงหรือไม่ ก่อนนำไปประกอบสำนวนการสอบสวน
ต่อข้อถามถึงผลการตรวจสอสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ว่าเกิดจากอุบัติเหตุจะมีผลกระทบต่อการสอบสวนในส่วนของ บก.ป.หรือไม่ พ.ต.อ.จิรภพกล่าวว่า กรณีของการรื้อฟื้นคดีเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นคงไม่มีผลต่อการสอบสวนในส่วนที่พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.ดำเนินการอยู่ และทาง บก.ป.จะรับผิดชอบในประเด็นที่ญาติของนายชูวงษ์ ร้องทุกข์ขอให้ตรวจสอบเรื่องการโอนหุ้นของผู้เสียชีวิตไปยังบุคคลที่ 3 ก่อนจะเสียชีวิต เนื่องจากพบพิรุธเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี 3 ราย ในประเด็นการโอนหุ้นของนายชูวงษ์เสร็จสิ้นแล้ว ทั้งหมดได้เดินทางกลับออกไปทันทีโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอทำข่าวแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนประเด็นการสอบปากคำนั้น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของขั้นตอนการโอนหุ้น ซึ่งโดยปกติการโอนหุ้นนั้นเมื่อเจ้าของพอร์ตหรือเจ้าของหุ้นมีความประสงค์ที่จะโอนหุ้นให้กับใครก็จะทำเอกสาร ก่อนส่งเอกสารให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดหรือโบรกเกอร์ที่รับผิดชอบ ก่อนที่จะส่งเอกสารให้กับหัวหน้าฝ่ายการตลาด จากนั้นก็จะส่งให้กับแผนกที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ทำการตรวจสอบเอกสารว่าลายเซ็นถูกต้องหรือไม่ ก่อนที่จะมีการโทรศัพท์ไปยังเจ้าของหุ้นเพื่อยืนยันการทำธุรกรรมและอนุมัติการทำธุรกรรมต่อไป
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าหลังจากที่วานนี้ชุดสืบสวนได้นำกำลังไปตรวจค้น 2 จุดประกอบไปด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด มหาชน และ บมจ.หลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค ประเทศไทย จำกัดมหาชน โดยในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ขอเอกสารการดำเนินธุรกรรมของบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด มหาชน และบมจ.หลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค ประเทศไทย จำกัดมหาชน ที่เกี่ยวข้องกับนายชูวงษ์ทั้งหมด ทั้งนี้ทางบ.เออีซี ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทส่งเอกสารให้ในภายหลัง โดยให้เหตุผลว่าบริษัทปิดทำการแล้ว รวมทั้งนาย พิสิษฐ์ ตันวนรัตน์สกุล หรือ โจ๊ก เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดที่ดูแลหุ้นนายชูวงษ์ ก็จะเดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ในวันนี้ (28 ก.ค. ) เวลา 17.00น.
ส่วน บ.อาร์เอชบี โอเอสเค ได้ทำการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดทั้งหมด เพื่อความชัดเจนในคดีนี้ รายงานข่าวแจ้งอีกว่าเจ้าหน้าที่ได้เน้นสอบปากคำเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของบมจ.หลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค ประเทศไทย จำกัดมหาชน ทั้งน.ส.โบว์ และน.ส.เกด ในเรื่องของการทำธุรกรรมของนายชูวงษ์ โดยน.ส.โบว์เป็นผู้ดำเนินการทำเอกสาร และน.ส.เกดเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดที่ดูแลหุ้นของนายชูวงษ์ เบื้องต้นทั้งสองให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี อย่างไรก็ตามในวันนี้เตรียมประสานข้อมูลกับทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ (ก.ล.ต.) ในประเด็นเรื่องขั้นตอนการโอนหุ้นหรือการทำธุรกรรมว่าโดยปกติโบรกเกอร์สามารถโอนหุ้นที่ไม่ใช่ลูกค้าที่ตัวเองดูแลได้หรือไม่ ซึ่งประเด็นนี้อยู่ระหว่างการขอข้อมูลขั้นตอนกับทางก.ล.ต. เพื่อความชัดเจนอีกครั้ง
วันนี้ (28 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. เปิดเผยความคืบหน้าคดีนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ว่าพนักงานสอบสวนได้เชิญเจ้าหน้าที่บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี 3 ราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ไปยัง น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล แคดดี้สาว รวมมูลค่า 228 ล้านบาท โดยจะสอบถามในประเด็นเกี่ยวกับขั้นตอนการโอนหุ้นอย่างละเอียด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วกว่า 10 ปาก แต่ยังมีผู้ที่จะต้องเชิญตัวมาสอบถามข้อมูลอีกจำนวนหนึ่ง และยังคงเป็นประเด็นเกี่ยวกับการโอนหุ้น โดยคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะสอบปากคำเสร็จสิ้น
พ.ต.อ.จิรภพกล่าวต่อว่า หลังจากสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไว้แล้วก็จะนำข้อมูลที่ได้รับมาประมวลอีกครั้งก่อนรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และร่วมประชุมคณะทำงานเพื่อวางแผนการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ส่วนการสอบปากคำ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ และ รมช.พาณิชย์ ยังคงเป็นไปตามกำหนดนัดหมายซึ่งทาง พ.ต.ท.บรรยินขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวนเป็นวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ เวลา 09.30 น.โดยจะมีการสอบถามในประเด็นความสัมพันธ์กับ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล และ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด และยังรับงานเป็นพริตตี้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการตรวจสอบลายเซ็นในเอกสารที่เกี่ยวข้อง พ.ต.อ.จิรภพกล่าวว่า ในส่วนของลายเซ็นในเอกสารต่างๆ ทางพนักงานสอบสวนได้นำส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้ตรวจสอบแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการคาดว่าไม่นานก็จะตรวจสอบเสร็จสิ้นและส่งผลกลับมายังพนักงานสอบสวน ขณะที่คลิปเสียงของนายชูวงษ์ คงไม่มีการตรวจพิสูจน์จากทาง พฐ.เนื่องจากไม่สามารถนำมาเป็นหลักฐานที่ใช้ยืนยันในชั้นศาลได้ โดยเจ้าหน้าที่จะใช้วิธีเรียกคู่สนทนาของผู้เสียชีวิต ที่อยู่ในคลิปเสียงมาสอบสวนเพื่อยืนยันว่าเป็นเจ้าของเสียงจริงหรือไม่ ก่อนนำไปประกอบสำนวนการสอบสวน
ต่อข้อถามถึงผลการตรวจสอสาเหตุการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ว่าเกิดจากอุบัติเหตุจะมีผลกระทบต่อการสอบสวนในส่วนของ บก.ป.หรือไม่ พ.ต.อ.จิรภพกล่าวว่า กรณีของการรื้อฟื้นคดีเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นคงไม่มีผลต่อการสอบสวนในส่วนที่พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.ดำเนินการอยู่ และทาง บก.ป.จะรับผิดชอบในประเด็นที่ญาติของนายชูวงษ์ ร้องทุกข์ขอให้ตรวจสอบเรื่องการโอนหุ้นของผู้เสียชีวิตไปยังบุคคลที่ 3 ก่อนจะเสียชีวิต เนื่องจากพบพิรุธเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี 3 ราย ในประเด็นการโอนหุ้นของนายชูวงษ์เสร็จสิ้นแล้ว ทั้งหมดได้เดินทางกลับออกไปทันทีโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอทำข่าวแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนประเด็นการสอบปากคำนั้น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของขั้นตอนการโอนหุ้น ซึ่งโดยปกติการโอนหุ้นนั้นเมื่อเจ้าของพอร์ตหรือเจ้าของหุ้นมีความประสงค์ที่จะโอนหุ้นให้กับใครก็จะทำเอกสาร ก่อนส่งเอกสารให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดหรือโบรกเกอร์ที่รับผิดชอบ ก่อนที่จะส่งเอกสารให้กับหัวหน้าฝ่ายการตลาด จากนั้นก็จะส่งให้กับแผนกที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ทำการตรวจสอบเอกสารว่าลายเซ็นถูกต้องหรือไม่ ก่อนที่จะมีการโทรศัพท์ไปยังเจ้าของหุ้นเพื่อยืนยันการทำธุรกรรมและอนุมัติการทำธุรกรรมต่อไป
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่าหลังจากที่วานนี้ชุดสืบสวนได้นำกำลังไปตรวจค้น 2 จุดประกอบไปด้วย บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด มหาชน และ บมจ.หลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค ประเทศไทย จำกัดมหาชน โดยในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ขอเอกสารการดำเนินธุรกรรมของบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด มหาชน และบมจ.หลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค ประเทศไทย จำกัดมหาชน ที่เกี่ยวข้องกับนายชูวงษ์ทั้งหมด ทั้งนี้ทางบ.เออีซี ได้ขอให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทส่งเอกสารให้ในภายหลัง โดยให้เหตุผลว่าบริษัทปิดทำการแล้ว รวมทั้งนาย พิสิษฐ์ ตันวนรัตน์สกุล หรือ โจ๊ก เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดที่ดูแลหุ้นนายชูวงษ์ ก็จะเดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ในวันนี้ (28 ก.ค. ) เวลา 17.00น.
ส่วน บ.อาร์เอชบี โอเอสเค ได้ทำการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดทั้งหมด เพื่อความชัดเจนในคดีนี้ รายงานข่าวแจ้งอีกว่าเจ้าหน้าที่ได้เน้นสอบปากคำเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของบมจ.หลักทรัพย์ อาร์เอชบี โอเอสเค ประเทศไทย จำกัดมหาชน ทั้งน.ส.โบว์ และน.ส.เกด ในเรื่องของการทำธุรกรรมของนายชูวงษ์ โดยน.ส.โบว์เป็นผู้ดำเนินการทำเอกสาร และน.ส.เกดเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดที่ดูแลหุ้นของนายชูวงษ์ เบื้องต้นทั้งสองให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี อย่างไรก็ตามในวันนี้เตรียมประสานข้อมูลกับทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ (ก.ล.ต.) ในประเด็นเรื่องขั้นตอนการโอนหุ้นหรือการทำธุรกรรมว่าโดยปกติโบรกเกอร์สามารถโอนหุ้นที่ไม่ใช่ลูกค้าที่ตัวเองดูแลได้หรือไม่ ซึ่งประเด็นนี้อยู่ระหว่างการขอข้อมูลขั้นตอนกับทางก.ล.ต. เพื่อความชัดเจนอีกครั้ง