นายสมหวัง ปานสุขสาร ผู้อำนวยการเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน หนึ่งในเขื่อนสำคัญในพื้นที่ภาคเหนือว่า ในช่วง2-3วันที่ผ่านมา ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก เกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เหนือเขื่อนอย่างเช่น อ.ชาติตระการ นครไทย พรหมพิราม และ อ.วัดโบสถ์ ส่งผลให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนแควน้อยจำนวน 20 ล้านลูกบาศก์เมตร และนับเป็นวันที่ 2 ต่อเนื่อง ที่เขื่อนแควน้อยมีน้ำเข้ามาในเขื่อนมากกว่าระดับน้ำที่ปล่อยออกไปคือ 17.280 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน
ส่วนที่ทางกรมชลประทานมีมาตรการในการลดการส่งน้ำให้เกษตรกรนั้น เนื่องจากมีรอบการส่งน้ำช่วยเหลือเกษตรกรทำให้ในเวลานี้ยังไม่สามารถหยุดหรือลดการปล่อยน้ำลงได้ ทางเขื่อนแควน้อยจำเป็นต้องส่งน้ำเท่าเดิมไปจนถึงวันที่1 สิงหาคมนี้ และหลังจากวันที่ 1 สิงหาคมจะปรับลดการปล่อยน้ำเหลือเพียงวันละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ยังเตือนเกษตรกรให้ใช้น้ำอย่างประหยัด และระมัดระวังงดการกักตุนใช้น้ำเพียง หล่อเลี้ยงพืชผลทางการเกษตรให้อยู่ได้รักษาผลผลิตให้ได้รับความเสียหายน้อยที่สุด เนื่องจากพื้นที่ชลประทานเขื่อนแควน้อยมีการทำนา และปลูกพืชอายุสั้นกว่า 140,000 ไร่
สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำในเขื่อนแควน้อย 99.110 ล้านลูกบาศก์เมตรแล้ว จากปริมาณน้ำที่สามารถรับเพิ่มได้ 839.890 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ภายในเขื่อนเหลือปริมาณน้ำเพียง 10.55 % จากความจุของตัวเขื่อนเท่ากับว่า ขณะนี้เขื่อนมีน้ำที่สามารถใช้การได้เพียงร้อยละ 5.98 เท่านั้น
ส่วนที่ทางกรมชลประทานมีมาตรการในการลดการส่งน้ำให้เกษตรกรนั้น เนื่องจากมีรอบการส่งน้ำช่วยเหลือเกษตรกรทำให้ในเวลานี้ยังไม่สามารถหยุดหรือลดการปล่อยน้ำลงได้ ทางเขื่อนแควน้อยจำเป็นต้องส่งน้ำเท่าเดิมไปจนถึงวันที่1 สิงหาคมนี้ และหลังจากวันที่ 1 สิงหาคมจะปรับลดการปล่อยน้ำเหลือเพียงวันละ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร
อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ยังเตือนเกษตรกรให้ใช้น้ำอย่างประหยัด และระมัดระวังงดการกักตุนใช้น้ำเพียง หล่อเลี้ยงพืชผลทางการเกษตรให้อยู่ได้รักษาผลผลิตให้ได้รับความเสียหายน้อยที่สุด เนื่องจากพื้นที่ชลประทานเขื่อนแควน้อยมีการทำนา และปลูกพืชอายุสั้นกว่า 140,000 ไร่
สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำในเขื่อนแควน้อย 99.110 ล้านลูกบาศก์เมตรแล้ว จากปริมาณน้ำที่สามารถรับเพิ่มได้ 839.890 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ภายในเขื่อนเหลือปริมาณน้ำเพียง 10.55 % จากความจุของตัวเขื่อนเท่ากับว่า ขณะนี้เขื่อนมีน้ำที่สามารถใช้การได้เพียงร้อยละ 5.98 เท่านั้น
