พิษณุโลก - กลุ่มชาวนาพรหมพิรามรวมตัวร้องอัยการคุ้มครองสิทธิฯ หลังขนข้าวขายโรงสีตั้งแต่ตุลาคม 57 จนถึงวันนี้ยังไม่ได้เงิน เผยเคยแจ้งความ-ร้องทุกข์หลายหน่วยงานแล้ว อีกทั้งตำรวจเรียกมาไกล่เกลี่ย เถ้าแก่โรงสีรับปากผ่อนจ่ายให้อาทิตย์ละหมื่น ผ่านมา 6 เดือนแล้วยังไม่เป็นผล
วันนี้ (19 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาในพื้นที่ ม.2 ม.3 ม.4 ม.5 ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก กว่า 20 คน เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพิษณุโลก กรณีนำข้าวไปขายให้แก่โรงสีแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.พรหมพิราม แต่ยังไม่ได้รับเงิน หลังเคยร้องไปยังหลายหน่วยงานแล้วก็ยังไม่สามารถบังคับให้จ่ายเงินค่าข้าวให้แก่ชาวนาได้
นางนิยม หลวงอุดร อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 379 ม.5 ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ตนและเพื่อนบ้านรวม 8 รายเก็บเกี่ยวข้าวและนำไปขายให้โรงสีแห่งหนึ่งที่หมู่ 2 ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เมื่อเดือนตุลาคม 57 โดยทางโรงสีได้รับซื้อข้าว-นัดจ่ายเงินในเดือนพฤศจิกายน 57 รวมมูลค่ากว่า 840,000 บาท แต่ก็ผิดนัดตลอดมา
จากนั้นตนและชาวนารายอื่นได้เข้าไปแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกมาไกล่เกลี่ยในวันที่ 21 ธันวาคม 57 โดยมีตัวแทนจากโรงสีดังกล่าวรับปากว่าจะจ่ายเงินให้ชาวนารายละ 1 หมื่นบาทในทุกๆ สัปดาห์จนกว่าจะครบตามจำนวนที่ค้างไว้ แต่จนถึงปัจจุบันผ่านมากว่า 6 เดือนแล้วชาวนาทั้งหมดก็ยังไม่ได้รับเงินจากโรงสีอีกเลย
นางนิยมกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีชาวนาอีกกว่า 40 รายที่ขายข้าวให้ทางโรงสีแล้วยังไม่ได้เงินเช่นกัน คิดเป็นจำนวนเงินไม่ต่ำกว่าล้านบาท จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินจากการขายข้าว เนื่องจากชาวนาต่างไม่มีเงินใช้หนี้ ธ.ก.ส. และหนี้สินค่าปุ๋ย ค่ายา อีกทั้งเงินลงทุนในการทำนาครั้งใหม่ในปีนี้ยังไม่มีอีกด้วย
“ขณะนี้ชาวนาทุกคนเครียดมากเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายข้าวต้องนำไปลงทุนทำนาครั้งใหม่ และต้องนำไปใช้หนี้ ธ.ก.ส.ที่กู้ยืมมาอีก พวกเราไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว จึงเข้ามาร้องขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานอัยการฯ”
ต่อมานางสิตางศ์ ตั้งศิริ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายบังคับคดีจังหวัดพิษณุโลก ได้รับเรื่องร้องทุกข์เอาไว้ ซึ่งขั้นตอนต่อไปคือ ต้องทำหนังสือเรียกโรงสีข้าวมาเจรจาและประนอมหนี้ พร้อมทั้งจะจัดหาทนายความอาสาให้ชาวนา เพื่อเป็นการบังคับคดีให้ทางโรงสีชำระเงินที่ค้างจ่ายแก่ชาวนาพร้อมดอกเบี้ยต่อไป