บุรีรัมย์ - อ่างเก็บน้ำหนองทะลอก แหล่งน้ำดิบผลิตประปาและทำการเกษตรเนื้อที่กว่า 400 ไร่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ วิกฤตแห้งขอดจนกลายสภาพเป็นทุ่งหญ้า ส่งผลกระทบไม่สามารถสูบน้ำไปผลิตประปาหล่อเลี้ยงประชาชนในเขตอำเภอนางรอง นาข้าวหลายพันไร่ทยอยยืนต้นตาย พืชผักอายุสั้นที่ปลูกขายเหี่ยวเฉา
วันนี้ (7 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อ่างเก็บน้ำหนองทะลอก ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำดิบที่ใช้ผลิตประปาหล่อเลี้ยงประชาชนในเขตอำเภอนางรอง และทำการเกษตร เนื้อที่อ่างทั้งหมดกว่า 400 ไร่ เกิดวิกฤตแห้งขอดสุดในรอบ 40 ปี ปัจจุบันกลายสภาพเป็นทุ่งหญ้าจนไม่สามารถสูบขึ้นไปผลิตประปาได้
ทำให้ทางการประปาฯ ต้องสูบผันน้ำจากลำน้ำมาศระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร มาใช้ในการผลิตประปาแทนเพื่อป้องกันการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค แต่ขณะนี้น้ำในลำน้ำมาศก็มีสภาพตื้นเขินลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าหากฝนไม่ตกจะใช้ทำประปาได้อีกเพียง 1 เดือนเท่านั้น
ส่วนนาข้าวของเกษตรกรที่ใช้น้ำจากอ่างหนองทะลอกในการเพาะปลูก 14 หมู่บ้านจำนวนหลายพันไร่ กำลังประสบปัญหาขาดน้ำทยอยยืนต้นตายแล้ว และคาดว่าหากฝนไม่ตกลงมาหล่อเลี้ยงภายใน 1 เดือนก็จะแห้งตายเสียหายเป็นวงกว้าง
นอกจากนี้ สภาพอ่างเก็บน้ำหนองทะลอกที่แห้งขอดยังส่งผลกระทบต่อชาวบ้านที่มีอาชีพเก็บดอกบัว ฝักบัวขาย รวมถึงปลูกพืชผักอายุสั้น เช่น ถั่วฝักยาว ผักกาด มะเขือ เพื่อเป็นรายได้เสริม ก็มีสภาพเหี่ยวเฉาไม่ได้ผลผลิตเท่าที่ควร
ด้านนายเมือง มาตา อายุ 65 ปี ชาวบ้านบ้านหนองเสม็ด ต.นางรอง อ.นางรอง บอกว่า ปีนี้น้ำในอ่างเก็บน้ำหนองทะลอกวิกฤตสุดในรอบกว่า 40 ปี เนื่องจากมีฝนตกน้อยและไม่ได้มีการขุดลอกมานานหลายปีแล้ว จนกลายสภาพเป็นทุ่งหญ้า ทำให้ส่งผลกระทบต่อน้ำผลิตประปาและน้ำในการทำการเกษตร โดยเฉพาะนาข้าวใน 5 หมู่บ้านรอบพื้นที่อ่างกว่า 2,000 ไร่ ประสบปัญหาขาดน้ำหล่อเลี้ยงเกษตรกรต้องปล่อยให้ยืนต้นตายเพราะไม่รู้จะนำน้ำจากไหลมาหล่อเลี้ยง
จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือชดเชยเยียวยานาข้าวที่เสียหาย และทำการขุดลอกอ่างเก็บน้ำหนองทะลอกให้สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภคและทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี