บุรีรัมย์ - ภัยแล้ง อ.สตึกน่าห่วง หลังหนองหัวช้างเนื้อที่กว่า 32 ไร่ แหล่งผลิตประปาและทำการเกษตร 2 อำเภอตื้นเขินใกล้แห้งขอด เกษตรกรไม่กล้าสูบน้ำขึ้นไปทำนาจนต้องปล่อยยืนต้นตาย เกรงน้ำจะไม่เพียงพอผลิตประปา วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ
วันนี้ (28 มิ.ย.) สถานการณ์ภัยแล้งที่จังหวัดบุรีรัมย์ขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดหนองหัวช้าง บ.ลิ้นเกี่ย ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหนองน้ำขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 32 ไร่ อยู่ในพื้นที่ของอ่างเก็บน้ำลำตะโคง ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดกว่า 1,000 ไร่ โดยหนองหัวช้างดังกล่าวเป็นแหล่งน้ำดิบผลิตประปา และทำการเกษตรใน 2 อำเภอ คือ อ.สตึก และ อ.แคนดง มีสภาพตื้นเขิน แห้งขอด เนื่องจากฝนตกน้อยและทิ้งช่วง ทำให้เกษตรกรที่เพาะปลูกข้าวใกล้หนองหัวช้างไม่กล้าที่จะสูบน้ำเข้านาข้าว เพราะเกรงว่าน้ำที่เหลืออยู่เพียงประมาณ 10% ของความจุจะไม่เพียงพอผลิตประปาหล่อเลี้ยงประชาชนทั้ง 2 อำเภอได้ตลอดฤดูแล้ง จึงปล่อยให้ต้นข้าวที่หว่านไว้เหี่ยวเฉาและยืนต้นตาย
คาดว่าภายใน 2 เดือนน้ำที่เหลืออยู่ก็จะแห้งขอดจนไม่สามารถสูบขึ้นไปทำประปาได้อย่างแน่นอน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านจึงได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาสำรวจช่วยเหลือทั้งในเบื้องต้น โดยการทำฝนหลวง หรือขุดลอกหนองหัวช้างดังกล่าวให้สามารถกักเก็บน้ำได้เพิ่มขึ้น เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรในระยะยาวด้วย
นายประสิทธิ์ แตร่งยอดรัมย์ อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านลิ้นเกี่ย กล่าวว่า หนองน้ำดังกล่าวมีมาตั้งแต่ก่อตั้งหมู่บ้าน แต่ไม่เคยมีการขุดลอกเลย ทำให้ปัจจุบันมีสภาพตื้นเขินและแห้งขอดที่สุดในรอบหลายปี ทำให้เกษตรกรที่อาศัยน้ำจากหนองน้ำดังกล่าวทำนาไม่กล้าจะสูบน้ำขึ้นไปใส่นาข้าว เพราะเกรงน้ำจะไม่เพียงพอผลิตประปาทั้ง 2 อำเภอได้ตลอดหน้าแล้งนี้ จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาสำรวจช่วยเหลือด้วย
ด้านนายภควุฒิ เที่ยงธรรม อายุ 48 ปี ชาวบ้านบ้านลิ้นเกี่ย กล่าวว่า พื้นที่ของอ่างเก็บน้ำลำตะโคงมีมากกว่า 1,000 ไร่ แต่หนองหัวช้างมีพื้นที่ 32 ไร่ ขณะนี้มีสภาพตื้นเขิน บางจุดแห้งขอด สร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรที่มีอาชีพทำนา เพราะไม่สามารถสูบน้ำไปเพาะปลูกข้าวได้ จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาสำรวจขุดลอกหนองน้ำดังกล่าวให้สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้อุปโภคบริโภค และทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและเกษตรกรด้วย