นายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเมอร์สในไทย ว่า ขณะนี้สถานการณ์มีแนวโน้มความเสี่ยงลดลง ไม่พบผู้ป่วย หรือผู้ต้องสงสัยรายใหม่ โดยสำหรับอาการของชายชาวตะวันออกกลางอายุ 75 ปี ที่ติดเชื้อรายแรกของไทย อาการโดยรวมดีขึ้นตามลำดับ รวมถึงผู้สัมผัสผู้ป่วยทั้ง 163 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึงญาติของผู้ป่วยจำนวน 3 ราย ที่จัดว่าเป็นผู้สัมผัสความเสี่ยงสูง อาการโดยรวมยังปกติ ไม่พบไข้ แต่ทั้งนี้ยังต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์เป็นระยะเวลา 14 วัน หรือจนถึงวันที่ 2 กรกฎาคม ซึ่งหากผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อ ก็สามารถเดินทางกลับได้
นายแพทย์วชิระ ยังกล่าวด้วยว่า ขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยของกระทรวงสาธารณสุข สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 1-7 ราย และผู้ป่วยแต่ละราย จะมีผู้สัมผัสประมาณ 50 คน แต่หากมีผู้ป่วยหรือผู้สัมผัสมากกว่านี้ ก็จะมีการประสานความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยและกองทัพ ในการจัดหาสถานที่ เพื่อดูแลผู้ป่วยและผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงต่อไป ขณะเดียวกัน ยังจะมีการขอความร่วมมือกับสถานพยาบาลเอกชนในการคัดกรองผู้ป่วย รวมถึงระบบการส่งต่อ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ
ทั้งนี้ ยืนยันว่า แม้สถานการณ์โดยรวม ความเสี่ยงของโรคจะลดลง แต่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะยังคงมาตรการการป้องกันอย่างเข้มข้น โดยให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศและมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก
ด้านนายแพทย์ศุภมิตร ชุณห์สุทธิวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวถึงการดูแลคนไทยเชื้อสายมุสลิมที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม ว่า เบื้องต้นจะมีการให้ความรู้ในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรค รวมถึงจัดส่งทีมแพทย์เข้าไปร่วมในขณะเดินทาง และเมื่อเดินทางถึงไทย ก็จะมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิดเป็นเวลา 30 วัน เพื่อป้องกันการนำเชื้อเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย
ขณะที่นายเกริกไกร สงธานี นายอำเภอเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ยืนยันไม่พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสเมอร์สในพื้นที่เกาะพะงัน และเกาะเต่า ตามที่มีการปล่อยข่าวทางสังคมออนไลน์ว่ามีนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษรายหนึ่ง เดินทางมากับสายการบินโอมานแอร์ เที่ยวเดียวกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเมอร์ส ระบุประสานกับผู้ประกอบการโรงแรม สมาคมโรงแรมเกาะพะงัน เพื่อให้ช่วยกันตรวจสอบแล้วไม่พบ ชี้สั่งการให้ผู้นำชุมชน ผู้ประกอบการในพื้นที่ ให้ช่วยกันเฝ้าระวังอยู่ก่อนแล้ว จึงไม่อยากให้ประชาชนหลงเชื่อข่าวลือ
นายแพทย์วชิระ ยังกล่าวด้วยว่า ขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยของกระทรวงสาธารณสุข สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 1-7 ราย และผู้ป่วยแต่ละราย จะมีผู้สัมผัสประมาณ 50 คน แต่หากมีผู้ป่วยหรือผู้สัมผัสมากกว่านี้ ก็จะมีการประสานความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยและกองทัพ ในการจัดหาสถานที่ เพื่อดูแลผู้ป่วยและผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงต่อไป ขณะเดียวกัน ยังจะมีการขอความร่วมมือกับสถานพยาบาลเอกชนในการคัดกรองผู้ป่วย รวมถึงระบบการส่งต่อ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ
ทั้งนี้ ยืนยันว่า แม้สถานการณ์โดยรวม ความเสี่ยงของโรคจะลดลง แต่กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะยังคงมาตรการการป้องกันอย่างเข้มข้น โดยให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศและมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก
ด้านนายแพทย์ศุภมิตร ชุณห์สุทธิวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวถึงการดูแลคนไทยเชื้อสายมุสลิมที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม ว่า เบื้องต้นจะมีการให้ความรู้ในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันโรค รวมถึงจัดส่งทีมแพทย์เข้าไปร่วมในขณะเดินทาง และเมื่อเดินทางถึงไทย ก็จะมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิดเป็นเวลา 30 วัน เพื่อป้องกันการนำเชื้อเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย
ขณะที่นายเกริกไกร สงธานี นายอำเภอเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ยืนยันไม่พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสเมอร์สในพื้นที่เกาะพะงัน และเกาะเต่า ตามที่มีการปล่อยข่าวทางสังคมออนไลน์ว่ามีนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษรายหนึ่ง เดินทางมากับสายการบินโอมานแอร์ เที่ยวเดียวกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเมอร์ส ระบุประสานกับผู้ประกอบการโรงแรม สมาคมโรงแรมเกาะพะงัน เพื่อให้ช่วยกันตรวจสอบแล้วไม่พบ ชี้สั่งการให้ผู้นำชุมชน ผู้ประกอบการในพื้นที่ ให้ช่วยกันเฝ้าระวังอยู่ก่อนแล้ว จึงไม่อยากให้ประชาชนหลงเชื่อข่าวลือ
