ปัตตานี - สสจ.ปัตตานี เรียกประชุม ผอ.โรงพยาบาลทุกแห่งเพื่อเตรียมรับมือโรคเมอร์ส พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จะต้องเดินทางไปแสวงบุญที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคเมอร์สกลับมายังไทย
วันนี้ (22 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี นายแพทย์บรรเจิด สุขพิพัฒปานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ได้เรียกประชุมผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุกแห่ง เพื่อเตรียมความพร้อมของสถานที่ อุปกรณ์ และบุคลากร รวมถึงวางแผนงานการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเมอร์ส เนื่องจากขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วงประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จะต้องเดินทางไปแสวงบุญ หรือไปประกอบพิธีฮัจญ์ รวมไปถึงกลุ่มที่ไปอุมเราะห์ ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย หรือตะวันออกกลาง เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคเมอร์สกลับมายังประเทศไทย ทั้งนี้ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานีจึงต้องมีการระดมวางแผนป้องกัน และรับมือหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
นายแพทย์บรรเจิด สุขพิพัฒปานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนมีความเป็นห่วงประชาชนที่นับถือศาสนาอิสลามในพื้นที่ จ.ปัตตานี โดยเฉพาะผู้ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ หรือไปแสวงบุญที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งปีนี้มีมากกว่า 2 พันคน นอกจากนี้ยังมีผู้ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์อีกจำนวนมากที่จะเดินทาง ซึ่งเราก็ไม่รู้จำนวนที่ชัดเจน เพราะอุมเราะห์ใครมีเงินซื้อทัวร์ก็ไปได้ และนี่คือปัญหาใหญ่ที่สุดของเรา เพราะปีที่ผ่านมา เราสามารถตามผู้ที่กลับจากทำพิธีฮัจญ์ได้มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ต่างจากผู้ที่ไปอุมเราะห์ที่ตามได้เพียง 100 คน ซึ่งจะเห็นได้ว่ามันพร้อมที่จะเกิดปัญหา
เนื่องจากผู้ที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์เราจะรู้ล่วงหน้าโดยการประสานงานกับกรมการศาสนา ซึ่งผู้ไปฮัจญ์ก็จะมีการอบรมตรวจร่างกายครั้งใหญ่ก่อนจะเดินทาง โดยจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดัน เบาหวาน และโรคหัวใจ 2.กลุ่มที่ไม่มีโรคประจำตัว โดยทั้ง 2 กลุ่มก่อนจะเดินทางจะได้รับข้อแนะนำจากแพทย์ในการปฏิบัติตัว แจกอุปกรณ์ที่สำคัญขณะปฏิบัติศาสนกิจ เช่น ผ้าปิดปากปิดจมูก เจลล้างมือ ยาสามัญประจำบ้าน และขณะประกอบพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบียก็จะมีคณะทีมแพทย์ พยาบาลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด และเมื่อกลับมาแล้วก็จะมีทีมสาธารสุขคอยติดตามตรวจร่างกายอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ว่าใครมีอาการ หรือรู้ตัวว่ามีอาการเจ้าหน้าที่ก็จะรีบนำตัวไปรักษาทันที ซึ่งตนยอมรับว่าโอกาสติดเชื้อมี เพราะโรคนี้เป็นเชื้อไวรัสติดต่อหายใจ แม้กระทั่งละอองจากการจาม การหายใจ หรือการสัมผัสโดยตรง โอกาสที่จะติดเชื้อมีแน่นอน และหากพบเชื้อหลังจากกลับมาไทยแล้ว ทางกระทรวงสาธารณสุขก็มีความพร้อมอย่างเต็มที่ทั้งการป้องกัน และรับมือ เช่น 1.โรงพยาบาลระดับจังหวัด หรือโรงพยาบาลศูนย์ แม้กระทั่งโรงพยาบาลชุมชน เราก็มีห้องแยกโรคติดเชื้อที่รุนแรง ซึ่งใน จ.ปัตตานี ทุกแห่งมีความพร้อม 2.ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อตรวจเชื้อก็มีความพร้อม และ 3.ทีมงานที่มีความรู้รวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆ ก็มีความพร้อมอย่างเต็มที่
