สาธารณสุขแถลงผลตรวจเชื้อชาวต่างชาติมาจากตะวันออกกลางรอบ 2 พบว่า ป่วยเป็นโรคเมอร์ส นับเป็นรายแรกของไทย ขณะนี้อยู่ห้องแยกโรคสถาบันบำราศนราดูร อาการทรงตัว เร่งติดตามผู้สัมผัสอีก 59 ราย ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ยังไม่มีการระบาด
วันนี้ (18 มิถุนายน 2558) เวลา 18.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ แถลงข่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้เฝ้าระวังและดำเนินการคัดกรองผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจตะวันออกกลางตั้งแต่ต้นปี 36 ราย ผลเป็นลบหมด ในวันนี้ได้รับตัวผู้ป่วยยืนยันรายแรก เพศชาย ชาวตะวันออกกลาง อายุประมาณ 70 ปี ไว้รักษาที่สถาบันบำราศนราดูร
ผู้ป่วยรายนี้เดินทางมาจากประเทศในตะวันออกกลาง วันที่ 15 มิถุนายน 2558 เพื่อมารักษาโรคหัวใจ ที่โรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย เมื่อเดินทางมาถึงแล้วได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2558 และโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขและผู้เชี่ยวชาญ อย่างเข้มงวด โดยประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขล่วงหน้า พร้อมแยกผู้ป่วยและญาติไม่ปะปนกับผู้อื่น มีมาตรการป้องกันควบคุมโรค รวมถึงส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการตามแนวทางที่กำหนด และตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก จึงได้ส่งต่อมารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร เข้ารับการรักษาในห้องแยกโรค และตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันอีกครั้ง จากห้องปฏิบัติการ 2 แห่ง ผลวันที่ 18 มิถุนายน 2558 ได้ผลเป็นบวก ขณะนี้ผู้ป่วยยังรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร อาการทรงตัว
สำหรับการสอบสวนโรคติดตามผู้สัมผัสโรค 59 คน ขณะนี้ได้ดำเนินการติดตามรับตัวไว้สังเกตอาการใน โรงพยาบาลหรือให้สังเกตอาการที่บ้าน และเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบอาการทุกวัน ทั้งนี้ การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมายพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2523 ที่ได้ลงนามประกาศโรคนี้เป็นโรคติดต่ออันตรายและประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
สำหรับประชาชน อย่าได้ตระหนก ผู้ป่วยรายนี้เดินทางมาจากต่างประเทศ และประเทศเราตรวจจับได้เร็ว และระมัดระวังด้วยอยู่แล้ว ดังตัวอย่างประเทศมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ที่พบผู้ป่วยเร็วและควบคุมไม่ให้เกิดการระบาดในวงกว้างได้ ขอให้ประชาชนใช้มาตรการ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวให้งดเดินทางไปต่างประเทศที่มีการระบาด สำหรับประชาชนทั่วไป หากเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาดขอให้อย่าคลุกคลีกับผู้ป่วย และเมื่อกลับประเทศไทยภายใน 14 วัน หากมีอาการ ไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ ให้สวมหน้ากากป้องกันโรค ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที ความร่วมมือของประชาชนจะทำให้ประเทศเราควบคุมโรคนี้ได้ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (18 มิถุนายน 2558) เวลา 18.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ แถลงข่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้เฝ้าระวังและดำเนินการคัดกรองผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจตะวันออกกลางตั้งแต่ต้นปี 36 ราย ผลเป็นลบหมด ในวันนี้ได้รับตัวผู้ป่วยยืนยันรายแรก เพศชาย ชาวตะวันออกกลาง อายุประมาณ 70 ปี ไว้รักษาที่สถาบันบำราศนราดูร
ผู้ป่วยรายนี้เดินทางมาจากประเทศในตะวันออกกลาง วันที่ 15 มิถุนายน 2558 เพื่อมารักษาโรคหัวใจ ที่โรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย เมื่อเดินทางมาถึงแล้วได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2558 และโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขและผู้เชี่ยวชาญ อย่างเข้มงวด โดยประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขล่วงหน้า พร้อมแยกผู้ป่วยและญาติไม่ปะปนกับผู้อื่น มีมาตรการป้องกันควบคุมโรค รวมถึงส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการตามแนวทางที่กำหนด และตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก จึงได้ส่งต่อมารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร เข้ารับการรักษาในห้องแยกโรค และตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันอีกครั้ง จากห้องปฏิบัติการ 2 แห่ง ผลวันที่ 18 มิถุนายน 2558 ได้ผลเป็นบวก ขณะนี้ผู้ป่วยยังรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร อาการทรงตัว
สำหรับการสอบสวนโรคติดตามผู้สัมผัสโรค 59 คน ขณะนี้ได้ดำเนินการติดตามรับตัวไว้สังเกตอาการใน โรงพยาบาลหรือให้สังเกตอาการที่บ้าน และเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบอาการทุกวัน ทั้งนี้ การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมายพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2523 ที่ได้ลงนามประกาศโรคนี้เป็นโรคติดต่ออันตรายและประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว
สำหรับประชาชน อย่าได้ตระหนก ผู้ป่วยรายนี้เดินทางมาจากต่างประเทศ และประเทศเราตรวจจับได้เร็ว และระมัดระวังด้วยอยู่แล้ว ดังตัวอย่างประเทศมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ที่พบผู้ป่วยเร็วและควบคุมไม่ให้เกิดการระบาดในวงกว้างได้ ขอให้ประชาชนใช้มาตรการ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวให้งดเดินทางไปต่างประเทศที่มีการระบาด สำหรับประชาชนทั่วไป หากเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาดขอให้อย่าคลุกคลีกับผู้ป่วย และเมื่อกลับประเทศไทยภายใน 14 วัน หากมีอาการ ไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ ให้สวมหน้ากากป้องกันโรค ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที ความร่วมมือของประชาชนจะทำให้ประเทศเราควบคุมโรคนี้ได้ หากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง