นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้สมัครเข้าโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟทอป ประเภทบ้านอยู่อาศัย ในปริมาณต่ำ หลังจากที่ กกพ.ได้ออกประกาศการรับซื้อไฟฟ้าดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ - 30 มิถุนายน 2558 โดยมีรวมประมาณ 10 เมกะวัตต์เท่านั้น จากที่ประกาศรับซื้อ 78.63 เมกะวัตต์ ดังนั้น เร็วๆ นี้ กกพ.จะเพิ่มความถี่เร่งประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ แต่จากการหารือกับนายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ยืนยันว่าจะไม่มีการขยายเวลาเพิ่มเติม โดยหากจะมีการรับซื้อเพิ่ม ก็ให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดต่อไป
สำหรับประกาศ กกพ.รับซื้อไฟฟ้าโซลาร์รูฟทอปปี 2558 กำหนดให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายทำการรับซื้อไฟฟ้า กำลังผลิตไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 25 ปี และกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ซึ่งหากไม่มีการเริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้าภายในเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสิ้นสุด
สำหรับอัตราการรับซื้อไฟฟ้ากำหนดให้เป็นไปตามอัตราการรับซื้อแบบ FiT ประเภทบ้านอยู่อาศัย ในอัตรา 6.85 บาทต่อหน่วย โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถยื่นคำขอขายไฟฟ้าได้ที่ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค( กฟภ.)
ผลตอบแทนการลงทุนสูงถึงร้อยละ 8 รายได้ การขายไฟฟ้าจะได้ประมาณ 3,000 บาทต่อเดือน จากการลงทุนติดตั้งประมาณ 2-3 แสนบาท ซึ่งเป็นการลงทุนที่น่าสนใจและร่วมกันส่งเสริมพลังงานทดแทน
ด้านนายไกรสีห์ กรรรณสูตร กรรมการ กกพ. กล่าวว่า จากที่ กกพ.ได้หารือในอนุกรรมการกำหนดแผนพีดีพี 2015 หรือร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า 20 ปี (2558-2579) ในเรื่องการเพิ่มแรงจูงใจให้โรงไฟฟ้าเอกชนทั้งเอสพีพี และไอพีพี เลื่อนระยะเวลาก่อสร้างโรงไฟฟ้าออกไปเพื่อลดเรื่องกำลังผลิตไฟฟ้าสำรองส่วนเกินที่สูงมาก ในช่วงปี 2566-2568 ที่คาดว่าจะมีปริมาณสำรองไฟฟ้าสูงถึงร้อยละ 40-42 นั้น อนุกรรมการฯ ไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มแรงจูงใจ เพราะเกรงว่าต้นทุนค่าไฟฟ้าจะเพิ่มแก่ประชาชน โดยอนุกรรมการฯ ได้ตั้งสมมติฐานแผนอนุรักษ์พลังงาน โดยเห็นว่าหากทำได้ตามแผนเพียงร้อยละ 50 ก็อาจทำให้สำรองช่วงดังกล่าวลดลง โดยที่ผ่านมาจากการเจรจาเลื่อนการผลิตไฟฟ้าก็มีเอสพีพีเข้าร่วมโครงการ 3-4 ราย รวม 400-500 เมกะวัตต์ และมีโรงไฟฟ้าวังน้อยทดแทน โรง 1-2 เลื่อนไปประมาณ 5 ปี กำลังผลิตประมาณ 1,200 เมกะวัตต์
สำหรับประกาศ กกพ.รับซื้อไฟฟ้าโซลาร์รูฟทอปปี 2558 กำหนดให้การไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายทำการรับซื้อไฟฟ้า กำลังผลิตไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 25 ปี และกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ซึ่งหากไม่มีการเริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้าภายในเวลาดังกล่าว ให้ถือว่าสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสิ้นสุด
สำหรับอัตราการรับซื้อไฟฟ้ากำหนดให้เป็นไปตามอัตราการรับซื้อแบบ FiT ประเภทบ้านอยู่อาศัย ในอัตรา 6.85 บาทต่อหน่วย โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถยื่นคำขอขายไฟฟ้าได้ที่ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค( กฟภ.)
ผลตอบแทนการลงทุนสูงถึงร้อยละ 8 รายได้ การขายไฟฟ้าจะได้ประมาณ 3,000 บาทต่อเดือน จากการลงทุนติดตั้งประมาณ 2-3 แสนบาท ซึ่งเป็นการลงทุนที่น่าสนใจและร่วมกันส่งเสริมพลังงานทดแทน
ด้านนายไกรสีห์ กรรรณสูตร กรรมการ กกพ. กล่าวว่า จากที่ กกพ.ได้หารือในอนุกรรมการกำหนดแผนพีดีพี 2015 หรือร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า 20 ปี (2558-2579) ในเรื่องการเพิ่มแรงจูงใจให้โรงไฟฟ้าเอกชนทั้งเอสพีพี และไอพีพี เลื่อนระยะเวลาก่อสร้างโรงไฟฟ้าออกไปเพื่อลดเรื่องกำลังผลิตไฟฟ้าสำรองส่วนเกินที่สูงมาก ในช่วงปี 2566-2568 ที่คาดว่าจะมีปริมาณสำรองไฟฟ้าสูงถึงร้อยละ 40-42 นั้น อนุกรรมการฯ ไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มแรงจูงใจ เพราะเกรงว่าต้นทุนค่าไฟฟ้าจะเพิ่มแก่ประชาชน โดยอนุกรรมการฯ ได้ตั้งสมมติฐานแผนอนุรักษ์พลังงาน โดยเห็นว่าหากทำได้ตามแผนเพียงร้อยละ 50 ก็อาจทำให้สำรองช่วงดังกล่าวลดลง โดยที่ผ่านมาจากการเจรจาเลื่อนการผลิตไฟฟ้าก็มีเอสพีพีเข้าร่วมโครงการ 3-4 ราย รวม 400-500 เมกะวัตต์ และมีโรงไฟฟ้าวังน้อยทดแทน โรง 1-2 เลื่อนไปประมาณ 5 ปี กำลังผลิตประมาณ 1,200 เมกะวัตต์