“สกพ.” เร่งพิจารณาโครงสร้างค่าไฟฟ้าฐานใหม่ (ปี 2558-2560) หวังประกาศใช้ให้ทันภายใน พ.ค. 58 นี้ ทันรอบการพิจารณาค่า Ft งวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค. 58) แย้มข่าวดีแนวโน้มลดลงทั้งค่าไฟฐานและ Ft ส่งผลให้ค่าไฟรวมลดลงแน่นอน พร้อมเร่งประกาศข้อกำหนด TPA Code มี.ค.นี้
น.ส.นฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กกพ.กำลังพิจารณาที่จะปรับค่าไฟฟ้าฐานใหม่ระหว่างปี 2558-2560 ภายหลังจากที่ได้มีการรับฟังความเห็นผลการศึกษาไปแล้วก่อนหน้า โดยจะมาดูรายละเอียดผลกระทบต่อค่าไฟฟ้า แผนการลงทุนของ 3 การไฟฟ้า ฯลฯ ซึ่งจะพยายามเร่งสรุปเพื่อประกาศใช้ช่วง พ.ค. 58 นี้เพื่อให้สอดรับกับการพิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) รอบใหม่ (พ.ค.-ส.ค. 58) ซึ่งภาพรวมอัตราค่าไฟฟ้าฐานใหม่จะไม่ให้ปรับขึ้นและค่า Ft ใหม่เมื่อพิจารณาจากราคาเชื้อเพลิงแนวโน้มจะปรับลดลงด้วย
“ขอดูตัวเลขให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง แต่ค่าไฟฐานหากเป็นไปได้ก็จะพยายามให้ลดลงหรือไม่เปลี่ยนแปลง แต่ค่าไฟรวมจะลดลงเมื่อพิจารณาจาก Ft เพราะราคาเชื้อเพลิงจะต่ำลงจากราคาก๊าซที่สะท้อนราคาน้ำมันย้อนหลัง 6 เดือนที่เป็นราคาต่ำลง โดยโครงสร้างใหม่จะเน้นการดูแลและคุ้มครองผู้บริโภคมากขึ้น เช่น ลดเก็บค่าบริการบิลค่าไฟลงมา หลักเกณฑ์การตัดไฟฟ้ากับประชาชนที่จะต้องให้ชัดเจนเป็นมาตรฐานมากขึ้น เป็นต้น” น.ส.นฤภัทรกล่าว
นอกจากนี้ สกพ.ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางการประกาศข้อกำหนดการเปิดให้ใช้หรือเชื่อมระบบส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีแอลเอ็นจีแก่บุคคลที่ 3 (การเปิดให้ใช้หรือเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซธรรมชาติ และสถานีแอลเอ็นจีแก่บุคคลที่ 3 (Third Party Access Code) หรือที่เรียกย่อว่า TPA Code ได้ภายใน มี.ค.นี้
สำหรับความคืบหน้าการรับซื้อไฟฟ้าแสงอาทิตย์ติดตั้งบนหลังคาที่อยู่อาศัย หรือโซลาร์รูฟท็อป เพิ่มเติมล่าสุดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้ประกาศเชิญชวนรับซื้อเพิ่มอีกประมาณ 70 เมกะวัตต์ จากก่อนหน้าที่เปิดรอบแรกแล้วมีผู้มายื่นน้อยเพื่อให้ครบ 100 เมกะวัตต์ตามเป้าหมาย โดยเปิดรับตั้งแต่ 9 ก.พ.-30 มิ.ย. 58 ซึ่งล่าสุดพบว่ามีผู้มายื่น กฟน.แล้ว 0.5 เมกวัตต์ และ กฟภ. 7 เมกะวัตต์
ส่วนแผนการพิจารณารับซื้อไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนพื้นดินหรือโซลาร์ฟาร์มค้างท่อเดิมที่มีทั้งสิ้น 178 โครงการคิดเป็น 1,073 เมกะวัตต์ ซึ่ง สกพ.มีตัวแทนในคณะทำงานพิจารณาร่วมด้วยนั้น ล่าสุดมีโครงการที่กระทรวงพลังงานพิจารณารับซื้อแล้วทั้งสิ้น 50 โครงการ คิดเป็น 350 เมกะวัตต์
