นางสาวดาลัด อัศเวศน์ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายการพาณิชย์) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยถึงกรณีที่ นายโกกิ อากิ ได้โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2558 ที่ผ่านมาว่า ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ที่ให้บริการในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้เรียกเหมาราคาค่าโดยสารจากเพื่อนนายโกกินั้น เมื่อได้รับทราบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ทสภ. จึงได้มีการติดต่อประสานขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากนายโกกิ อากิ ทันที เนื่องจากในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ทสภ. ไม่ได้รับรายงานว่ามีผู้โดยสารชาวญี่ปุ่นมาร้องเรียนว่ามีการเรียกเหมาราคาแต่อย่างใด ซึ่งนายโกกิได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการให้ข้อมูลเบื้องต้น
ดังนั้นทสภ. จึงได้นำข้อมูลดังกล่าวมาตรวจสอบจากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารจัดคิวรถแท็กซี่ หรือ Taxi Kiosk และกล้องวงจรปิดพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2558 เวลาประมาณ 19.29 น. โดยเพื่อนของนายโกกิเดินทางมาพร้อมกัน 11 คน ได้ใช้บริการรถแท็กซี่แวนเขียว-เหลืองโตโยต้า อินโนว่า จำนวน 2 คัน หมายเลขทะเบียน มฎ 7111 และหมายเลขทะเบียน มฎ 995 เมื่อทราบรายละเอียดข้อมูลรถดังกล่าว ทสภ. จึงได้ติดต่อผู้ขับขี่รถแท็กซี่ทั้ง 2 คัน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง พบว่า รถแท็กซี่หมายเลขทะเบียน มฎ 7111 มีผู้ขับขี่ชื่อนายนิรุตติ์ โพธิ์ศรี รับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น 6 คน ไปส่งที่ถนนสุขุมวิท ซอย 15 โดยขอเรียกรับค่าโดยสารในราคาเหมาจ่าย รวมค่าทางด่วน เป็นเงิน 600 บาท ส่วนรถแท็กซี่หมายเลขทะเบียน มฎ 995 ผู้ขับขี่ชื่อนายพนมยงค์ แก้วอามาตย์ รับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น 5 คน ไปส่ง ณ ปลายทางเดียวกัน และขอเรียกรับค่าโดยสารในราคาเหมาจ่าย รวมค่าทางด่วน เป็นเงิน 550 บาท
สำหรับเหตุผลที่เรียกเก็บค่าโดยสารแบบเหมาจ่ายนั้น ผู้ขับขี่ทั้ง 2 คนอ้างว่ารถของตนเป็นแท็กซี่ Van ขนาดใหญ่ และผู้โดยสารมีจำนวนมากและมีสัมภาระที่ใหญ่และน้ำหนักมาก ซึ่งในขณะนั้นผู้โดยสารได้ยินยอมที่จะไปในราคาดังกล่าว อย่างไรก็ตามการเรียกรับค่าโดยสารแบบเหมาจ่ายของผู้ขับขี่รถแท็กซี่ทั้ง 2 คนดังกล่าว ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายและผิดระเบียบของ ทสภ. ที่กำหนดไว้ห้ามไม่ให้มีการเรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่ปรากฏตามมาตรมิเตอร์ค่าโดยสาร ซึ่งความผิดดังกล่าว ทสภ. ได้กำหนดบทลงโทษให้พักการให้บริการในเขต ทสภ. ตลอดไป ซึ่งในกรณีนี้ ทสภ. ได้มีการยกเลิกรหัสการให้บริการของนายนิรุตติ์ โพธิ์ศรี และนายพนมยงค์ แก้วอามาตย์ พร้อมทั้งสั่งห้ามไม่ให้เข้ามาบริการรับผู้โดยสารที่ ทสภ. ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2558 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ทสภ. มีหน้าที่ในการบริหารงานท่าอากาศยานให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย รวมทั้งการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ เพื่อรองรับการใช้บริการของผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวก สบายมากที่สุด การจัดให้มีระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อรองรับการเดินทางเข้า-ออกของผู้โดยสารเป็นเรื่องสำคัญ ทสภ. จึงได้จัดให้มีการบริการรถสาธารณะหลากหลายประเภท ทั้ง รถแท็กซี่สาธารณะ รถโดยสาร ขสมก. รถตู้โดยสาร ขสมก. รถไฟ Airport Rail Link รถลิมูซีน และรถเช่า เป็นต้น แต่การให้บริการรถยนต์รับจ้างสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ เป็นการบริการที่ ทอท. ไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการเอง
ทสภ.จำเป็นต้องเปิดรับผู้ขับขี่รถแท็กซี่มาให้บริการให้เพียงพอกับความต้องการของผู้โดยสารวันละประมาณ 10,000 เที่ยว โดยเปิดกว้างให้รถแท็กซี่ที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกอย่างถูกต้องตามกฏหมายสามารถให้บริการผู้โดยสารได้ อย่างไรก็ตาม ทสภ.ได้พยายามตรวจสอบอย่างเข้มงวดและลงโทษผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนกฎหมายและระบียบของ ทอท.อย่างจริงจัง
นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ให้ความสำคัญในการกำหนดมาตรฐานและคุณภาพของผู้ขับขี่รถแท็กซี่ให้มีบริการที่ได้มาตรฐาน
อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ทสภ. ได้ให้ความสำคัญกับการให้บริการในเรื่องดังกล่าว โดยมุ่งเน้นที่จะให้ผู้โดยสารได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็วและปลอดภัย จึงได้มีการกำหนดให้แท็กซี่ที่จะมาเข้าบริการที่ ทสภ. จะต้องมีการลงทะเบียนชื่อผู้ขับขี่ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ พร้อมได้รับการตรวจสอบว่าได้รับอนุญาตใบขับขี่สาธารณะอย่างถูกต้องตามกฏหมาย และสภาพรถได้มาตรฐานตามที่กำหนด พร้อมมีการกำหนดบทลงโทษในกรณีที่ผู้ขับขี่กระทำความผิดไว้ด้วย
โดยปัจจุบัน ทสภ. มีรถแท็กซี่ที่ขึ้นทะเบียนให้บริการจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 5,000 คัน ซึ่งถือว่าพอเพียงต่อการให้บริการ โดย ทสภ.ได้จัดจุดให้บริการรถแท็กซี่ที่อยู่ในการกำกับดูแลไว้ที่ชานชาลา ชั้น 1 บริเวณ ประตู 4 และประตู 7 รวมทั้งจัดให้มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการบริหารจัดการคิวรถแท็กซี่ ซึ่งระบบดังกล่าวนอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดคิวบริการรถแท็กซี่สาธารณะให้มีระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยังสามารถบันทึกข้อมูลการเข้า-ออกของรถแท็กซี่ที่มาให้บริการอย่างครบถ้วนตลอดเวลา เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามในกรณีที่ผู้โดยสารหลงลืมทรัพย์สินไว้บนรถ หรือไม่ได้รับความสะดวกจากการใช้บริการในด้านต่าง ๆ อาทิ การเรียกรับค่าโดยสารเป็นราคาเหมา ผู้ขับขี่ใช้วาจาไม่สุภาพ หรือสภาพรถไม่พร้อมให้บริการ ฯลฯสามารถร้องเรียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่ง ทสภ. จะได้มีการพิจารณาลงโทษตามฐานความผิดโดยการสั่งพักไม่ให้เข้ามาบริการรับผู้โดยสารตามระยะเาที่กำหนดหรือตลอดไป
นางสาวดาลัดกล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่เกิดปัญหาการใช้บริการรถแท็กซี่ของนายโกกิในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ทสภ. ได้เข้มงวดกวดขันกับผู้ขับขี่รถแท็กซี่ที่มาให้บริการใน ทสภ. เป็นอย่างมาก โดยหากตรวจพบว่ามีผู้ขับขี่รถแท็กซี่กระทำความผิดร้ายแรง จะดำเนินการสั่งลงโทษอย่างเด็ดขาดโดยการยกเลิกรหัส และห้ามไม่ให้เข้ามารับผู้โดยสารภายใน ทสภ. ได้อีก พร้อมแจ้งประสานกรมการขนส่งทางบกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป รวมทั้งยังคงมีการตั้งจุดตรวจรถแท็กซี่ ณ บริเวณชานชาลาอาคารผู้โดยสารชั้น 1 ประตู 8 เช่นเดิม โดยรถแท็กซี่ทุกคันที่รับผู้โดยสารขึ้นรถแล้ว จะต้องทำการเปิดมิเตอร์ในการให้บริการทุกครั้ง ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามมาตรการเพิ่มเติมในการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการแท็กซี่ไม่เปิดมิเตอร์หรือเรียกเก็บค่าโดยสารแบบเหมาจ่ายเกินราคาที่กฏหมายกำหนด ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ 19 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา โดยจุดดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารการขนส่ง ทสภ. และ เจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันตรวจสอบรถแท็กซี่ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่ผ่านมา ทสภ. ได้มีการทำประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดทำวิดีทัศน์แนะนำการใช้บริการรถแท็กซี่ เผยแพร่บนหน้าจอโทรทัศน์ บริเวณสายพานรับกระเป๋า การทำป้ายประชาสัมพันธ์ แผ่นพับ ฯลฯ โดยเน้นย้ำให้ผู้โดยสารทราบว่า เมื่อใช้บริการรถแท็กซี่ ณ จุดให้บริการที่ ทสภ. จัดให้ ผู้โดยสารจะต้องเก็บ Slip ตั๋วโดยสารไว้กับตัว ห้ามให้ผู้ขับขี่รถแท็กซี่เก็บไปโดยเด็ดขาด และหากผู้ใช้บริการท่านใดพบเห็น ผู้ขับขี่รถแท็กซี่รายใดมีการกระทำที่ไม่เหมาะสม อาทิ ไม่เปิดมิเตอร์ การพูดจาแสดงอาการไม่สุภาพต่อผู้ใช้บริการ การปฏิเสธผู้โดยสาร หรือกรณีหลงลืมทรัพย์สินไว้บนรถแท็กซี่ สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่ AOT Contact Center โทร. 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง และหากเกิดกรณีอย่างเพื่อนชาวญี่ปุ่นของคุณโกกิ ผู้โดยสารสามารถลงจากรถและเดินมาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ ทสภ. ที่ปฏิบัติงานตรงตู้ Taxi Kiosk หรือเจ้าหน้าที่ตรงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ณ บริเวณดังกล่าวได้ทันที เพื่อจะได้ดำเนินการยกเลิกและเปลี่ยนรถแท็กซี่คันใหม่ให้ต่อไป
ดังนั้นทสภ. จึงได้นำข้อมูลดังกล่าวมาตรวจสอบจากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารจัดคิวรถแท็กซี่ หรือ Taxi Kiosk และกล้องวงจรปิดพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2558 เวลาประมาณ 19.29 น. โดยเพื่อนของนายโกกิเดินทางมาพร้อมกัน 11 คน ได้ใช้บริการรถแท็กซี่แวนเขียว-เหลืองโตโยต้า อินโนว่า จำนวน 2 คัน หมายเลขทะเบียน มฎ 7111 และหมายเลขทะเบียน มฎ 995 เมื่อทราบรายละเอียดข้อมูลรถดังกล่าว ทสภ. จึงได้ติดต่อผู้ขับขี่รถแท็กซี่ทั้ง 2 คัน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง พบว่า รถแท็กซี่หมายเลขทะเบียน มฎ 7111 มีผู้ขับขี่ชื่อนายนิรุตติ์ โพธิ์ศรี รับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น 6 คน ไปส่งที่ถนนสุขุมวิท ซอย 15 โดยขอเรียกรับค่าโดยสารในราคาเหมาจ่าย รวมค่าทางด่วน เป็นเงิน 600 บาท ส่วนรถแท็กซี่หมายเลขทะเบียน มฎ 995 ผู้ขับขี่ชื่อนายพนมยงค์ แก้วอามาตย์ รับนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น 5 คน ไปส่ง ณ ปลายทางเดียวกัน และขอเรียกรับค่าโดยสารในราคาเหมาจ่าย รวมค่าทางด่วน เป็นเงิน 550 บาท
สำหรับเหตุผลที่เรียกเก็บค่าโดยสารแบบเหมาจ่ายนั้น ผู้ขับขี่ทั้ง 2 คนอ้างว่ารถของตนเป็นแท็กซี่ Van ขนาดใหญ่ และผู้โดยสารมีจำนวนมากและมีสัมภาระที่ใหญ่และน้ำหนักมาก ซึ่งในขณะนั้นผู้โดยสารได้ยินยอมที่จะไปในราคาดังกล่าว อย่างไรก็ตามการเรียกรับค่าโดยสารแบบเหมาจ่ายของผู้ขับขี่รถแท็กซี่ทั้ง 2 คนดังกล่าว ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายและผิดระเบียบของ ทสภ. ที่กำหนดไว้ห้ามไม่ให้มีการเรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่ปรากฏตามมาตรมิเตอร์ค่าโดยสาร ซึ่งความผิดดังกล่าว ทสภ. ได้กำหนดบทลงโทษให้พักการให้บริการในเขต ทสภ. ตลอดไป ซึ่งในกรณีนี้ ทสภ. ได้มีการยกเลิกรหัสการให้บริการของนายนิรุตติ์ โพธิ์ศรี และนายพนมยงค์ แก้วอามาตย์ พร้อมทั้งสั่งห้ามไม่ให้เข้ามาบริการรับผู้โดยสารที่ ทสภ. ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2558 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ทสภ. มีหน้าที่ในการบริหารงานท่าอากาศยานให้เป็นไปตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย รวมทั้งการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ เพื่อรองรับการใช้บริการของผู้โดยสารให้ได้รับความสะดวก สบายมากที่สุด การจัดให้มีระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อรองรับการเดินทางเข้า-ออกของผู้โดยสารเป็นเรื่องสำคัญ ทสภ. จึงได้จัดให้มีการบริการรถสาธารณะหลากหลายประเภท ทั้ง รถแท็กซี่สาธารณะ รถโดยสาร ขสมก. รถตู้โดยสาร ขสมก. รถไฟ Airport Rail Link รถลิมูซีน และรถเช่า เป็นต้น แต่การให้บริการรถยนต์รับจ้างสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ เป็นการบริการที่ ทอท. ไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการเอง
ทสภ.จำเป็นต้องเปิดรับผู้ขับขี่รถแท็กซี่มาให้บริการให้เพียงพอกับความต้องการของผู้โดยสารวันละประมาณ 10,000 เที่ยว โดยเปิดกว้างให้รถแท็กซี่ที่ได้รับใบอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบกอย่างถูกต้องตามกฏหมายสามารถให้บริการผู้โดยสารได้ อย่างไรก็ตาม ทสภ.ได้พยายามตรวจสอบอย่างเข้มงวดและลงโทษผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนกฎหมายและระบียบของ ทอท.อย่างจริงจัง
นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ให้ความสำคัญในการกำหนดมาตรฐานและคุณภาพของผู้ขับขี่รถแท็กซี่ให้มีบริการที่ได้มาตรฐาน
อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง ทสภ. ได้ให้ความสำคัญกับการให้บริการในเรื่องดังกล่าว โดยมุ่งเน้นที่จะให้ผู้โดยสารได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็วและปลอดภัย จึงได้มีการกำหนดให้แท็กซี่ที่จะมาเข้าบริการที่ ทสภ. จะต้องมีการลงทะเบียนชื่อผู้ขับขี่ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ พร้อมได้รับการตรวจสอบว่าได้รับอนุญาตใบขับขี่สาธารณะอย่างถูกต้องตามกฏหมาย และสภาพรถได้มาตรฐานตามที่กำหนด พร้อมมีการกำหนดบทลงโทษในกรณีที่ผู้ขับขี่กระทำความผิดไว้ด้วย
โดยปัจจุบัน ทสภ. มีรถแท็กซี่ที่ขึ้นทะเบียนให้บริการจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 5,000 คัน ซึ่งถือว่าพอเพียงต่อการให้บริการ โดย ทสภ.ได้จัดจุดให้บริการรถแท็กซี่ที่อยู่ในการกำกับดูแลไว้ที่ชานชาลา ชั้น 1 บริเวณ ประตู 4 และประตู 7 รวมทั้งจัดให้มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการบริหารจัดการคิวรถแท็กซี่ ซึ่งระบบดังกล่าวนอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดคิวบริการรถแท็กซี่สาธารณะให้มีระเบียบเรียบร้อยแล้ว ยังสามารถบันทึกข้อมูลการเข้า-ออกของรถแท็กซี่ที่มาให้บริการอย่างครบถ้วนตลอดเวลา เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามในกรณีที่ผู้โดยสารหลงลืมทรัพย์สินไว้บนรถ หรือไม่ได้รับความสะดวกจากการใช้บริการในด้านต่าง ๆ อาทิ การเรียกรับค่าโดยสารเป็นราคาเหมา ผู้ขับขี่ใช้วาจาไม่สุภาพ หรือสภาพรถไม่พร้อมให้บริการ ฯลฯสามารถร้องเรียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่ง ทสภ. จะได้มีการพิจารณาลงโทษตามฐานความผิดโดยการสั่งพักไม่ให้เข้ามาบริการรับผู้โดยสารตามระยะเาที่กำหนดหรือตลอดไป
นางสาวดาลัดกล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่เกิดปัญหาการใช้บริการรถแท็กซี่ของนายโกกิในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ทสภ. ได้เข้มงวดกวดขันกับผู้ขับขี่รถแท็กซี่ที่มาให้บริการใน ทสภ. เป็นอย่างมาก โดยหากตรวจพบว่ามีผู้ขับขี่รถแท็กซี่กระทำความผิดร้ายแรง จะดำเนินการสั่งลงโทษอย่างเด็ดขาดโดยการยกเลิกรหัส และห้ามไม่ให้เข้ามารับผู้โดยสารภายใน ทสภ. ได้อีก พร้อมแจ้งประสานกรมการขนส่งทางบกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป รวมทั้งยังคงมีการตั้งจุดตรวจรถแท็กซี่ ณ บริเวณชานชาลาอาคารผู้โดยสารชั้น 1 ประตู 8 เช่นเดิม โดยรถแท็กซี่ทุกคันที่รับผู้โดยสารขึ้นรถแล้ว จะต้องทำการเปิดมิเตอร์ในการให้บริการทุกครั้ง ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามมาตรการเพิ่มเติมในการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการแท็กซี่ไม่เปิดมิเตอร์หรือเรียกเก็บค่าโดยสารแบบเหมาจ่ายเกินราคาที่กฏหมายกำหนด ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ 19 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา โดยจุดดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารการขนส่ง ทสภ. และ เจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันตรวจสอบรถแท็กซี่ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่ผ่านมา ทสภ. ได้มีการทำประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดทำวิดีทัศน์แนะนำการใช้บริการรถแท็กซี่ เผยแพร่บนหน้าจอโทรทัศน์ บริเวณสายพานรับกระเป๋า การทำป้ายประชาสัมพันธ์ แผ่นพับ ฯลฯ โดยเน้นย้ำให้ผู้โดยสารทราบว่า เมื่อใช้บริการรถแท็กซี่ ณ จุดให้บริการที่ ทสภ. จัดให้ ผู้โดยสารจะต้องเก็บ Slip ตั๋วโดยสารไว้กับตัว ห้ามให้ผู้ขับขี่รถแท็กซี่เก็บไปโดยเด็ดขาด และหากผู้ใช้บริการท่านใดพบเห็น ผู้ขับขี่รถแท็กซี่รายใดมีการกระทำที่ไม่เหมาะสม อาทิ ไม่เปิดมิเตอร์ การพูดจาแสดงอาการไม่สุภาพต่อผู้ใช้บริการ การปฏิเสธผู้โดยสาร หรือกรณีหลงลืมทรัพย์สินไว้บนรถแท็กซี่ สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่ AOT Contact Center โทร. 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง และหากเกิดกรณีอย่างเพื่อนชาวญี่ปุ่นของคุณโกกิ ผู้โดยสารสามารถลงจากรถและเดินมาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ ทสภ. ที่ปฏิบัติงานตรงตู้ Taxi Kiosk หรือเจ้าหน้าที่ตรงเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ณ บริเวณดังกล่าวได้ทันที เพื่อจะได้ดำเนินการยกเลิกและเปลี่ยนรถแท็กซี่คันใหม่ให้ต่อไป
