ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย นั่งหัวโต๊ะถกปัญหาแท็กซี่ จัดกิจกรรมติดม่านบังแดด ไปทุกที่ไม่มีปฏิเสธ ขอช่วยกันสร้างภาพลักษณ์ของประเทศเพื่อสังคม ยันส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ ขู่มีแผนสุ่มตรวจ พร้อมพอใจจัดระเบียบบริการ
วันนี้ (13 มี.ค.) ที่กองทัพภาคที่ 1 พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) เป็นประธานในการประชุมติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหารถบริการสาธารณะ (รถแท็กซี่) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางบก กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการตำรวจจราจร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง และกลุ่มเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมติดม่านบังแดด “ไปทุกที่ไม่มีปฏิเสธ” พร้อมด้วยการปล่อยแถวรถแท็กซี่จำนวน 100 คัน
ทั้งนี้ พล.ท.กัมปนาทได้กล่าวตอนหนึ่งว่า รถบริการแท็กซี่ถือเป็นกิจการที่มีความสำคัญกับภาพลักษณ์ของประเทศไทย จึงขอให้ทุกคนภาคภูมิใจว่าการประกอบกิจการดังกล่าว เพื่อเป็นการบริการให้กับคนไทย ตลอดจนถึงชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย การบริการของทุกคนไม่ว่าจะเป็นในด้านดีหรือไม่ดีก็จะส่งผลต่อประเทศทั้งสิ้น หากทำดีประเทศก็จะดีไปด้วย หากทำไม่ดีประเทศชาติก็จะไม่ดี เพราะฉะนั้นทุกคนจะต้องช่วยกันในการในการสร้างภาพลักษณ์ของประเทศเพื่อให้สังคมน่าอยู่ และมีความสะดวกสบายมากขึ้น
“เราต้องการสื่อไปยังคนไทย และภาคประชาสังคม ว่าผู้ให้บริการรถแท็กซี่ได้ยึดมั่นในพันธสัญญาในการทำงานตามที่ คสช. และ กกล.รส.ได้จัดระเบียบเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 ที่ผ่านมา สำหรับปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนจากสังคมออนไลน์ กรณีแท็กซี่แต่งกายไม่เรียบร้อย ปฏิเสธผู้โดยสาร ตลอดจนการไม่กดมิตเตอร์ หรือไม่ปรับแต่งมิเตอร์ ทาง กกล.รส.ได้ร่วมกับกรมการส่งทางบก กระทรวงคมนาคม และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการร่วมแก้ไขปัญหาดังกล่าว ตลอดจนการทำข้อตกลง และการติดตามผลการปฏิบัติซึ่งภาพรวมของแท็กซี่ส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือ จะมีเพียงส่วนน้อยที่ไม่ค่อยเข้าใจจึงทำให้ปัญหาข้อร้องเรียนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เราได้มีการจัดอบรมหลักสูตรการให้บริการแท็กซี่ โดยร่วมกับ กกล.รส. กรมการขนส่งทางบก สหพันธ์แท็กซี่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการบริการให้กับประชาชน พร้อมทั้งสนองนโยบายของรัฐบาลในการเรื่องของการท่องเที่ยว จึงขอความร่วมมือกับแท็กซี่ทั่วประเทศในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทย และชาวต่างชาติในการให้บริการ ตลอดจนการยึดถือข้อตกลงตามพันธสัญญาที่ให้ไว้ เพื่อให้เกิดการบริการที่ดี และพึงพอใจกับทุกฝ่ายจนเกิดความยั่งยืน” พล.ท.กัมปนาทกล่าว
พล.ท.กัมปนาทกล่าวต่อว่า สิ่งที่เราติดตามหลักจากที่ได้มีการจัดระเบียบไปแล้วคือ การทำอย่างไรให้แท็กซี่ถูกต้องตามกฎหมายตั้งแต่สภาพรถ คนขับรถ ที่จะต้องมีการลงทะเบียนที่ถูกกฎหมาย นอกจากนี้ ในส่วนของผู้มีอิทธิพลที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายที่จะต้องเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย พร้อมทั้งบูรณาการปัญหาต่างๆ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม แท็กซี่ที่มาในวันนี้ถือเป็นผู้แทน แต่ผู้ที่เข้าร่วมประชุมเป็นผู้แทนของสหกรณ์แท็กซี่ของทุกสหกรณ์แท็กซี่เพื่อผลักดันให้มีการทำตามข้อตกลงตามที่ได้สัญญากันเอาไว้
พล.ท.กัมปนาทยังกล่าวถึงกรณีที่แท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารนั้น กิจกรรมในวันนี้ถือเป็นการรณรงค์ไม่ให้แท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร โดยภาพรวมแล้วเป็นเพียงแท็กซี่ส่วนน้อยที่ปฏิเสธผู้โดยสาร ส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งนี้เรามีมาตรการในการสุ่มตรวจเพื่อขับเคลื่อนไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวซึ่งทางคนขับแท็กซี่ก็มีความเข้าใจ เพราะแท็กซี่เป็นหน้าตาของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติหรือคนไทย ประเทศที่เจริญแล้ว ให้การบริการแท็กซี่เป็นส่วนหนึ่งของการชี้วัด ทั้งนี้รู้สึกพอใจต่อการจัดระเบียบรถบริการสาธารณะ รถตู้ และ รถวินจักรยานยนต์ และจากการประเมินผลก็อยู่ในเกณฑ์สูงที่มีความพึงพอใจ แต่ที่สำคัญจะทำอย่างไรให้ประชาชนรู้สึกพึงพอใจ และเกิดความปลอดภัย นั่นคือหัวใจสำคัญในการให้บริการ
