พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นำกำลังลงพื้นที่อายัดทรัพย์สินของนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตผู้บริหารธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ (บีบีซี) กับพวก รวม 3 จุด ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและกรุงเทพมหานคร มูลค่า 207 ล้านบาท
สำหรับจุดแรกปปง.เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 59/286 ซอยรามอินทรา 103/1 หมู่บ้านวิสุทธา วิลล์แขวงและเขตคันนายาว ของ น.ส.แสงเดือน บุญมาทอง อายุ 45 ปี ภรรยาของนายวู เชี่ยว หู อายุ 61 ปี กรรมการของบริษัทสตาร์ลัค ฟุตแวร์ (บี.วี.ไอ.) จำกัด ซึ่งถูฏจับกุมดำเนินคดีฉ้อโกงและจำคุกอยู่ในประเทศจีน
ทั้งนี้สืบเนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตผู้บริหารธนาคารกรุงเทพฯพาณิชยการ จำกัด (มหาชน) กับพวก ข้อหา"ร่วมกันยักยอกทรัพย์ เป็นกรรมการผู้จัดการซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของธนาคารกระทำผิดหน้าที่ ร่วมกับพวกเบียดบังยักยอกทรัพย์ ร่วมกับกรรมการผู้จัดการซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของธนาคารฯกับพวกเบียดบังยักยอกทรัพย์รวมทั้งสิ้น 24 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 4,695,000,000 ล้านบาท ซึ่งหนึ่งในจำนวนคดีนั้น คือ คดีที่นายเกริกเกียรติ อนุมัติสินเชื่อให้กับนาย วู เชี่ยว หู จนล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการธุรกรรม มีมติให้อายัดทรัพย์สินของนายเกริกเกียรติกับพวก 30 รายการ รวมทั้งทรัพย์สินของนาย วู เชี่ยว หู ด้วยรวมมูลค่ากว่า 207,000,000 บาท
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า วันนี้ตนพร้อมคณะเจ้าหน้าที่ ได้นำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นบ้านของ น.ส.แสงเดือน ภรรยาของนายวู เชี่ยวหู ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันยักยอกทรัพย์ ซึ่งแนวทางการสืบสวนทราบว่า มีการปล่อยสินเชื่อโดยมิชอบให้แก่บริษัทสตาร์ลัคฟุตแวร์ (บี.วี.ไอ.) จำกัด ซึ่งนายวู เชี่ยว หู เป็นกรรมการกว่า 100-200 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้รับอนุมัติเงินจากธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด จากนั้นจึงมีการนำไปซื้อทรัพย์สินที่ดินในกรุงเทพฯ 2 จุดเพื่อสร้างบ้าน ที่ดินที่พัทยา จ.ชลบุรี เนื้อที่กว่า 100 ไร่เพื่อสร้างรีสอร์ท ที่ดินที่จ.กระบี่และจ.เชียงราย
โดยเบื้องต้นทางปปง.ได้อายัดทรัพย์ไว้หมดแล้ว รวมถึงบัญชีธนาคารทั้ง 8 บัญชี ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ไทยพาณิชย์ อาคารสงเคราะห์และธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นชื่อของ น.ส.แสงเดือน นางเพ็ญ บุญมาทอง มารดาของ น.ส.แสงเดือนและบุตรของ น.ส.แสงเดือน อีก 2 คน รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท จากการตรวจค้นพบว่า บ้านมีบริเวณเนื้อที่กว่า 2 ไร่ มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สนามเทนนิสส่วนตัว นอกจากนี้ ภายบ้านพบตู้เซฟ 4 ตู้ เครื่องประดับ อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน รวมทั้งทรัพย์สินหลายรายการ จึงทำการยึดและอายัดไว้ตรวจสอบ ทั้งนี้จะเชิญตัวน.ส.แสงเดือนมาชี้แจงเกี่ยวกับที่มาของทรัพย์สินทั้งหมด
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ปปง. จะได้นำหมายค้นศาล เข้าตรวจค้น ทรัพย์สินและที่ดินของนายวู เชี่ยว หูอีก 2 จุด คือ คอนโด รีเจนท์ ภายในซอยอินทามระ ย่านสุทธิสาร ซึ่งเป็นที่ตั้งของ 3 บริษัทในเครือธุรกิจของครอบครัวนายวู เชี่ยว หูได้แก่บริษัทพิมานพนธ์ จำกัด บริษัทพิมานเรขา จำกัด และ บริษัท เดอะ ซัน รีสอร์ทจำกัด และ ชมวนา รีสอร์ท แอนด์ ฮอส คลับ จ.ชลบุรีด้วย
สำหรับจุดแรกปปง.เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 59/286 ซอยรามอินทรา 103/1 หมู่บ้านวิสุทธา วิลล์แขวงและเขตคันนายาว ของ น.ส.แสงเดือน บุญมาทอง อายุ 45 ปี ภรรยาของนายวู เชี่ยว หู อายุ 61 ปี กรรมการของบริษัทสตาร์ลัค ฟุตแวร์ (บี.วี.ไอ.) จำกัด ซึ่งถูฏจับกุมดำเนินคดีฉ้อโกงและจำคุกอยู่ในประเทศจีน
ทั้งนี้สืบเนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตผู้บริหารธนาคารกรุงเทพฯพาณิชยการ จำกัด (มหาชน) กับพวก ข้อหา"ร่วมกันยักยอกทรัพย์ เป็นกรรมการผู้จัดการซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของธนาคารกระทำผิดหน้าที่ ร่วมกับพวกเบียดบังยักยอกทรัพย์ ร่วมกับกรรมการผู้จัดการซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของธนาคารฯกับพวกเบียดบังยักยอกทรัพย์รวมทั้งสิ้น 24 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 4,695,000,000 ล้านบาท ซึ่งหนึ่งในจำนวนคดีนั้น คือ คดีที่นายเกริกเกียรติ อนุมัติสินเชื่อให้กับนาย วู เชี่ยว หู จนล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการธุรกรรม มีมติให้อายัดทรัพย์สินของนายเกริกเกียรติกับพวก 30 รายการ รวมทั้งทรัพย์สินของนาย วู เชี่ยว หู ด้วยรวมมูลค่ากว่า 207,000,000 บาท
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า วันนี้ตนพร้อมคณะเจ้าหน้าที่ ได้นำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นบ้านของ น.ส.แสงเดือน ภรรยาของนายวู เชี่ยวหู ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันยักยอกทรัพย์ ซึ่งแนวทางการสืบสวนทราบว่า มีการปล่อยสินเชื่อโดยมิชอบให้แก่บริษัทสตาร์ลัคฟุตแวร์ (บี.วี.ไอ.) จำกัด ซึ่งนายวู เชี่ยว หู เป็นกรรมการกว่า 100-200 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้รับอนุมัติเงินจากธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด จากนั้นจึงมีการนำไปซื้อทรัพย์สินที่ดินในกรุงเทพฯ 2 จุดเพื่อสร้างบ้าน ที่ดินที่พัทยา จ.ชลบุรี เนื้อที่กว่า 100 ไร่เพื่อสร้างรีสอร์ท ที่ดินที่จ.กระบี่และจ.เชียงราย
โดยเบื้องต้นทางปปง.ได้อายัดทรัพย์ไว้หมดแล้ว รวมถึงบัญชีธนาคารทั้ง 8 บัญชี ได้แก่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ไทยพาณิชย์ อาคารสงเคราะห์และธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นชื่อของ น.ส.แสงเดือน นางเพ็ญ บุญมาทอง มารดาของ น.ส.แสงเดือนและบุตรของ น.ส.แสงเดือน อีก 2 คน รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท จากการตรวจค้นพบว่า บ้านมีบริเวณเนื้อที่กว่า 2 ไร่ มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สนามเทนนิสส่วนตัว นอกจากนี้ ภายบ้านพบตู้เซฟ 4 ตู้ เครื่องประดับ อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน รวมทั้งทรัพย์สินหลายรายการ จึงทำการยึดและอายัดไว้ตรวจสอบ ทั้งนี้จะเชิญตัวน.ส.แสงเดือนมาชี้แจงเกี่ยวกับที่มาของทรัพย์สินทั้งหมด
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ปปง. จะได้นำหมายค้นศาล เข้าตรวจค้น ทรัพย์สินและที่ดินของนายวู เชี่ยว หูอีก 2 จุด คือ คอนโด รีเจนท์ ภายในซอยอินทามระ ย่านสุทธิสาร ซึ่งเป็นที่ตั้งของ 3 บริษัทในเครือธุรกิจของครอบครัวนายวู เชี่ยว หูได้แก่บริษัทพิมานพนธ์ จำกัด บริษัทพิมานเรขา จำกัด และ บริษัท เดอะ ซัน รีสอร์ทจำกัด และ ชมวนา รีสอร์ท แอนด์ ฮอส คลับ จ.ชลบุรีด้วย
