ปปง.อายัดทรัพย์เครือข่าย “เกริกเกียรติ์ ชาลีจันทร์” อดีตผู้บริหารแบงก์บีบีซี เป็นที่ดิน 22 รายการ และบัญชีเงินฝาก มูลค่า 207 ล้านบาท
วันนี้ (19 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พร้อมด้วยนายชาญชัย พงศ์ภัสสร ผู้อำนวยการกองคดี 3 ปปง.นำหมายค้นศาลอาญา เลขที่ 51/2558 ลงวันที่ 18 มีนาคม 2558 เข้าค้นบ้านเลขที่ 59/286 ซอยรามอินทรา 103/1 หมู่บ้านวิสุทธาวิลล์ แขวงคันนายาว (คลองเกร็ด) เขตบางกะปิ กทม. บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นของนางแสงเดือน บุญมาทอง อายุ 45 ปี ภรรยาของนายวู เชี่ยว หู (Wu Xiao Hua) อายุ 61 ปี ชาวจีนสัญชาติมอริสเชียส ซึ่งปัจจุบันนายวู เชี่ยว หู ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำที่ประเทศจีน ภายหลังถูกดำเนินคดีฉ้อโกง ต่อมาที่ประชุมคณะกรรมกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 4/2558 มีมติให้อายัดทรัพย์ของนายเกริกเกียรติ กับพวก จากกรณีอนุมติสินเชื่อให้กับสตาร์ลัค ฟุตแวร์ (บี.วี.ไอ.) จำกัด ประกอบด้วยที่ดิน 22 รายการ และบัญชีเงินฝากจำนวน 8 ราย มูลค่ารวมประมาณ 207,000,000 บาท (สองร้อยเจ็ดล้านบาท)
พ.ต.อ.สีหนาทกล่าวว่า นาย วู เชี่ยว หู เป็นกรรมการของบริษัทสตาร์ลัค ฟุตแวร์ (บี.วี.ไอ.) จำกัด บริษัทที่นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตผู้บริหารธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือ BBC อนุมัติสินเชื่อให้เป็นเงินจำนวนกว่า 100-200 ล้านบาท โดยบริษัทดังกล่าวเป็น 1 ใน 24 คดี ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ BBC ได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อนายเกริกเกียรติกับพวกในข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ เป็นกรรมการผู้จัดการที่รับผิดชอบในการดำเนินงานธนาคารเบียดบังยักยอกทรัพย์ สร้างมูลค่าความเสียหายประมาณ 4,695,000,000 บาท
สำหรับทรัพย์ที่ ปปง.เข้ายึดอายัดประกอบด้วยที่ดิน 22 รายการ และบัญชีเงินฝากจำนวน 8 ราย มูลค่ารวมประมาณ 207,000,000 บาท (สองร้อยเจ็ดล้านบาท) ได้แก่ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง แขวงคันนายาว (คลองเกร็ด) เขตบางกะปิ กทม. จำนวน 3 รายการ มูลค่าประมาณ74,027,500 บาท ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จำนวน 8 รายการ มูลค่า 84,609,100 บาท ที่ดิน ต.ท่าสุด อ.เมือง จ.เชียงราย ที่ดิน จำนวน 8 รายการ มูลค่า 7,2000,000 บาท ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ต.เกาะกลาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ จำนวน 3 รายการ มูลค่า 34,766,250 บาท เงินในบัญชีเงินฝากธนาคารจำนวน 8 รายการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 7,006,305.94 บาท
เลขาธิการ ปปง.กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่าหลังจากที่นายวู ได้รับอนุมัติเงินจากธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด และได้นำเงินไปซื้อทรัพย์สินที่ดินในกรุงเทพฯ 2 จุดเพื่อสร้างบ้าน ที่ดินที่พัทยา จ.ชลบุรี เนื้อที่ 100 กว่าไร่ เพื่อสร้างรีสอร์ต ที่ดินที่ จ.กระบี่ และที่ดินที่ จ.เชียงราย
เบื้องต้นทาง ปปง.ได้อายัดไว้หมดแล้ว รวมถึงบัญชีธนาคารทั้ง 8 บัญชี ได้แก่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารกสิกรไทย ซึ่งเป็นชื่อขอ งน.ส.แสงเดือน, นางเพ็ญ บุญมาทอง มารดาของ น.ส.แสงเดือน และบุตรของ น.ส.แสงเดือนอีก 2 คน รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาทด้วย
ทั้งนี้ ในการตรวจค้นภายในบ้านหลังดังกล่าว ไม่พบ น.ส.แสงเดือน เจ้าของบ้าน มีเพียงน้องสะใภ้เป็นผู้นำตรวจค้น โดยบ้านดังกล่าวมีบริเวณเนื้อที่กว่า 2 ไร่ มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สนามเทนนิสส่วนตัว นอกจากนี้ ภายในตัวบ้านยังพบตู้เซฟจำนวน 4 ตู้ เครื่องประดับ อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน รวมทั้งทรัพย์สินบางรายการซึ่งได้ยึดไปตรวจสอบ ขณะเดียวกัน ได้ทำการอายัดบ้านหลังดังกล่าวด้วย และหลังจากนี้จะมีการทำหนังสือเชิญตัว น.ส.แสงเดือนมาชี้แจงเกี่ยวกับตัวบ้านและทรัพย์สินต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ ปปง.นำหมายค้นศาลเข้าตรวจค้น ทรัพย์สินและที่ดินของนายวู เชี่ยว หู อีก 2 จุด คือ 1. คอนโด รีเจนท์ ซอยอินทามระ ย่านสุทธิสาร ซึ่งเป็นที่ตั้งของ 3 บริษัทในเครือธุรกิจของครอบครัวนายวู เชี่ยว หู ได้แก่ บริษัท พิมานพนธ์ จำกัด, บริษัท พิมานเรขา จำกัด และบริษัท เดอะ ซัน รีสอร์ จำกัด และ 2. ตรวจค้น ชมวนา รีสอร์ท แอนด์ ฮอส คลับ จ.ชลบุรี ไม่พบทรัพย์สิน ซึ่ง ปปง.ได้อายัดรีสอร์ตแห่งนี้แล้ว
แหล่งข่าวระดับสูง ปปง.เผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายเกริกเกียรติเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ ธปท.เข้าแจ้งความต่อ ปปง.เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษต่อนายเกริกเกียรติกับพวก ล่าสุดกำลังตรวจสอบบริษัทที่เข้าข่ายเกี่ยวพันเส้นทางการเงินกับนายเกริกเกียรติและพวกอีกประมาณ 40 บริษัท เบื้องต้นมีบริษัทเข้าข่ายที่คณะกรรมการธุรกรรมทางการเงิน กำลังพิจารณาจะอายัดทรัพย์เพิ่มอีกประมาณ 20 บริษัท