xs
xsm
sm
md
lg

สธ.ตั้งเป้าติดเครื่องกระตุ้นหัวใจในพื้นที่เสี่ยง 3,000 จุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายแพทย์สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ปัญหาการหมดสติจากหัวใจหยุดเต้น จัดเป็นภาวะฉุกเฉินเกิดได้ทั้งที่บ้านและที่สาธารณะ เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 3 ของคนไทย ปีละประมาณ 54,000 ราย เฉลี่ยชั่วโมงละ 6 ราย รองจากโรคมะเร็ง และอุบัติเหตุ กว่าครึ่งหนึ่งเสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล ส่วนใหญ่มักเกิดในผู้ที่เป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง

ดังนั้นการติดตั้งเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ Automated External Defibrillator (AED) ให้สถานที่ที่มีโอกาสและความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะฉุกเฉิน ติดตั้งเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ หรือที่เรียกว่าเครือเออีดี จะเป็นเครื่องมือช่วยชีวิตผู้ที่หัวใจหยุดเต้นอย่างกะทันหัน ให้รอดชีวิตมากขึ้น

ในระยะเริ่มต้นนี้ตั้งเป้าหมายรณรงค์ติดตั้งให้ได้ 3,000 แห่ง ภายใน 3 ปีทั้งในเขตเมืองและชนบท พื้นที่เกาะต่างๆ และได้มอบหมายให้สพฉ.ฝึกอบรมการปฐมพยาบาล ฝึกการปั้มหัวใจ ช่วยฟื้นคืนชีพให้แก่ประชาชนทั่วไปทุกอาชีพ เพื่อให้มีความรู้และมีทักษะการช่วยชีวิตเบื้องต้น ระหว่างที่รอรับการช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพทางหมายเลข 1669 เพื่อนำส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาล ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้ผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันได้มากถึงร้อยละ 45 ถือเป็นการยกมาตรฐานการกู้ชีพของไทยให้สูงขึ้น

ด้านนายแพทย์อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรืแ สพฉ. กล่าวว่า สพฉ.ได้มอบเครื่องเออีดี จำนวน 29 เครื่อง ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนเพื่อกระจายติดตั้งในพื้นที่สาธารณะต่างๆที่มีประชาชนเข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก อาทิ สถานีรถไฟหัวลำโพง สถานีขนส่งหมอชิตและเอกมัย ท่าเรือคลองเตย สนามกีฬาศุภชลาศัย สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน (หัวหมาก)ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภาฯลฯ นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานที่สนใจจะติดตั้งเครื่องชนิดนี้เอง อาทิ สนามมวยลุมพินี บริษัทเอสโซ่ ชมรมจักรยาน เป็นต้น

นายแพทย์อนุชา กล่าวต่อว่า เครื่องเออีดีเป็นอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์พกพา ใช้กระตุ้นหัวใจที่หยุดเต้น ให้กลับมาเต้นตามปกติ มีขั้นตอนการใช้ไม่ยุ่งยาก ประชาชนสามารถใช้เครื่องนี้ได้ภายใต้คำแนะนำของผู้ปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉิน ขณะนี้ต่างประเทศใช้เครื่องนี้อย่างแพร่หลาย อาทิ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น มีผลวิจัยว่าสามารถช่วยผู้ป่วยฉุกเฉินให้รอดชีวิตได้มากกว่าร้อยละ 45

สำหรับสถานที่ที่จะติดตั้งเครื่องเออีดี ควรตั้งอยู่ในที่ที่สามารถนำมาช่วยฟื้นคืนชีพได้ภายใน 5 นาที เช่น อยู่ใกล้กับลิฟท์ หรือบันไดในอาคารสูง ง่ายต่อการค้นหา ติดป้ายให้เห็นอย่างเด่นชัดและดึงออกมาใช้งานได้สะดวกภายในเวลา 1 นาที ควรจัดทำแผนผังของอาคารที่เข้าใจง่าย มีป้ายชี้ทางบอกให้เห็นบริเวณที่มีการติดตั้งเครื่องเออีดี และมีผู้ดูแลรักษาเครื่องตรวจสภาพเครื่องให้พร้อมใช้งานสม่ำเสมอ และมีการฝึกอบรมการช่วยฟื้นคืนชีพพร้อมกับการใช้เครื่องเออีดีแก่พนักงานประจำพื้นที่ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย หรืออาสาสมัครที่อยู่ประจำบริเวณดังกล่าวด้วยประการสำคัญขอให้สถานที่ที่ตั้งเครื่องเออีดีแล้ว แจ้งลงทะเบียนที่ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินประจำจังหวัดทางหมายเลข 1669 หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะสามารถใช้เครื่องนี้ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ประชาชนทั่วไป หากพบผู้ป่วยฉุกเฉิน หมดสติ มีภาวะหัวใจหยุดเต้น ในเบื้องต้นให้ตั้งสติและรีบโทรแจ้งสายด่วน 1669 และดำเนินการปั๊มหัวใจ หากมีคำแนะนำให้ใช้เครื่องเออีดีช่วยชีวิต ให้ผู้ช่วยเหลือฉีกซองบรรจุอิเล็คโทรดซึ่งมีอยู่ 2 ชิ้น ชิ้นหนึ่งติดไว้ที่ใต้กระดูกไหปลาร้าด้านขวา และชิ้นหนึ่งติดไว้ที่ใต้ราวนมซ้ายด้านข้างลำตัวของผู้ป่วย จากนั้นเครื่องฯจะทำการวิเคราะห์จังหวะการเต้นของหัวใจ เมื่อเครื่องวินิจฉัยเสร็จแล้วจะมีคำสั่งด้วยภาษาไทยให้ดำเนินการต่อไป จนกว่าเจ้าหน้าที่กู้ชีพจะมาถึง โดยการช่วยเหลือควรทำภายใน 3-5 นาที จะช่วยเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของผู้ป่วยฉุกเฉินได้มากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น