นางพเยาว์ มริตตนะพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BECL และ นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BMCL เปิดเผยว่า คณะกรรมการ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BECL) และ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BMCL) มีมติเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2558 เห็นชอบแผนการควบบริษัทระหว่าง BECL และ BMCL เป็นผลจากการศึกษาความเป็นไปได้ของการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคตและการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ของ BECL และ BMCL ร่วมกัน โดยจะนำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ BECL และ BMCL เพื่อพิจารณาอนุมัติการควบบริษัทตามวิธีการแห่งพ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 ต่อไป
ทั้งนี้การควบบริษัทระหว่าง BECL และ BMCL ถือเป็นกลยุทธ์ในการผสานความแข็งแกร่งของทั้งสองบริษัทเข้าด้วยกัน โดยคาดว่าการควบบริษัทครั้งนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์จากการเพิ่มโอกาสในการขยายและ ต่อยอดธุรกิจ ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของบริษัทใหม่ ทั้งในด้านการเงิน การดำเนินงาน และความสามารถในการแข่งขัน ช่วยเพิ่มโอกาสในการลงทุน ทั้งในและนอกประเทศ รวมถึงช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้หุ้นของบริษัทจากมุมมองของนักลงทุน นอกจากนี้ การควบบริษัทจะเป็นการผสานจุดแข็งระหว่าง BECL กับ BMCL ซึ่งส่งเสริมประโยชน์ซึ่งกันและกัน ส่งผลให้บริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอและมีต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสม และมีศักยภาพพร้อมสำหรับรับโอกาสในการเข้าลงทุนในโครงการอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกิจการอันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นในอนาคตอีกด้วย
การจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ BECL และ BMCL มีอัตราส่วน คือ 1 หุ้นเดิมใน BECL ต่อ 8.65537841 หุ้นในบริษัทใหม่ และ 1 หุ้นเดิมใน BMCL ต่อ 0.42050530 หุ้นในบริษัทใหม่ ทั้งนี้ คาดว่าการดำเนินการควบบริษัทจะแล้วเสร็จ และสามารถซื้อขายหุ้นของบริษัทใหม่ได้ภายในช่วงไตรมาส 3 ปี 2558
ด้านนายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ บมจ. ช.การช่าง หรือ CK เปิดเผยว่า บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) (CK) ในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัททั้งสองแห่งและผู้ถือหุ้นหลัก สนับสนุนการควบบริษัทในครั้งนี้อย่างเต็มที่ และมีความเชื่อมั่นว่าการควบบริษัทนี้จะทำให้บริษัทใหม่มีความแข็งแกร่งในทุกด้าน มีความพร้อมในการขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ถือหุ้นทุกคน ด้วยความเชื่อมั่นดังกล่าว บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) จึงได้แสดงเจตนารมณ์ในการรับซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นที่ไม่ประสงค์ที่จะถือหุ้นต่อโดยลงมติคัดค้านการควบบริษัทในครั้งนี้
ทั้งนี้การควบบริษัทระหว่าง BECL และ BMCL ถือเป็นกลยุทธ์ในการผสานความแข็งแกร่งของทั้งสองบริษัทเข้าด้วยกัน โดยคาดว่าการควบบริษัทครั้งนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์จากการเพิ่มโอกาสในการขยายและ ต่อยอดธุรกิจ ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของบริษัทใหม่ ทั้งในด้านการเงิน การดำเนินงาน และความสามารถในการแข่งขัน ช่วยเพิ่มโอกาสในการลงทุน ทั้งในและนอกประเทศ รวมถึงช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้หุ้นของบริษัทจากมุมมองของนักลงทุน นอกจากนี้ การควบบริษัทจะเป็นการผสานจุดแข็งระหว่าง BECL กับ BMCL ซึ่งส่งเสริมประโยชน์ซึ่งกันและกัน ส่งผลให้บริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีแหล่งเงินทุนที่เพียงพอและมีต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสม และมีศักยภาพพร้อมสำหรับรับโอกาสในการเข้าลงทุนในโครงการอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกิจการอันจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นในอนาคตอีกด้วย
การจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นของ BECL และ BMCL มีอัตราส่วน คือ 1 หุ้นเดิมใน BECL ต่อ 8.65537841 หุ้นในบริษัทใหม่ และ 1 หุ้นเดิมใน BMCL ต่อ 0.42050530 หุ้นในบริษัทใหม่ ทั้งนี้ คาดว่าการดำเนินการควบบริษัทจะแล้วเสร็จ และสามารถซื้อขายหุ้นของบริษัทใหม่ได้ภายในช่วงไตรมาส 3 ปี 2558
ด้านนายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ บมจ. ช.การช่าง หรือ CK เปิดเผยว่า บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) (CK) ในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัททั้งสองแห่งและผู้ถือหุ้นหลัก สนับสนุนการควบบริษัทในครั้งนี้อย่างเต็มที่ และมีความเชื่อมั่นว่าการควบบริษัทนี้จะทำให้บริษัทใหม่มีความแข็งแกร่งในทุกด้าน มีความพร้อมในการขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ถือหุ้นทุกคน ด้วยความเชื่อมั่นดังกล่าว บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) จึงได้แสดงเจตนารมณ์ในการรับซื้อหุ้นของผู้ถือหุ้นที่ไม่ประสงค์ที่จะถือหุ้นต่อโดยลงมติคัดค้านการควบบริษัทในครั้งนี้