นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า กรณีศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้กรมควบคุมมลพิษชดใช้ค่าเสียหายแก่กิจการร่วมค้าเอ็นวีพีเอสเคจี กรณีสั่งยกเลิกโครงการระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จ.สมุทรปราการ เป็นเงิน 9,618 ล้านบาท โดยศาลสั่งใช้ชำระให้เสร็จสิ้นภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งจะมีดอกเบี้ยอีกวันละ 2 ล้านบาท จำนวน 180 ล้านบาทนั้น
ล่าสุด กรมควบคุมมลพิษได้เจรจากับกิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี ได้สำเร็จ โดยงดจ่ายดอกเบี้ยรวม 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ศาลตัดสิน ซึ่งต้องขอบคุณกิจการร่วมค้าที่ช่วยประหยัดงบของรัฐได้ถึง 180 ล้านบาท ส่วนเงินค่าเสียหายจำนวน 9,618 ล้านบาท ทางกรมควบคุมมลพิษยังไม่ได้ตกลงกับกิจการร่วมค้า ว่า จะมีการชำระเงินในรูปแบบใด อาจจะผ่อนชำระหรือเลื่อนเวลาออกไปอีก ซึ่งขั้นตอนนี้จะมีการเจรจากันอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้กรมควบคุมมลพิษได้หารือกับกรมบัญชีกลางหาผู้กระทำผิดจากคดีนี้ที่เกิดจากการยกเลิกสัญญา ซึ่งผลพวงความเสียหายไม่เฉพาะเงิน 9,618 ล้านบาท ที่ต้องจ่าย แต่มีเงินค่าก่อสร้างที่จ่ายไปแล้วอีก 21,023 ล้านบาท รวมค่าความเสียหายทั้งหมด 30,641 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีคดีที่เกี่ยวข้องกับคดีคลองด่านอีกหลายคดี ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการทั้งสิ้น
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่านที่เสร็จไปแล้ว 98 เปอร์เซ็นต์นั้น เบื้องต้นได้ส่งเจ้าหน้าที่องค์การกำจัดน้ำเสียของกรมควบคุมมลพิษลงพื้นที่ไปสำรวจและประเมินผลก่อนว่าควรดำเนินการอย่างไรต่อไป คาดว่าต้องใช้เวลาในการประเมินอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งจะมีการทำประชาพิจารณ์กับประชาชนในพื้นที่ เพื่อร่วมแสดงความคิดเห็นมาประกอบการพิจารณาด้วย
ล่าสุด กรมควบคุมมลพิษได้เจรจากับกิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี ได้สำเร็จ โดยงดจ่ายดอกเบี้ยรวม 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ศาลตัดสิน ซึ่งต้องขอบคุณกิจการร่วมค้าที่ช่วยประหยัดงบของรัฐได้ถึง 180 ล้านบาท ส่วนเงินค่าเสียหายจำนวน 9,618 ล้านบาท ทางกรมควบคุมมลพิษยังไม่ได้ตกลงกับกิจการร่วมค้า ว่า จะมีการชำระเงินในรูปแบบใด อาจจะผ่อนชำระหรือเลื่อนเวลาออกไปอีก ซึ่งขั้นตอนนี้จะมีการเจรจากันอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้กรมควบคุมมลพิษได้หารือกับกรมบัญชีกลางหาผู้กระทำผิดจากคดีนี้ที่เกิดจากการยกเลิกสัญญา ซึ่งผลพวงความเสียหายไม่เฉพาะเงิน 9,618 ล้านบาท ที่ต้องจ่าย แต่มีเงินค่าก่อสร้างที่จ่ายไปแล้วอีก 21,023 ล้านบาท รวมค่าความเสียหายทั้งหมด 30,641 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีคดีที่เกี่ยวข้องกับคดีคลองด่านอีกหลายคดี ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการทั้งสิ้น
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวอีกว่า สำหรับโครงการระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่านที่เสร็จไปแล้ว 98 เปอร์เซ็นต์นั้น เบื้องต้นได้ส่งเจ้าหน้าที่องค์การกำจัดน้ำเสียของกรมควบคุมมลพิษลงพื้นที่ไปสำรวจและประเมินผลก่อนว่าควรดำเนินการอย่างไรต่อไป คาดว่าต้องใช้เวลาในการประเมินอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่งจะมีการทำประชาพิจารณ์กับประชาชนในพื้นที่ เพื่อร่วมแสดงความคิดเห็นมาประกอบการพิจารณาด้วย
