การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2014" รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก "ช้างศึก" ทีมชาติไทย แชมป์ 3 สมัย พบ "เสือเหลือง" มาเลเซีย แชมป์ 1 สมัย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.57 โดย พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จทอดพระเนตร ทรงสวมเสื้อทีมชาติไทยสีน้ำเงิน
บอลคู่นี้เพิ่งเจอกันในรอบแรก กลุ่ม B ที่สิงคโปร์ ไทย พลิกสถานการณ์ จากที่โดนนำ 2 ครั้ง กลับมาชนะ 3-2
เริ่มเกม 10 นาทีแรก ทั้งสองทีมแลกหมัดกันคนละตุ้บคนละตั้บ ไทย มีโอกาสจาก มงคล ทศไกร นาทีที่ 4 แต่ยิงออก และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ นาทีที่ 7 หลุดไปซัดเข้าข้างตาข่าย ส่วน เสือเหลือง มีลุ้นจาก อัมรี ยาห์ยาห์ โหม่งในนาทีที่ 3 และ นอร์ชาห์รูล ตาลาฮา ทะลุไปยิงในนาทีที่ 6 ทว่าติดเซฟ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ทั้ง 2 ลูก จากนั้นไทย พยายามใช้เกมเร็วเข้ากดดัน จน เสือเหลือง ต้องงัดลูกหนักอัดตัดฟาวล์ ถึงนาทีที่ 42 ไทย มีโอกาสจะแจ้ง อดิศักดิ์ ไกรษร หลุดเดี่ยวแต่โดน โมฮัมหมัด มาร์เลียส โกลมาเลเซีย บล็อกไว้ได้หวุดหวิด ก่อนที่อึดใจต่อมา กรรมการ โควาเลนโก วาเลนติน จากอุซเบกิสถาน จะเป่านกหวีดหมดครึ่งแรก ทั้งที่เวลาในสกอร์บอร์ดที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ยังเหลืออีกเกือบ 20 วินาที จึงจะครบ 45 นาที สร้างความงุนงงให้แฟนบอล เสียงโห่สนั่นสนามตามระเบียบ
นาทีที่ 71 ไทยได้จุดโทษเมื่อฟาดี ชาส ไปเตะอดิศักดิ์ล้มในเขตโทษ "ชาริล ชัปปุยส์" ยิงจุดโทษให้ทีมชาติไทย 1 - 0 มาเลเซีย
เข้าสู่ 10 นาทีสุดท้ายของเกม นักเตะไทยพยายามทำให้ได้อีกประตู เพื่อลดแรงกดดันที่จะต้องเจอกับมาเลเซียถึงในบ้านวันที่ 20 ธันวาคม มาเลย์ได้ลุ้นในนาทีที่ 80 จากลูกยิงไกลของบัคเตียห์ ที่ลงมาในครึ่งหลัง แต่กวินโดดรับบอลติดมือ นาทีที่ 82 อินดรา ปูตรา รับใบเหลืองไป เมื่อโดดเตะเข้าหน้าของนฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม
ไทยยังบุกต่อเนื่อง นาทีที่ 86 ไทยทิ้งห่าง 2-0 เมื่อชนาธิป สรงกระสินธ์ กระชากบอลลุยขึ้นมา ก่อนผ่านให้เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ วิ่งเข้าซัดตุงตาข่าย
ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ผู้เล่นไทยโชว์ฟอร์มสวยงาม ทั้งเล่นลูกชิ่ง ส่งตามช่อง ไทยชวดได้ประตูที่ 3 ในนาทีที่ 88 เมื่อชัปปุยส์หาจังหวะยิงในเขตโทษ บอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียว ช่วงทดเจ็บ 4 นาที นักเตะเสือเหลืองยังพยายามทำประตูตีไข่แตก อินดราได้โหม่งในเขตโทษ แต่กวินพุ่งปัดบอลออกหลังไปได้ จนจบเกม ทีมไทยเอาชนะมาเลเซีย ไปได้ก่อน 2-0 แต่ยังต้องเจอกันในนัดที่ 2 วันที่ 20 ธ.ค.นี้ ที่ประเทศมาเลเซีย
บรรยากาศก่อนเกม มีแฟนบอลเนืองแน่นมารอเข้าสนามตั้งแต่ช่วงบ่าย ทั้งที่ประตูเปิด 16.00 น. และเริ่มเตะ 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำนวจนอกเครื่องแบบสามารถจับกุมพ่อค้ารายใหญ่ นายวินัย รสโกสุม อายุ 50 ปี จำหน่ายตั๋วโก่งราคา หรือ ตั๋วผี จากราคา 150 บาท เป็น 1,500 บาท และได้นำไปเปรียบเทียบปรับต่อไป
ผู้เล่น 11 ตัวจริงของทีมชาติไทย "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ จัดทีมระบบ 4-3-3 ดังนี้ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์(ผู้รักษาประตู), พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, สุทธินันท์ พุกหอม, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, สารัช อยู่เย็น, ชาริล ชัปปุยส์, "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, มงคล ทศไกร โดยหัวหอก "เจ้ากอล์ฟ" อดิศักดิ์ ไกรษร ซึ่งในรอบแรก ยิง มาเลเซีย 2 ประตู ด้าน ดอลลาห์ ซาลเลห์ กุนซือเสือเหลือง จัดระบบ 4-4-2 นำโดย อัมรี ยาห์ยาห์, ซาฟิก ราฮิม ที่ยิงไทยในรอบแรก
บอลคู่นี้เพิ่งเจอกันในรอบแรก กลุ่ม B ที่สิงคโปร์ ไทย พลิกสถานการณ์ จากที่โดนนำ 2 ครั้ง กลับมาชนะ 3-2
เริ่มเกม 10 นาทีแรก ทั้งสองทีมแลกหมัดกันคนละตุ้บคนละตั้บ ไทย มีโอกาสจาก มงคล ทศไกร นาทีที่ 4 แต่ยิงออก และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ นาทีที่ 7 หลุดไปซัดเข้าข้างตาข่าย ส่วน เสือเหลือง มีลุ้นจาก อัมรี ยาห์ยาห์ โหม่งในนาทีที่ 3 และ นอร์ชาห์รูล ตาลาฮา ทะลุไปยิงในนาทีที่ 6 ทว่าติดเซฟ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ทั้ง 2 ลูก จากนั้นไทย พยายามใช้เกมเร็วเข้ากดดัน จน เสือเหลือง ต้องงัดลูกหนักอัดตัดฟาวล์ ถึงนาทีที่ 42 ไทย มีโอกาสจะแจ้ง อดิศักดิ์ ไกรษร หลุดเดี่ยวแต่โดน โมฮัมหมัด มาร์เลียส โกลมาเลเซีย บล็อกไว้ได้หวุดหวิด ก่อนที่อึดใจต่อมา กรรมการ โควาเลนโก วาเลนติน จากอุซเบกิสถาน จะเป่านกหวีดหมดครึ่งแรก ทั้งที่เวลาในสกอร์บอร์ดที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ยังเหลืออีกเกือบ 20 วินาที จึงจะครบ 45 นาที สร้างความงุนงงให้แฟนบอล เสียงโห่สนั่นสนามตามระเบียบ
นาทีที่ 71 ไทยได้จุดโทษเมื่อฟาดี ชาส ไปเตะอดิศักดิ์ล้มในเขตโทษ "ชาริล ชัปปุยส์" ยิงจุดโทษให้ทีมชาติไทย 1 - 0 มาเลเซีย
เข้าสู่ 10 นาทีสุดท้ายของเกม นักเตะไทยพยายามทำให้ได้อีกประตู เพื่อลดแรงกดดันที่จะต้องเจอกับมาเลเซียถึงในบ้านวันที่ 20 ธันวาคม มาเลย์ได้ลุ้นในนาทีที่ 80 จากลูกยิงไกลของบัคเตียห์ ที่ลงมาในครึ่งหลัง แต่กวินโดดรับบอลติดมือ นาทีที่ 82 อินดรา ปูตรา รับใบเหลืองไป เมื่อโดดเตะเข้าหน้าของนฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม
ไทยยังบุกต่อเนื่อง นาทีที่ 86 ไทยทิ้งห่าง 2-0 เมื่อชนาธิป สรงกระสินธ์ กระชากบอลลุยขึ้นมา ก่อนผ่านให้เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ วิ่งเข้าซัดตุงตาข่าย
ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ผู้เล่นไทยโชว์ฟอร์มสวยงาม ทั้งเล่นลูกชิ่ง ส่งตามช่อง ไทยชวดได้ประตูที่ 3 ในนาทีที่ 88 เมื่อชัปปุยส์หาจังหวะยิงในเขตโทษ บอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียว ช่วงทดเจ็บ 4 นาที นักเตะเสือเหลืองยังพยายามทำประตูตีไข่แตก อินดราได้โหม่งในเขตโทษ แต่กวินพุ่งปัดบอลออกหลังไปได้ จนจบเกม ทีมไทยเอาชนะมาเลเซีย ไปได้ก่อน 2-0 แต่ยังต้องเจอกันในนัดที่ 2 วันที่ 20 ธ.ค.นี้ ที่ประเทศมาเลเซีย
บรรยากาศก่อนเกม มีแฟนบอลเนืองแน่นมารอเข้าสนามตั้งแต่ช่วงบ่าย ทั้งที่ประตูเปิด 16.00 น. และเริ่มเตะ 19.00 น. เจ้าหน้าที่ตำนวจนอกเครื่องแบบสามารถจับกุมพ่อค้ารายใหญ่ นายวินัย รสโกสุม อายุ 50 ปี จำหน่ายตั๋วโก่งราคา หรือ ตั๋วผี จากราคา 150 บาท เป็น 1,500 บาท และได้นำไปเปรียบเทียบปรับต่อไป
ผู้เล่น 11 ตัวจริงของทีมชาติไทย "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ จัดทีมระบบ 4-3-3 ดังนี้ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์(ผู้รักษาประตู), พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, สุทธินันท์ พุกหอม, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, สารัช อยู่เย็น, ชาริล ชัปปุยส์, "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, มงคล ทศไกร โดยหัวหอก "เจ้ากอล์ฟ" อดิศักดิ์ ไกรษร ซึ่งในรอบแรก ยิง มาเลเซีย 2 ประตู ด้าน ดอลลาห์ ซาลเลห์ กุนซือเสือเหลือง จัดระบบ 4-4-2 นำโดย อัมรี ยาห์ยาห์, ซาฟิก ราฮิม ที่ยิงไทยในรอบแรก