สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) หลังจากมีรายงานว่า อิรักประกาศลดราคาน้ำมันดิบให้กับลูกค้าในสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศเอเชีย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 2.79 ดอลลาร์ ปิดที่ 63.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 2.88 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลง หลังจาก SOMO ซึ่งเป็นบริษัทด้านการตลาดน้ำมันของรัฐบาลอิรักรายงานว่า อิรักซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับสองของกลุ่มโอเปค ได้ปรับลดราคาน้ำมันอย่างเป็นทางการให้กับลูกค้าในประเทศเอเชียและสหรัฐ โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค.ปีหน้า
ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของอิรักมีขึ้นหลังจากซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันเช่นกัน โดยบริษัทซาอุดิ อาระเบียน ออยล์ เปิดเผยว่าบริษัทได้ปรับลดราคาขายน้ำมันที่จะส่งมายังเอเชียในเดือนหน้า ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าซาอุดิอาระเบียมีความกังวลเกี่ยวกับการรักษาส่วนแบ่งตลาดมากกว่าการปรับขึ้นราคาน้ำมัน และซาอุดิอาระเบียไม่มีความตั้งใจที่จะลดการผลิตแต่อย่างใด
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ทราบผลการประชุมของโอเปคเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ธนาคารต่างๆ ซึ่งรวมทั้งบาร์เคลย์ส, ยูบีเอส กรุ๊ป, บีเอ็นพี พาริบาส์ และเครดิต สวิส ต่างก็ปรับลดตัวเลขแนวโน้มราคาน้ำมันลง
ด้านนักวิเคราะห์มองว่า ปริมาณน้ำมันในปัจจุบันมีจำนวนมากเกินไป ขณะที่อุปสงค์อาจจะไม่สามารถปรับตัวดีขึ้นได้ในช่วงอนาคตอันใกล้ เมื่อพิจารณาจากความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวที่ชะลอลงของเศรษฐกิจโลก ซึ่งรวมถึงจีนและญี่ปุ่น
สำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่า การส่งออกของจีนในเดือนพ.ย.ขยายตัว 4.7% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 2.1166 แสนล้านดอลลาร์ โดยอัตราการขยายตัวดังกล่าวชะลอลงเมื่อเทียบกับ 11.6% ในเดือนต.ค.และ 15.3% ในเดือนก.ย. ส่วนการนำเข้าหดตัวลง 6.7% สู่ระดับ 1.5719 แสนล้านดอลลาร์
ขณะที่สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ปี 2557 หดตัวลง 1.9% ซึ่งย่ำแย่กว่าที่ประมาณการไว้เบื้องต้นเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ว่าปรับตัวลง 1.6%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 2.79 ดอลลาร์ ปิดที่ 63.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 2.88 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.19 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลง หลังจาก SOMO ซึ่งเป็นบริษัทด้านการตลาดน้ำมันของรัฐบาลอิรักรายงานว่า อิรักซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับสองของกลุ่มโอเปค ได้ปรับลดราคาน้ำมันอย่างเป็นทางการให้กับลูกค้าในประเทศเอเชียและสหรัฐ โดยจะมีผลบังคับใช้ในเดือนม.ค.ปีหน้า
ความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของอิรักมีขึ้นหลังจากซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันเช่นกัน โดยบริษัทซาอุดิ อาระเบียน ออยล์ เปิดเผยว่าบริษัทได้ปรับลดราคาขายน้ำมันที่จะส่งมายังเอเชียในเดือนหน้า ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าซาอุดิอาระเบียมีความกังวลเกี่ยวกับการรักษาส่วนแบ่งตลาดมากกว่าการปรับขึ้นราคาน้ำมัน และซาอุดิอาระเบียไม่มีความตั้งใจที่จะลดการผลิตแต่อย่างใด
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ทราบผลการประชุมของโอเปคเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ธนาคารต่างๆ ซึ่งรวมทั้งบาร์เคลย์ส, ยูบีเอส กรุ๊ป, บีเอ็นพี พาริบาส์ และเครดิต สวิส ต่างก็ปรับลดตัวเลขแนวโน้มราคาน้ำมันลง
ด้านนักวิเคราะห์มองว่า ปริมาณน้ำมันในปัจจุบันมีจำนวนมากเกินไป ขณะที่อุปสงค์อาจจะไม่สามารถปรับตัวดีขึ้นได้ในช่วงอนาคตอันใกล้ เมื่อพิจารณาจากความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวที่ชะลอลงของเศรษฐกิจโลก ซึ่งรวมถึงจีนและญี่ปุ่น
สำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่า การส่งออกของจีนในเดือนพ.ย.ขยายตัว 4.7% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 2.1166 แสนล้านดอลลาร์ โดยอัตราการขยายตัวดังกล่าวชะลอลงเมื่อเทียบกับ 11.6% ในเดือนต.ค.และ 15.3% ในเดือนก.ย. ส่วนการนำเข้าหดตัวลง 6.7% สู่ระดับ 1.5719 แสนล้านดอลลาร์
ขณะที่สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ปี 2557 หดตัวลง 1.9% ซึ่งย่ำแย่กว่าที่ประมาณการไว้เบื้องต้นเมื่อวันที่ 17 พ.ย.ว่าปรับตัวลง 1.6%