นายสฤษฏ์พงศ์ บริบูรณ์สุข ผู้อำนวยการสำนักแผนความปลอดภัยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สนข.ได้ดำเนินการจัดทำแผน เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทง ซึ่งตามแผนจะกำหนดช่วงระยะเวลาในการกวดขันดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ตั้งแต่วันที่ 5-9 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งได้ประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรุงเทพมหานคร และกรมเจ้าท่า เพื่อดูแลความปลอดภัยตามท่าเรือที่ประชาชนใช้ลอยกระทง อีกทั้งยังได้ประสานไปยังองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพื่อจัดรถเมล์บริการประชาชนในพื้นที่ลอยกระทงให้เพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสาร
นอกจากนี้ สนข.ได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ 10 หน่วยงานอาทิ กทม.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม เพื่อดำเนินโครงการรณรงค์ไม่เล่นโคมลอยโคมควัน และจุดบั้งไฟในช่วงเทศกาล เนื่องจากที่ผ่านมาการปล่อยโคมลอย และจุดบั้งไฟนั้นเป็นสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนจำนวนมาก เกิดมลพิษทางอากาศ อีกทั้งยังเป็นการคุกคามความปลอดภัยในการบินของอากาศยานต่างๆ ซึ่งจากการสำรวจในช่วงเทศกาลลอยกระทงที่ผ่านมาพบว่า ทั่วประเทศมีการปล่อยโคมลอยจำนวนกว่าหลายแสนใบและตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน มีการจุดบั้งไฟไปแล้วจำนวน 43,000 ลูก
ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครนับว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงมากหากมีการปล่อยโคมลอย เนื่องจากมีอาคารสูงจำนวนมาก และมีอากาศยานบินผ่าน โดยเฉพาะพื้นที่รอบสนามบินดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ซึ่งหากโคมลอยไปกระทบกับเครื่องบินก็จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาล ดังนั้น สนข.จะได้ประสานไปยังเพื่อขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการหน่วยงานการท่องเที่ยวไม่ให้ใช้การปล่อยโคมลอยในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการกวดขันโคมลอยต้องมีขนาด และปริมาตรไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตร และใช้เพลิงในการเผาไหม้ไม่เกิน 8 นาที เพื่อไม่ให้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าในระยะไกลได้
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีกฎหมายที่เอาผิดต่อผู้ที่ปล่อยโคมลอย และจุดบั้งไฟที่ก่อให้เกิดอันตรายต่ออากาศยานรวม 3 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2521 มาตรา 6 และ 8 ซึ่งจะมีการกำหนดบทลงโทษที่เข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงแก่อากาศยาน พ.ร.บ.เดินอากาศ พ.ศ.2497โคมลอย โคมควันที่มีปริมาตรเกิน 1 ลูกบาศก์เมตร และการปล่อยต้องได้รับอนุญาตตามที่รัฐมนตรีกำหนด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิงเทียมอาวุธ พ.ศ.2490 แต่ปัญหาอยู่ที่ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมาย หรือเอาผิดลงโทษได้อย่างจริงจัง ดังนั้น สนข.ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนอย่าปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาล เพราะอาจเป็นส่วนที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นได้
นอกจากนี้ สนข.ได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ 10 หน่วยงานอาทิ กทม.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงกลาโหม เพื่อดำเนินโครงการรณรงค์ไม่เล่นโคมลอยโคมควัน และจุดบั้งไฟในช่วงเทศกาล เนื่องจากที่ผ่านมาการปล่อยโคมลอย และจุดบั้งไฟนั้นเป็นสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนจำนวนมาก เกิดมลพิษทางอากาศ อีกทั้งยังเป็นการคุกคามความปลอดภัยในการบินของอากาศยานต่างๆ ซึ่งจากการสำรวจในช่วงเทศกาลลอยกระทงที่ผ่านมาพบว่า ทั่วประเทศมีการปล่อยโคมลอยจำนวนกว่าหลายแสนใบและตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน มีการจุดบั้งไฟไปแล้วจำนวน 43,000 ลูก
ทั้งนี้ สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครนับว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงมากหากมีการปล่อยโคมลอย เนื่องจากมีอาคารสูงจำนวนมาก และมีอากาศยานบินผ่าน โดยเฉพาะพื้นที่รอบสนามบินดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ซึ่งหากโคมลอยไปกระทบกับเครื่องบินก็จะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาล ดังนั้น สนข.จะได้ประสานไปยังเพื่อขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการหน่วยงานการท่องเที่ยวไม่ให้ใช้การปล่อยโคมลอยในการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการกวดขันโคมลอยต้องมีขนาด และปริมาตรไม่เกิน 1 ลูกบาศก์เมตร และใช้เพลิงในการเผาไหม้ไม่เกิน 8 นาที เพื่อไม่ให้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าในระยะไกลได้
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีกฎหมายที่เอาผิดต่อผู้ที่ปล่อยโคมลอย และจุดบั้งไฟที่ก่อให้เกิดอันตรายต่ออากาศยานรวม 3 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2521 มาตรา 6 และ 8 ซึ่งจะมีการกำหนดบทลงโทษที่เข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงแก่อากาศยาน พ.ร.บ.เดินอากาศ พ.ศ.2497โคมลอย โคมควันที่มีปริมาตรเกิน 1 ลูกบาศก์เมตร และการปล่อยต้องได้รับอนุญาตตามที่รัฐมนตรีกำหนด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิงเทียมอาวุธ พ.ศ.2490 แต่ปัญหาอยู่ที่ไม่สามารถบังคับใช้กฎหมาย หรือเอาผิดลงโทษได้อย่างจริงจัง ดังนั้น สนข.ต้องขอความร่วมมือจากประชาชนอย่าปล่อยโคมลอยในช่วงเทศกาล เพราะอาจเป็นส่วนที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นได้
