ศาลโสมขาวเปิดฉากไต่สวนคดีฉาว ลูกสาวปธ.“โคเรียนแอร์” เกรี้ยวลูกเรือเสิร์ฟถั่วผิด

เอเอฟพี - ศาลเกาหลีใต้วันนี้ (19 ต.ค.) เปิดฉากไต่สวน โช ฮยุนอา ทายาทหญิงของสายการบิน “โคเรียนแอร์” ที่ถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายความปลอดภัยในการบิน ภายหลังเกิดเหตุการณ์ที่ถูกขนานนามว่า “ถั่ววีนแตก” (Nut rage) ที่สร้างความไม่พอใจให้แก่ประชาชนชาวเกาหลีใต้ไปทั่วประเทศ

โช ซึ่งถูกควบคุมตัวเอาไว้ นับตั้งแต่ถูกจับกุมอย่างเป็นทางการเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน ถูกพาตัวขึ้นรถบัสไปขึ้นศาลแขวงตะวันตกในกรุงโซล ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนที่แห่แหนไปรอทำข่าวกันอย่างคับคั่ง

โช ในชุดนักโทษสีเขียวยืนก้มหน้าก้มตาในห้องพิจารณาคดีที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คน และให้การระหว่างการไต่สวนมูลฟ้องด้วยสุ้มเสียงอันแผ่วเบาราวกับกระซิบ

ลูกสาววัย 40 ปีของ โช ยางโฮ ประธานบริหารสายการบินโคเรียนแอร์ อาจได้รับโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี หากถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจริงในข้อหาละเมิดกฎหมายความปลอดภัยในการบิน และอาจได้รับโทษจำคุกเพิ่มอีก 5 ปีในอีก 3 ข้อหา เป็นต้นว่า บีบบังคับให้พนักงานสายบินแอร์เกาหลีให้การเท็จ ตลอดจนขัดขวางกระบวนการสอบสวนของเจ้าพนักงาน

ข้อหาเหล่านี้เกิดขึ้นจากการที่ โช สั่งให้กัปตันนำเครื่องบินกลับไปจอดเทียบอาคารผู้โดยสารเพื่อไล่หัวหน้าพนักงานต้อนรับลงจากเที่ยวบินเส้นทาง นิวยอร์ก -โซล ของสายการบินโคเรียนแอร์ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา

โช ซึ่งในเวลานั้นดำรงตำแหน่งรองประธานสายการบินอ้างว่า รู้สึกไม่พอใจที่ลูกเรือคนหนึ่งนำถั่วมาเสิร์ฟให้เธอ ทั้งที่ไม่ได้สั่ง ทั้งยังเสิร์ฟทั้งห่อ แทนที่จะแกะใส่ชามตามที่คู่มือบริการของสายการบินกำหนดไว้

เธอให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกาย พัค ชางจิน หัวหน้าพนักงานต้อนรับ ภายหลังถูกพัคกล่าวหาว่า เธอสั่งให้เขาคุกเข่าอ้อนวอนขอให้เธอยกโทษให้ ทั้งยังใช้หนังสือคู่มือบริการกระทุ้งเขาหลายครั้ง

รองหัวหน้าอัยการ คิม ชาง-ฮี ให้สัมภาษณ์ว่า การกระทำของโช เข้าข่ายก่อกวนความสงบเรียบร้อยบนเที่ยวบินจนอาจกระทบถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารคนอื่นๆ ขณะที่ พัค จิน-นยุง โฆษกเนติบัณฑิตยสภาเกาหลีใต้ ชี้ว่า ลูกสาวประธานโคเรียนแอร์อาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 15 ปีหากพบว่ามีความผิดจริงทั้ง 4 กระทงตามที่อัยการตั้งข้อหา โดยเฉพาะข้อหาบังคับให้เครื่องบินต้องเปลี่ยนแปลงเส้นทางซึ่งมีโทษหนักสุดถึงจำคุก 10 ปี

ในการแถลงต่อสื่อมวลชน ทนายความของโช ชี้ว่า ข้อหาที่โชได้รับนั้น เกิดจาก “การกล่าวหาเกินจริง” ทั้งยังโต้แย้งว่า การละเมิดกฎหมายด้านความปลอดภัยขณะที่เครื่องบินยังไม่ได้เทคออฟ ทั้งยังวิ่งไปไม่ถึงรันเวย์นั้นถือเป็นความผิดเล็กน้อย

เหตุการณ์ครั้งนั้นได้เรียกเสียงประณามจากสาธารณชนอย่างมหาศาล ในยามที่ชาวแดนกิมจิเห็น โช เป็นตัวแทนของทายาทที่มักถูกตามใจจนเหลิง ของพวกมหาเศรษฐีเจ้าของกลุ่มกิจการผูกขาดยักษ์ใหญ่ หรือที่เรียกว่า “แชโบล” ผู้มีอิทธิพลครอบงำเศรษฐกิจเกาหลีใต้

โช ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหน้าที่ทั้งหมดในสายการบินโคเรียนแอร์ และกล่าวขอโทษสำหรับสิ่งที่เธอทำต่อสาธารณะ ภายหลังที่พ่อของเธอเคยออกมาขอโทษแทน “การกระทำอันโง่เขลา” ของลูกสาว

เธอถูกจับกุมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม และถูกควบคุมตัวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

โช เดินทางไปขึ้นศาลพร้อมผู้บริหารบริษัทคนหนึ่ง ผู้ถูกตั้งข้อหาว่ามีส่วนให้การเท็จ และนำรายละเอียดของกระบวนการสอบสวนไปแจ้งให้ โช ทราบล่วงหน้า นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้คนหนึ่งถูกกล่าวหาว่า ปูดรายละเอียดในการสอบสวนคดีนี้

กระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้มีแผนจะลง โทษสายการบินนี้ด้วยการสั่งแบนเที่ยวบินของโคเรียนแอร์นานถึง 1 เดือน โดยมีแนวโน้มสูงที่ คำสั่งห้ามนี้จะถูกบังคับใช้กับเส้นทางนิวยอร์ก-โซล หรืออาจสั่งปรับเป็นเงินสูงสุด 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

นอกเหนือจากนี้ กระทรวงคมนาคมโสมขาวยังให้คำมั่นว่าจะลงโทษเจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน 8 คน ภายหลังที่พวกเขายอมรับว่า ลำเอียงเข้าข้าง โช และสายการบินโคเรียนแอร์ ขณะได้รับมอบหมายให้เป็นผู้สอบสวนกรณีที่เกิดขึ้น