นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่าวันพุธที่ 15 ตุลาคม 2557 นี้เวลา 11.00 น. สมาคมฯและชาวบ้านในซอยสายลม (พหลโยธิน ซอย 8) จะเดินทางไปยื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อฟ้องผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, ผู้อำนวยการเขตพญาไท, เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) และคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) ที่พิจารณา EIA โครงการคอนโดมิเนียมในซอยสายลม ฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากผู้ถูกฟ้องคดีทั้งหมดใช้อำนาจทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายอนุมัติหรือเห็นชอบให้มีการก่อสร้างคอนโดมิเนียมนาม D’MEMORIA ขึ้นในพื้นที่ใจกลางซอยดังกล่าว ซึ่งอาจจะสร้างความแออัด ปัญหาการจราจร การแย่งใช้ถนนในซอยที่แคบ ซึ่งจะสร้างเดือดร้อนและเสียหายแก่ชาวบ้านที่อยู่อาศัยกันอย่างสงบในซอยดังกล่าวมากว่าครึ่งศตวรรษแล้ว ซึ่งคอนโดฯดังกล่าวมีขนาด 128 ห้อง แต่ได้ออกแบบให้มีที่จอดรถเพียงประมาณครึ่งเดียวของจำนวนห้อง ซึ่งจะทำให้เจ้าของคอนโดแต่ละห้องไม่มีที่จอดรถเพียงพอแน่นอน และจะล้นทะลักมาจอดบริเวณถนนในซอยแคบที่มีความกว้างไม่ถึง 8 เมตรเท่านั้น อีกทั้งถนนหน้าโครงการดังกล่าวเป็นถนนส่วนบุคคลมิใช่ถนนสาธารณะอีกด้วยอันเป็นการขัดต่อ พรบ.ควบคุมอาคาร 2522 ที่ห้ามไว้โดยชัดแจ้ง
นอกจากนั้นรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) จัดทำขึ้นมาไม่เป็นไปตามขั้นตอน วิธีการตามประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นชาวบ้านผู้มีส่วนได้เสียรอบพื้นที่โครงการดังกล่าว อีกทั้งเมื่อตรวจสอบรายงานฯดังกล่าวพบว่ามีการจัดทำข้อมูลไม่ตรงกับข้อเท็จจริงหลายประการ เช่น บ้านมีคนอยู่อาศัย ก็แจ้งว่าเป็นบ้านร้าง, ไม่มีการจัดประชุมชาวบ้าน แต่อ้างว่าจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นแล้ว เป็นต้น ซึ่ง สผ. และ คชก. มีหน้าที่ที่จะต้องตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงกลับละเลยที่จะทำหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด ชาวบ้านพยายามร้องเรียนหน่วยงานต่าง ๆ แล้วแต่ก็ไม่เป็นผล จึงจำเป็นต้องนำความมายื่นศาลปกครองเพื่อเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดฯดังกล่าว และเพิกถอนรายงาน EIA ดังกล่าวด้วย นายศรีสุวรรณกล่าว
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากผู้ถูกฟ้องคดีทั้งหมดใช้อำนาจทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายอนุมัติหรือเห็นชอบให้มีการก่อสร้างคอนโดมิเนียมนาม D’MEMORIA ขึ้นในพื้นที่ใจกลางซอยดังกล่าว ซึ่งอาจจะสร้างความแออัด ปัญหาการจราจร การแย่งใช้ถนนในซอยที่แคบ ซึ่งจะสร้างเดือดร้อนและเสียหายแก่ชาวบ้านที่อยู่อาศัยกันอย่างสงบในซอยดังกล่าวมากว่าครึ่งศตวรรษแล้ว ซึ่งคอนโดฯดังกล่าวมีขนาด 128 ห้อง แต่ได้ออกแบบให้มีที่จอดรถเพียงประมาณครึ่งเดียวของจำนวนห้อง ซึ่งจะทำให้เจ้าของคอนโดแต่ละห้องไม่มีที่จอดรถเพียงพอแน่นอน และจะล้นทะลักมาจอดบริเวณถนนในซอยแคบที่มีความกว้างไม่ถึง 8 เมตรเท่านั้น อีกทั้งถนนหน้าโครงการดังกล่าวเป็นถนนส่วนบุคคลมิใช่ถนนสาธารณะอีกด้วยอันเป็นการขัดต่อ พรบ.ควบคุมอาคาร 2522 ที่ห้ามไว้โดยชัดแจ้ง
นอกจากนั้นรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) จัดทำขึ้นมาไม่เป็นไปตามขั้นตอน วิธีการตามประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นชาวบ้านผู้มีส่วนได้เสียรอบพื้นที่โครงการดังกล่าว อีกทั้งเมื่อตรวจสอบรายงานฯดังกล่าวพบว่ามีการจัดทำข้อมูลไม่ตรงกับข้อเท็จจริงหลายประการ เช่น บ้านมีคนอยู่อาศัย ก็แจ้งว่าเป็นบ้านร้าง, ไม่มีการจัดประชุมชาวบ้าน แต่อ้างว่าจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นแล้ว เป็นต้น ซึ่ง สผ. และ คชก. มีหน้าที่ที่จะต้องตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงกลับละเลยที่จะทำหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด ชาวบ้านพยายามร้องเรียนหน่วยงานต่าง ๆ แล้วแต่ก็ไม่เป็นผล จึงจำเป็นต้องนำความมายื่นศาลปกครองเพื่อเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดฯดังกล่าว และเพิกถอนรายงาน EIA ดังกล่าวด้วย นายศรีสุวรรณกล่าว
