พ.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ รองเลขานุการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมมอบนโยบายด้านความมั่นคงให้กับหน่วยงานความมั่นคงที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานว่า พล.อ.ประวิตรได้มอบนโยบายให้น้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปปฏิบัติให้เกิดเป็นรูปธรรม ในเรื่องของความมั่นคง งานด้านความมั่นคงเป็นเรื่องของทุกภาคส่วนราชการ และประชาชนทุกคนต้องเข้ามามีส่วนร่วม ไม่ใช่เฉพาะทหารหรือตำรวจ
ทั้งนี้ในการทำงานจะใช้รูปแบบแผนแอคชั่นแพลน โดยยึดตามโรดแมป คสช. และรัฐบาล มีการจัดตั้งศูนย์การแก้ไขปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการจาก 4 กระทรวง และ 1 กรม ทำหน้าที่แบบวันสต็อปเซอร์วิสร่วมกันในส่วนของการปฏิบัติ การวิเคราะห์ และการเสนอแนะการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในระดับนโยบายไว้ที่กระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ประวิตร เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ พร้อมเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง คาดว่าจะเริ่มทำงานได้ในสัปดาห์หน้า และมีการประเมินผลทุก 3เดือน
พ.อ.คงชีพ กล่าวอีกว่า ส่วนในเรื่องการปกป้อง และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมของคนไทยตลอดไป ส่วนของการป้องกันการก่ออาชญากรรม นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ให้ทำหน้าที่อย่างแข็งขัน ลดปัญหาอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้น พร้อมลดความขัดแย้งความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งทุกส่วนราชการจะต้องไปสำรวจและรับทราบปัญหาอย่างจริงจัง โดยผ่านศูนย์ดำรงธรรมที่ได้จัดตั้งไว้ในแต่ละพื้นที่ ในด้านการสร้างความปรองดองของในชาติ ก็ขอให้หน่วยงานราชการปฏิบัติงานให้เกิดความเป็นธรรม สร้างความศรัทธา สร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับประชาชน
พล.อ.ประวิตร กล่าวแสดงความห่วงใยถึงความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน โดยได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กทม. สตช. การไฟฟ้าฯ ดำเนินการติดตั้งกล้องซีซีทีวีเพิ่มแสงสว่างให้ครอบคลุมพื้นที่ กทม. 283 จุด ภายใน 2 เดือน เพื่อลดปัญหาอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน โดยจะเน้นการป้องกันมากกว่าการแก้ไข
ทั้งนี้ในการทำงานจะใช้รูปแบบแผนแอคชั่นแพลน โดยยึดตามโรดแมป คสช. และรัฐบาล มีการจัดตั้งศูนย์การแก้ไขปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการจาก 4 กระทรวง และ 1 กรม ทำหน้าที่แบบวันสต็อปเซอร์วิสร่วมกันในส่วนของการปฏิบัติ การวิเคราะห์ และการเสนอแนะการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในระดับนโยบายไว้ที่กระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ประวิตร เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ พร้อมเปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง คาดว่าจะเริ่มทำงานได้ในสัปดาห์หน้า และมีการประเมินผลทุก 3เดือน
พ.อ.คงชีพ กล่าวอีกว่า ส่วนในเรื่องการปกป้อง และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมของคนไทยตลอดไป ส่วนของการป้องกันการก่ออาชญากรรม นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ให้ทำหน้าที่อย่างแข็งขัน ลดปัญหาอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้น พร้อมลดความขัดแย้งความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งทุกส่วนราชการจะต้องไปสำรวจและรับทราบปัญหาอย่างจริงจัง โดยผ่านศูนย์ดำรงธรรมที่ได้จัดตั้งไว้ในแต่ละพื้นที่ ในด้านการสร้างความปรองดองของในชาติ ก็ขอให้หน่วยงานราชการปฏิบัติงานให้เกิดความเป็นธรรม สร้างความศรัทธา สร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับประชาชน
พล.อ.ประวิตร กล่าวแสดงความห่วงใยถึงความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน โดยได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กทม. สตช. การไฟฟ้าฯ ดำเนินการติดตั้งกล้องซีซีทีวีเพิ่มแสงสว่างให้ครอบคลุมพื้นที่ กทม. 283 จุด ภายใน 2 เดือน เพื่อลดปัญหาอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน โดยจะเน้นการป้องกันมากกว่าการแก้ไข
