เปิดตัวศูนย์แก้ปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการ รวบรวมหลายหน่วยงาน รับทราบ เฝ้าระวังปัญหา วิเคราะห์และแก้ปัญหาที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของชาติและความปลอดภัย เผย รมว.กลาโหม สั่งติดตั้งไฟแสงสว่าง และกล้องซีซีทีวีภายใน 2 เดือน รวมทั้งสร้างความปรองดองและสันติสุขให้เกิดขึ้นถาวร
วันนี้ (1 ต.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พ.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ในวันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ประชุมมอบนโยบายให้กับทางศูนย์แก้ปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการ ซึ่งได้เปิดอย่างเป็นทางการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2557 ณ ศาลาว่าการกลาโหม โดยมี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และ รมช.กลาโหม เข้าร่วมประชุมด้วย โดยศูนย์แห่งนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อการแก้ปัญหาความมั่นคงร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อันได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สภาความมั่นคงแห่งชาติ รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเป็นการเชื่อมรวมการทำงานร่วมกันในลักษณะวันสตอปเซอร์วิส (One Stop Service) เพื่อติดตาม รับทราบและเฝ้าระวังปัญหา รวมทั้งวิเคราะห์และแก้ปัญหาที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
พ.อ.คงชีพ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำความสำคัญของศูนย์แห่งนี้ และสร้างความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ในการทำงานร่วมกัน และได้เน้นถึงความสำคัญกับการทำงานเชิงป้องกัน เพื่อมิให้ปัญหาที่เกิดขึ้นขยายตัวเป็นปัญหาใหญ่ ที่มีผลกระทบกับความมั่นคงของชาติ จนยากจะแก้ไข พร้อมกันนี้จะรับทราบปัญหาของประชาชนในพื้นที่ผ่านศูนย์ดำรงธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมขับเคลื่อนการแก้ปัญหาไปพร้อมๆ กัน
“งานที่ดำเนินการเร่งด่วนที่ทำได้ทันทีขณะนี้ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเร่งรัดติดตั้งแสงสว่าง และกล้องซีซีทีวีในพื้นที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาค รวมทั้งพื้นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญเป็นการเร่งด่วนให้แล้วเสร็จใน 2 เดือน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นความตั้งใจของรัฐบาลที่พยายามสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง ในขณะเดียวกัน ก็พยายามที่จะสร้างความปรองดองและสันติสุขของคนในชาติให้เกิดขึ้นอย่างถาวร พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวในตอนท้ายว่า งานความมั่นคงของชาติปัจจุบันมีความสำคัญยิ่ง จึงอยากขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนราชการ ภาคเอกชน และประชาชนทุกคน รวมทั้งสื่อมวลชน ได้ตระหนักและร่วมมือกันเพื่อให้ประเทศไทยของเรา ผ่านรอยต่อวิกฤติที่สำคัญของชาติร่วมกันไปให้ได้ ประเทศไทยและผลประโยชน์ของชาติจะได้เดินหน้าต่อไป จึงขอทุกฝ่ายร่วมมือกัน” โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว
