xs
xsm
sm
md
lg

ขุนคลังรอไฟเขียวเก็บภาษีมรดก10% ยันต้องขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รัฐบาลได้พิจารณาภาษีมรดก ซึ่งจะออกเป็น พ.ร.บ.ภาษีการรับมรดกและภาษีการรับให้ โดยจะให้มีการลดหย่อนผ่อนคลายมากขึ้นทั้งการเก็บอัตราเดียว 10% ซึ่งถือว่าไม่สูงเมื่อเทียบกับภาษีมรดกของประเทศญี่ปุ่นที่เก็บอัตรา 33% นอกจากนี้ยังมีการยกเว้นให้กับมรดกที่ไม่เกิน 50 ล้านบาทโดยการคิดมูลค่ามรดกยังให้นำไปหักกับหนี้สินของเจ้าของมรดกก่อนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น ไม่ให้หนีการเสียภาษีมรดกหรือการโอนเงินไปต่างประเทศแทน

อย่างไรก็ตามในร่างกฎหมายได้กำหนดว่า การโอนทรัพย์สินมรดก (ที่มีทะเบียน) ทั้ง เงินฝาก หุ้น ตราสาร ที่ดินอสังหาริมทรัพย์ ก่อนเสียชีวิต 2 ปี จะต้องถูกนำมาคำนวณเป็นภาษีมรดกเพื่อป้องกันการโอนทรัพย์ก่อนเสียชีวิตผู้ที่หลีกเลี่ยงเสียภาษีมรดกมีโทษทางอาญาจำคุก 6 เดือน

นอกจากนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้ความชัดเจนแล้วว่าคู่สามีภรรยาที่เสียชีวิตไม่ต้องเสียภาษีมรดก เพราะถือเป็นบุคคลคนเดียวกันรวมถึงคนที่ไม่ได้รับมรดกก็ได้รับการยกเว้นซึ่งการเก็บภาษีมรดกไม่ได้เพิ่มให้รายได้ของรัฐบาลมากแต่เป็นทำให้คนไทยรู้จักเสียภาษี เพราะคนรวยใช้ทรัพยากรของประเทศมากกว่าคนจนจึงควรต้องเสียภาษีมากกว่า

“ขณะนี้ร่างกฎหมายภาษีมรดกอยู่ระหว่างการพิจาณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อมีการหารือรายละเอียดกับรัฐบาลได้ข้อยุติหมดแล้ว ต้องเสนอมาที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา เพื่อส่งให้สภานิติบัญญัติ (สนช.) พิจารณาต่อไป”

สำหรับภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น นายสมหมาย ยืนยันจะต้องปรับเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 7 ในปัจจุบันแน่นอน เนื่องจากสัดส่วนรายได้ภาษีต่อจีดีพีของไทยต่ำมาก เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว ฉะนั้นจึงมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นตามความเหมาะสม

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการสนับสนุนเงินให้กับเกษตรกรรายย่อยที่มีที่ดินทำการเกษตรเบื้องต้นไม่เกิน 20 ไร่ เพื่อใช้ในการเกษตร อาทิ ซื้อยาฆ่าแมลง ปุ๋ย และเมล็ดพันธุ์พืช ในเดือนตุลาคม 2257 นี้ ซึ่งแนวทางในการดำเนินการทั้งหมดจะเป็นอย่างไรต้องพิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้งก่อน แต่ในเบื้องต้นจะใช้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. เป็นผู้ดำเนินการ

ส่วนการช่วยเหลือคนมีรายได้น้อย ตามมาตรการภาษีคนจนนั้น จะเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 2558 นี้ ซึ่งจะใช้เม็ดเงินจากรายได้ภาษีกรมสรรพากรมาจัดสรรให้กับผู้มีรายได้น้อยตามหลักเกณฑ์ที่จะออกมาในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งทั้ง 2 มาตรการจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อน โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณในการดำเนินการ 100,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น