วันนี้ (12 ก.ย.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางเข้ากระทรวงคมนาคมวันแรก โดยมีนางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม และผู้บริหารให้การต้อนรับ ทั้งนี้ พล.อ.อ.ประจิน ได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง คือ พระพุทธคมนาคมบพิตร และศาลพระภูมิ
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวถึงแนวทางการทำงานว่า จะยึดแนวปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งเศรษฐกิจพอเพียง และแนวทางการเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ขณะเดียวกัน จะเร่งรัดการทำงานตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รวมทั้งแนวทางปฏิบัติงานที่เน้นย้ำให้มีการทำจริงและทำทันที โดยยุทธศาสตร์การทำงานจะมุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบขนส่งและพัฒนาการคมนาคมเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน โดยมุ่งเป้าหมายจะให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมขนส่งในภูมิภาค
สำหรับนโยบายเร่งด่วน คือเร่งจัดทำแผนปฏิบัติงาน หรือแอคชันแพลน ประจำกระทรวงระยะ 1 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่เพิ่งแถลงไป หลังจากนั้นในปีที่ 2-4 จะวางแนวทางดำเนินนโยบายในอนาคต
ทั้งนี้ จะระดมความคิดเห็นเพื่อจัดทำร่างเงื่อนไขทีโออาร์ให้มีมาตรฐาน และโปร่งใสสำหรับโครงการที่ต้องทำเร่งด่วน ได้แก่ โครงการจัดหารถเมล์เอ็นจีวี 3,183 คัน ซึ่งระยะแรกจะซื้อเข้ามาก่อน 500 คันภายในปีนี้
ส่วนแผนระยะยาว ระยะเวลา 10 ปี จะวางโครงสร้างในการพัฒนาท่าเรือ สนามบิน รถไฟทางคู่ เพื่อเชื่อมโยงกับประเทศและมาเลเซีย โดยเฉพาะการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรกจะสร้างเป็นอาคารผู้โดยสารและลานจอดรถแห่งใหม่ให้แล้วเสร็จ ส่วนระยะที่ 2 จะดำเนินการรันเวย์ของสนามบิน ซึ่งแผนทั้งหมดจะมีความชัดเจนภายในเดือนตุลาคมนี้
นอกจากนี้ จะเร่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวง เนื่องจากสิ้นเดือนกันยายานนี้ จะมีผู้บริหารระดับสูงเกษียณอายุหลายตำแหน่ง และสุดท้ายจะจัดประชุมเชิงปฏิบัติการระบบคมนาคม 3 ด้าน ทั้งบก น้ำ และอากาศ เพื่อรับฟังแนวทางพัฒนา อุปสรรค ของระบบการขนส่ง
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวถึงแนวทางการทำงานว่า จะยึดแนวปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งเศรษฐกิจพอเพียง และแนวทางการเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ขณะเดียวกัน จะเร่งรัดการทำงานตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) รวมทั้งแนวทางปฏิบัติงานที่เน้นย้ำให้มีการทำจริงและทำทันที โดยยุทธศาสตร์การทำงานจะมุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบขนส่งและพัฒนาการคมนาคมเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน โดยมุ่งเป้าหมายจะให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมขนส่งในภูมิภาค
สำหรับนโยบายเร่งด่วน คือเร่งจัดทำแผนปฏิบัติงาน หรือแอคชันแพลน ประจำกระทรวงระยะ 1 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่เพิ่งแถลงไป หลังจากนั้นในปีที่ 2-4 จะวางแนวทางดำเนินนโยบายในอนาคต
ทั้งนี้ จะระดมความคิดเห็นเพื่อจัดทำร่างเงื่อนไขทีโออาร์ให้มีมาตรฐาน และโปร่งใสสำหรับโครงการที่ต้องทำเร่งด่วน ได้แก่ โครงการจัดหารถเมล์เอ็นจีวี 3,183 คัน ซึ่งระยะแรกจะซื้อเข้ามาก่อน 500 คันภายในปีนี้
ส่วนแผนระยะยาว ระยะเวลา 10 ปี จะวางโครงสร้างในการพัฒนาท่าเรือ สนามบิน รถไฟทางคู่ เพื่อเชื่อมโยงกับประเทศและมาเลเซีย โดยเฉพาะการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรกจะสร้างเป็นอาคารผู้โดยสารและลานจอดรถแห่งใหม่ให้แล้วเสร็จ ส่วนระยะที่ 2 จะดำเนินการรันเวย์ของสนามบิน ซึ่งแผนทั้งหมดจะมีความชัดเจนภายในเดือนตุลาคมนี้
นอกจากนี้ จะเร่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวง เนื่องจากสิ้นเดือนกันยายานนี้ จะมีผู้บริหารระดับสูงเกษียณอายุหลายตำแหน่ง และสุดท้ายจะจัดประชุมเชิงปฏิบัติการระบบคมนาคม 3 ด้าน ทั้งบก น้ำ และอากาศ เพื่อรับฟังแนวทางพัฒนา อุปสรรค ของระบบการขนส่ง
