ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซียในวันพุธ(3ก.ย) เรียกร้องทั้งกบฏยูเครนและกองกำลังรัฐบาลหยุดยิงและตอบตกลงในเงื่อนไขต่างๆในข้อตกลงสิ้นสุดสงคราม 4 เดือนอย่างถาวร พร้อมนำเสนอแผนสันติภาพ 7 ข้อ ในนั้นรวมถึงยุติปฏิบัติการกวาดล้างของฝ่ายทหาร ขณะที่เหล่าผู้นำเคียฟเสียงแตก โดยประธานาธิบดีหวังกระบวนการสันติภาพเริ่มต้นในวันศุกร์(5ก.ย.) แต่นายกรัฐมนตรีเตือนอาจเป็นแค่แผนหลอกชาติตะวันตก ก่อนหน้าการประชุมนาโต้และเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เท่านั้น
คำวิงวอนโดยครั้งแรกของปูติน ที่หวังเห็นฝ่ายกบฏยอมวางอาวุธมีขึ้นไม่กี่ชั่วโมง หลังจากประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก แห่งยูเครน บอกว่าเขาและผู้นำรัสเซียเห็นพ้องระหว่างหารือกันทางโทรศัพท์ต่อข้อตกลงหยุดยิง โดยถ้อยแถลงดังกล่าวเพิ่มความหวังแห่งการสิ้นสุดการสู้รบที่คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 2,600 ศพ และผลักความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก เข้าสู่จุดต่ำสุดนับตั้งแต่สงครามเย็น
ปูติน วางกรอบแผนสันติภาพ 7 ข้อ ในนั้นรวมถึงให้กองทัพยูเครนหยุดปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ส่วนฝ่ายกบฏก็ต้องยุติหน่วยติดอาวุธทางภาคตะวันออกของยูเครน เช่นเดียวกับการแลกเปลี่ยนนักโทษและกำหนดเขตมนุษยธรรมสำหรับผู้อพยพและความช่วยเหลือต่างๆ ขณะที่ผู้นำรัสเซียคาดหมายว่าข้อตกลงสุดท้ายจะเป็นการแถลงร่วมโดยตัวแทนจากฝ่ายแบ่งแยกดินแดนนิยมมอสโกและเคียฟ ระหว่างการเจรจาที่มียุโรปเป็นคนกลาง ในกรุงมินสก์ เมืองหลวงของเบลารุสในวันศุกร์(5ก.ย.)นี้
คณะผู้แทนของยูเครน รัสเซียและองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป(OSCE)มีกำหนดหารือกันในเมืองหลวงของเบลารุส เพื่อยุติความขัดแย้ง 6 เดือนระหว่างกองกำลังเคียฟและฝ่ายกบฏนิยมมอสโก
ถ้อยแถลงของปูติน สอดคล้องกับคำพูดของประธานาธิบดีโปโรเชนโก ที่แสดงความหวังในเวลาต่อมาของวันพุธ(3ก.ย.) ว่ากระบวนการสันติภาพสำหรับภาคตะวันออกของประเทศน่าจะเริ่มต้นขึ้นในวันศุกร์ พร้อมเรียกร้องเหล่านักการเมืองสนับสนุนการเจรจาครั้งนี้ "ผมมีความหวังใหญ่หลวงว่าในวันศุกร์ ที่กรุงมินสก์ ท้ายที่สุดแล้วกระบวนการสันติภาพจะได้เริ่มต้นขึ้น" เขาระบุในถ้อยแถลง "ประชาชนชาวยูเครนถวิลหาสันติภาพอย่างที่สุด แต่นักการเมืองต้องการเล่นเกมสงคราม ผมขอบอกได้เลยว่า ผมจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้น"
คำวิงวอนโดยครั้งแรกของปูติน ที่หวังเห็นฝ่ายกบฏยอมวางอาวุธมีขึ้นไม่กี่ชั่วโมง หลังจากประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก แห่งยูเครน บอกว่าเขาและผู้นำรัสเซียเห็นพ้องระหว่างหารือกันทางโทรศัพท์ต่อข้อตกลงหยุดยิง โดยถ้อยแถลงดังกล่าวเพิ่มความหวังแห่งการสิ้นสุดการสู้รบที่คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 2,600 ศพ และผลักความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับชาติตะวันตก เข้าสู่จุดต่ำสุดนับตั้งแต่สงครามเย็น
ปูติน วางกรอบแผนสันติภาพ 7 ข้อ ในนั้นรวมถึงให้กองทัพยูเครนหยุดปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ส่วนฝ่ายกบฏก็ต้องยุติหน่วยติดอาวุธทางภาคตะวันออกของยูเครน เช่นเดียวกับการแลกเปลี่ยนนักโทษและกำหนดเขตมนุษยธรรมสำหรับผู้อพยพและความช่วยเหลือต่างๆ ขณะที่ผู้นำรัสเซียคาดหมายว่าข้อตกลงสุดท้ายจะเป็นการแถลงร่วมโดยตัวแทนจากฝ่ายแบ่งแยกดินแดนนิยมมอสโกและเคียฟ ระหว่างการเจรจาที่มียุโรปเป็นคนกลาง ในกรุงมินสก์ เมืองหลวงของเบลารุสในวันศุกร์(5ก.ย.)นี้
คณะผู้แทนของยูเครน รัสเซียและองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป(OSCE)มีกำหนดหารือกันในเมืองหลวงของเบลารุส เพื่อยุติความขัดแย้ง 6 เดือนระหว่างกองกำลังเคียฟและฝ่ายกบฏนิยมมอสโก
ถ้อยแถลงของปูติน สอดคล้องกับคำพูดของประธานาธิบดีโปโรเชนโก ที่แสดงความหวังในเวลาต่อมาของวันพุธ(3ก.ย.) ว่ากระบวนการสันติภาพสำหรับภาคตะวันออกของประเทศน่าจะเริ่มต้นขึ้นในวันศุกร์ พร้อมเรียกร้องเหล่านักการเมืองสนับสนุนการเจรจาครั้งนี้ "ผมมีความหวังใหญ่หลวงว่าในวันศุกร์ ที่กรุงมินสก์ ท้ายที่สุดแล้วกระบวนการสันติภาพจะได้เริ่มต้นขึ้น" เขาระบุในถ้อยแถลง "ประชาชนชาวยูเครนถวิลหาสันติภาพอย่างที่สุด แต่นักการเมืองต้องการเล่นเกมสงคราม ผมขอบอกได้เลยว่า ผมจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้น"