xs
xsm
sm
md
lg

EU เห็นชอบเพิ่มคว่ำบาตรรัสเซีย แต่เปิดช่องถอนหากยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - สหภาพยุโรปลงมติรับรองมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อมอสโกในวันจันทร์ (8 ก.ย.) แม้ผู้นำรัสเซียและยูเครน ประกาศยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิงที่มีเป้าหมายระงับสงครามที่ยืดเยื้อมานาน 5 เดือน แต่ก็เปิดช่องให้สองฝ่ายหาทางแสวงหาหนทางสู่สันติก่อนที่จะมีผลบังคับใช้

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินแห่งรัสเซีย พูดคุยกับเปโตร โปโรเชนโก ไม่นานหลังจากผู้นำยูเครนฝักใฝ่ตะวันตกรายนี้เดินทางเยือนเชิงสัญลักษณ์เมืองที่อยู่ภายใต้การครอบครองของรัฐบาลแต่ถูกกบฏยิงถล่มอย่างหนัก หนึ่งวันหลังจากบรรลุข้อตกลงสันติภาพเมื่อวันศุกร์ (5 ก.ย.)

ทำเนียบประธานาธิบดียูเครนเผยว่า ทั้งสองฝ่ายคงดำเนินการร่วมกันเพื่อสนับสนุนข้อตกลงหยุดยิง ส่วนเคริมลินก็เสริมว่าผู้นำทั้งสองซึ่งพูดคุยกันทางโทรศัพท์กันบ่อยครั้ง เห็นพ้องเดินหน้าหารือกันถึงก้าวย่างต่างๆ ในการอำนวยความสะดวกต่อการแก้ไขสถานการณ์ทางภาคตะวันออกของยูเครนด้วยสันติวิธี

ในบรัสเซลส์ ที่ประชุมสหภาพยุโรปลงมติอย่างเป็นทางการ เห็นชอบมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อรัสเซีย แต่บอกว่ามันจะยังไม่มีผลบังคับใช้ในเร็ววันนี้ เพื่อรอดูว่าข้อตกลงหยุดยิงในปัจจุบันนั้นไดรับการยืดถือหรือไม่

เหล่าผู้นำยุโรปประสงค์เห็นความสู้รบหยุดลงเนื่องด้วยสถานการณ์ความรุนแรงได้ก่อความอกสั่นขวัญแขวนก่อตลาดการเงินและกระตุ้นให้เกิดสงครามการค้ากับรัสเซีย สร้างความเสียหายแก่ภาคการเกษตร รวมถึงคุกคามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของชาติชั้นนำของอียู อย่างเช่นเยอรมนี

“ข้อตกลงหยุดยิง ในตัวของมันเองยังไม่เพียงพอ” นายดิดิเยร์ บูร์คัลเตอร์ ประธานาธิบดีสวิตเซอร์แลนด์ และประธานองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป หรือโอเอสซีอี (OSCE) กล่าว “เราต้องการกระบวนการทางการเมือง การเจรจาระดับชาติและการเจรจาระหว่างสองประธานาธิบดี”

เบื้องต้นนายโปโรเชนโกก่อความสับสน ด้วยการแถลงว่า “เราจัดการปล่อยนักโทษของเรา 1,200 คน นับตั้งแต่เกิดข้อตกลงหยุดยิง” แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดกับประธานาธิบดีบอกกับเอเอฟพีในเวลาต่อมาว่านายโปโรเชนโก หมายถึงจำนวนชาวยูเครนที่ถูกฝ่ายกบฏควบคุมตัวเอาไว้ระหว่างความขัดแย้ง

การปล่อยตัวดังกล่าวมีขึ้นตามหลังข้อตกลงหยุดยิงในวันศุกร์ (5 ก.ย.) ซึ่งในนั้นรวมถึงการแลกเปลี่ยนนักโทษด้วย ขณะที่ทางโฆษกกระทรวงกลาโหมยูเครนเผยว่ากบฏได้ส่งมอบทหารของรัฐบาล 20 นายกลับมาตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว

คำสัญญาของประธานาธิบดีทั้งสองคนที่จะทำงานร่วมกันเพื่อยุติวิกฤตตะวันออก-ตะวันตกครั้งเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามเย็น มีขึ้นไม่นานก่อนที่สหภาพยุโรปจะเห็นชอบมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อภาคพลังงานและกลาโหมของรัสเซีย

แต่มาตรการนี้จะยังไม่มีผลบังคับใช้จนกว่าจะมีการเผยแพร่ในวารสารอย่างเป็นทางการของอียู ซึ่งต้องใช้เวลาหลายวันและสามารถระงับมาตรการคว่ำบาตรนี้ได้ หากเห็นว่าข้อตกลงหยุดยิงได้รับการยึดมั่น “มันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางภาคพื้น จุดยืนของอียูคือพร้อมทบทวนมาตรการคว่ำบาตรที่ผ่านความเห็นชอบทั้งหมดหรือแค่บางส่วน” นายเฮอร์มาน ฟาน รอมปุย ประธานสภายุโรปกล่าว

ก่อนหน้านี้ นายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย เคยเตือนว่าหากมีการลงโทษรอบใหม่ใดๆ จะได้เห็นมอสโกใช้มาตรการตอบโต้แบบอสมมาตร หรือก็คือจะเล่นงานเอาคืนแต่ละชาติหนักเบาไม่เท่ากัน ในนั้นรวมถึงการห้ามสายการบินต่างๆของอียู ใช้น่านฟ้าของประเทศ บินผ่านไปยังเอเชีย

คณะทูตของอียูระบุว่า มาตรการลงโทษครั้งใหม่นี้จะมุ่งเล่นงานเหล่ารัฐวิสาหกิจพลังงานและกลาโหมของรัสเซียหลายแห่ง โดยเหล่านี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้ระดมเงินทุนหรือกู้ยืมในตลาดการเงินยุโรป

การแซงก์ชันคราวนี้สร้างความเสียหายโดยเฉพาะแก่รอสเนฟต์ บริษัทยักษ์ใหญ่ทางพลังงานของรัสเซียที่บริหารงานโดยพันธมิตรใกล้ชิดของปูติน ที่กำลังเป็นหนี้หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการเข้าครอบครองกิจการบริษัทร่วมทุนทีเอ็นเค-บีพี เพื่อกลายเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก

นอกจากนี้แล้ว ทางสหภาพยุโรปยังเห็นพ้องสั่งอายึดทรัพย์สินและห้ามเดินทางต่อเจ้าหน้าที่ของรัสเซียเพิ่มเติม ทั้งจากความเกี่ยวข้องโดยตรงในวิกฤตยูเครน หรือถูกมองในฐานะมีบทบาทสำคัญในนโยบายต่างๆ ของปูติน
กำลังโหลดความคิดเห็น