บอร์ด บมจ.คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น (CSS) คลอดวอร์แรนต์ 280 ล้านหน่วย แจกฟรีให้ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 2.5 หุ้นสามัญเดิมต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย ราคาใช้สิทธิ 1.50 บาทต่อหน่วย บิ๊กบอส “สมพงษ์ กังสวิวัฒน์” ชี้ช่วยหนุนฐานธุรกิจ เพิ่มสภาพคล่องและเงินทุนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมโชว์ผลงานไตรมาส 2/57 กำไรพุ่งเป็น 46.67 ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 15.60 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 199.16% ลุยจ่ายปันผลระหว่างกาลให้ผู้ถือหุ้นทันที 0.06 บาท/หุ้น ตังค์เข้ากระเป๋าวันที่ 5 กันยายน 2557 ส่วนแนวโน้มธุรกิจยังสดในต่อเนื่อง ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 4,000 ล้านบาท
นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (CSS) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 3/2557 เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2557 ได้มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 350,000,000 บาท เป็น 490,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 280,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทรุ่นที่1 (CSS-W1) จำนวน 280,000,000 หน่วย ซึ่งจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วน 2.5 หุ้นสามัญเดิมต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า โดยกำหนดราคาการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิเท่ากับ 1.50 บาทต่อหุ้น อายุ 1.5 ปี
“บริษัทหวังว่าการเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มกระแสเงินสดเพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ และเป็นการขยายฐานทุนโครงสร้างเงินทุน โครงสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นและช่วยเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ในระยะยาวได้อีกด้วย" นายสมพงษ์ กล่าวในที่สุด
สำหรับผลประกอบการไตรมาศ 2/2557 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2557 ของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 46.67 ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 15.60 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 199.16% ส่วนงวด 6 เดือนมีกำไรสุทธิ 66.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 59.82 ล้านบาท
นายสมพงษ์ กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างโดดเด่นดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทจึงได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท เป็นจำนวนเงิน 42 ล้านบาท คิดเป็น 62.36% ของกำไรสุทธิเฉพาะกิจการ โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลระหว่างกาลนี้ในวันที่ 25 สิงหาคม 2557 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 26 สิงหาคม 2557 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 5 กันยายน 2557
อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังมีแนวโน้มเติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบการผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือยังเดินหน้าขยายการลงทุนโครงข่าย 3G รวมถึงทีวีดิจิตอลอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลทำให้ธุรกิจของบริษัทที่อิงกับการเติบโตของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม สามารถขยายตัวตามไปได้ โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2557 จะเติบโตอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 20% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,161 ล้านบาท
ทั้งนี้เป็นการทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์เกี่ยวกับระบบงานไฟฟ้าประมาณ 3,200 ล้านบาท และงานบริการติดตั้งระบบโทรคมนาคมประมาณ 800 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) รวมประมาณ 2,500 ล้านบาท แบ่งเป็นงานที่มาจากธุรกิจเทรดดิ้งประมาณ 900 ล้านบาท
"นับต่อจากนี้ธุรกิจและผลการดำเนินงานของ CSS จะเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานด้านโทรคมนาคมและงานเทรดดิ้ง แต่พระเอกของเรายังคงเป็นงานโทรคมนาคม ซึ่งสิ่งที่ CSS จะต้องเร่งทำ คือ การเพิ่มบุคลากรหรือทีมงานมืออาชีพเพื่อรองรับกับงานที่มีเข้ามา อีกทั้งมองหาช่องทางในการสร้างรายได้ในอนาคตให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปได้อย่างยั่งยืน "นายสมพงษ์กล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2557 (Record Date) ในวันที่ 25 สิงหาคม 2557 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 26 สิงหาคม 2557 ซึ่งวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่1/2557 จะมีขึ้นในวันที่ 12 กันยายน 2557 เวลา 10.00 น.ณ ห้องแซฟไฟร์ 117-119 อาคารฟอรั่ม 1 อิมแพค เมืองทองธานี
นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (CSS) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 3/2557 เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2557 ได้มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 350,000,000 บาท เป็น 490,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 280,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทรุ่นที่1 (CSS-W1) จำนวน 280,000,000 หน่วย ซึ่งจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วน 2.5 หุ้นสามัญเดิมต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า โดยกำหนดราคาการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิเท่ากับ 1.50 บาทต่อหุ้น อายุ 1.5 ปี
“บริษัทหวังว่าการเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มกระแสเงินสดเพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ และเป็นการขยายฐานทุนโครงสร้างเงินทุน โครงสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นและช่วยเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ในระยะยาวได้อีกด้วย" นายสมพงษ์ กล่าวในที่สุด
สำหรับผลประกอบการไตรมาศ 2/2557 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2557 ของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 46.67 ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 15.60 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 199.16% ส่วนงวด 6 เดือนมีกำไรสุทธิ 66.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 59.82 ล้านบาท
นายสมพงษ์ กล่าวว่า จากผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างโดดเด่นดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทจึงได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.06 บาท เป็นจำนวนเงิน 42 ล้านบาท คิดเป็น 62.36% ของกำไรสุทธิเฉพาะกิจการ โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลระหว่างกาลนี้ในวันที่ 25 สิงหาคม 2557 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 26 สิงหาคม 2557 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 5 กันยายน 2557
อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่าอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังมีแนวโน้มเติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบการผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือยังเดินหน้าขยายการลงทุนโครงข่าย 3G รวมถึงทีวีดิจิตอลอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลทำให้ธุรกิจของบริษัทที่อิงกับการเติบโตของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม สามารถขยายตัวตามไปได้ โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2557 จะเติบโตอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 20% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2556 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,161 ล้านบาท
ทั้งนี้เป็นการทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าและอุปกรณ์เกี่ยวกับระบบงานไฟฟ้าประมาณ 3,200 ล้านบาท และงานบริการติดตั้งระบบโทรคมนาคมประมาณ 800 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) รวมประมาณ 2,500 ล้านบาท แบ่งเป็นงานที่มาจากธุรกิจเทรดดิ้งประมาณ 900 ล้านบาท
"นับต่อจากนี้ธุรกิจและผลการดำเนินงานของ CSS จะเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานด้านโทรคมนาคมและงานเทรดดิ้ง แต่พระเอกของเรายังคงเป็นงานโทรคมนาคม ซึ่งสิ่งที่ CSS จะต้องเร่งทำ คือ การเพิ่มบุคลากรหรือทีมงานมืออาชีพเพื่อรองรับกับงานที่มีเข้ามา อีกทั้งมองหาช่องทางในการสร้างรายได้ในอนาคตให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปได้อย่างยั่งยืน "นายสมพงษ์กล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ บริษัทได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2557 (Record Date) ในวันที่ 25 สิงหาคม 2557 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 26 สิงหาคม 2557 ซึ่งวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่1/2557 จะมีขึ้นในวันที่ 12 กันยายน 2557 เวลา 10.00 น.ณ ห้องแซฟไฟร์ 117-119 อาคารฟอรั่ม 1 อิมแพค เมืองทองธานี
