“คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น” คาดผลงานไตรมาส 2 ปี 57 โตต่อเนื่องตามอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่ยังมีแนวโน้มสดใส รับอานิสงส์แผนลงทุนโครงข่าย 3G, 4G และทีวีดิจิตอล “สมพงษ์ กังสวิวัฒน์” เผยเตรียมเพิ่มศูนย์กระจายสินค้า สร้างบุคลากรมืออาชีพ รองรับแผนขยายธุรกิจ หวังเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ในอนาคต มั่นใจปั๊มรายได้ปีนี้โตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท
นายสมพงษ์ กังสวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ ซิสเต็มส์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CSS เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 57 ของบริษัทและบริษัทย่อยว่า ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ปี 57 ที่มีกำไรสุทธิ 20 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการขายและบริการติดตั้งอยู่ที่ 771 ล้านบาท และคาดว่าจะดีต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญจนถึงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ และต่อเนื่องไปในปี 58 เนื่องจากมีงานเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งงานด้านโทรคมนาคม และงานเทรดดิ้ง
“ทิศทางผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 57 ของบริษัท และบริษัทย่อยยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาสแรก โดยเฉพาะไตรมาส 3-4 ปี 57 จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมีงานจากโทรคมนาคม และเทรดดิ้งเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งบริษัทมีแผนที่จะขยายช่องทางการสร้างรายได้ โดยเตรียมที่จะเพิ่มเอาต์เลต เป็นร้านค้าที่จำหน่ายหลอดไฟ และระบบแสงสว่างของฟิลลิปส์ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็น 4 แห่ง จากเมื่อปี 56 มีอยู่จำนวนทั้งสิ้น 1 แห่ง รวมถึงการเพิ่มบุคลากร หรือทีมงานมืออาชีพ อันน่าจะหนุนให้บริษัทเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต” นายสมพงษ์ กล่าว
นายสมพงษ์ กล่าวว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในช่วงที่เหลือของปีนี้เชื่อว่า ยังมีทิศทางเติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบการผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือยังเดินหน้าขยายการลงทุนโครงข่าย 3G, 4G รวมถึงทีวีดิจิตอลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลทำให้ธุรกิจของบริษัทที่อิงกับการเติบโตของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมสามารถขยายตัวตามไปได้ ขณะเดียวกัน เชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้มากนัก
โดยบริษัทมั่นใจว่ารายได้ปี 57 จะเติบโตอยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 20% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 56 สำหรับปัจจัยที่หนุนให้ผลประกอบการเติบโตได้ตามเป้า เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้า และอุปกรณ์เกี่ยวกับระบบงานไฟฟ้าประมาณ 3,200 ล้านบาท และงานบริการติดตั้งระบบโทรคมนาคมประมาณ 800 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) รวมประมาณ 2,400 ล้านบาท แบ่งเป็นงานที่มาจากธุรกิจเทรดดิ้งประมาณ 700 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทได้รับการว่าจ้างงานติดตั้งเสาโทรคมนาคม จาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) อีก 1,200 ต้น สัญญา 2 ปี ส่งมอบปีละ 600 ต้น มูลค่าประมาณ 1,500 ล้านบาท ที่จะดำเนินการแล้วเสร็จในอีก 2 ปี รวมถึงงานโทรคมนาคมระหว่างทางที่จะทยอยรับรู้รายได้อีกประมาณ 200 ล้านบาท และงานใหม่ๆ ที่เตรียมจะเข้าร่วมประมูลอีกหลายโครงการ