คณะสอบสวนนานาชาติเข้าถึงจุดตกของเที่ยวบิน MH17 ทางภาคตะวันออกของยูเครนแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี(31) ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของออสเตรเลียเชื่อว่ายังคงมีร่างไร้วิญญาณของผู้โดยสารและลูกเรืออีกกว่า 80 ศพที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว
รายงานข่าวนี้มีขึ้นท่ามกลางความกังวลของชาติตะวันตกว่ารัสเซียอาจดำเนินการกัดกร่อนความพยายามสืบสวนหาสาเหตุเครื่องบินตกของนานาชาติ หลังจากฝ่ายกบฏนิยมมอสโกถูกกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายยิงเที่ยวบินนี้ตก คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือยกลำ 298 คน
จูเลีย บิชอบ รัฐมนตรีต่างประเทศของออสเตรเลียเปิดเผยว่าจากรายงานบ่งชี้ว่ายังมีศพมากสุดถึง 80 ศพที่คณะสืบสวนยังหาไม่พบ แม้สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้มากขึ้นก็ตาม "มันเป็นข่าวที่ทำหัวใจสลาย และน่าหดหู่อย่างยิ่ง" เธอบอก หลังจากความพยายามเข้าถึงพื้นที่ครั้งที่ 4 ประสบความล้มเหลว "เรามีทีมงานประจำการอยู่ เรามีผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมทำงาน แต่เราไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ ฉันมีความกังวลอย่างยิ่งที่รัสเซีย อาจเคลื่อนไหวขัดขวางกระบวนการนี้"
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาคณะผู้เชี่ยวชาญชาวเนเธอร์แลนด์ 2 คนและออสเตรเลีย 2 คน ก็สามารถเข้าถึงเขตที่ซากหักพังของเครื่องบินกระจัดกระจายอยู่ได้แล้ว หลังความพยายามแบบรายวันเกือบทั้งสัปดาห์ประสบความล้มเหลวมาโดยตลอด เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวยังมีการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างกองกำลังรัฐบาลยูเครนและฝ่ายกบฏ ทั้งนี้การเข้าถึงพื้นที่ครั้งนี้ยังได้รับการยืนยันจากองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป(OSCE) ซึ่งมีหน้าที่คอยตรวจตราอารักขาทีมผู้เชี่ยวชาญ
รายงานข่าวนี้มีขึ้นท่ามกลางความกังวลของชาติตะวันตกว่ารัสเซียอาจดำเนินการกัดกร่อนความพยายามสืบสวนหาสาเหตุเครื่องบินตกของนานาชาติ หลังจากฝ่ายกบฏนิยมมอสโกถูกกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายยิงเที่ยวบินนี้ตก คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือยกลำ 298 คน
จูเลีย บิชอบ รัฐมนตรีต่างประเทศของออสเตรเลียเปิดเผยว่าจากรายงานบ่งชี้ว่ายังมีศพมากสุดถึง 80 ศพที่คณะสืบสวนยังหาไม่พบ แม้สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้มากขึ้นก็ตาม "มันเป็นข่าวที่ทำหัวใจสลาย และน่าหดหู่อย่างยิ่ง" เธอบอก หลังจากความพยายามเข้าถึงพื้นที่ครั้งที่ 4 ประสบความล้มเหลว "เรามีทีมงานประจำการอยู่ เรามีผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมทำงาน แต่เราไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ ฉันมีความกังวลอย่างยิ่งที่รัสเซีย อาจเคลื่อนไหวขัดขวางกระบวนการนี้"
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาคณะผู้เชี่ยวชาญชาวเนเธอร์แลนด์ 2 คนและออสเตรเลีย 2 คน ก็สามารถเข้าถึงเขตที่ซากหักพังของเครื่องบินกระจัดกระจายอยู่ได้แล้ว หลังความพยายามแบบรายวันเกือบทั้งสัปดาห์ประสบความล้มเหลวมาโดยตลอด เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวยังมีการปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างกองกำลังรัฐบาลยูเครนและฝ่ายกบฏ ทั้งนี้การเข้าถึงพื้นที่ครั้งนี้ยังได้รับการยืนยันจากองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป(OSCE) ซึ่งมีหน้าที่คอยตรวจตราอารักขาทีมผู้เชี่ยวชาญ