เอเอฟพี - รัสเซียได้ออกมากล่าวหาว่าสหรัฐฯ พยายามขัดขวางการปฏิบัติงานขององค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือแห่งยุโรป (โอเอสซีอี) ในยูเครน ขณะที่การต่อสู้ยังคงปะทุขึ้นรอบๆ จุดตกของเที่ยวบิน MH17 และเนเธอร์แลนด์ได้ล้มเลิกแผนส่งกองกำลังติดอาวุธนานาชาติเข้าไปรักษาความสงบเรียบร้อยในที่เกิดเหตุ
เซียร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ระบุในคำแถลงวานนี้ (27 ก.ค.) ว่าเขาได้ขอให้ จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ “สั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาหยุดขวางทางไม่ให้โอเอสซีอีดำเนินภารกิจตอนนี้” ขณะที่ทั้งสองสนทนากันทางโทรศัพท์
เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ระหว่างการพูดคุย เคร์รีได้เรียกร้องให้รัสเซีย “เริ่มมีส่วนร่วมในการบรรเทาความขัดแย้ง” ในยูเครน
บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้สังเกตการณ์จากองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือแห่งยุโรป (โอเอสซีอี) ยังคงไม่สามารถเข้าไปในจุดที่เครื่องบินโดยสารของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส ตกเมื่อเกือบ 2 สัปดาห์ก่อน จนทำให้ลูกเรือและผู้โดยสารรวม 298 คนเสียชีวิตยกลำ
มอสโกได้กล่าวหาสหรัฐฯ ว่า คอยหนุนหลังให้กรุงเคียฟปราบปรามกลุ่มติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซียทางภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งเกิดเหตุไม่สงบบ่อยครั้ง และ “มีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุนองเลือด” จากการสู้รบระหว่างกองกำลังของรัฐบาลยูเครนกับกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย
ในเวลาเดียวกัน สหรัฐฯ และยุโรปได้กล่าวหามอสโกว่า แอบให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธ ทั้งยังอ้างว่าเที่ยวบิน MH17 ตกเพราะถูกขีปนาวุธที่รัสเซียส่งให้กบฏสอยร่วงลงมา
เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า “รัฐมนตรี เคร์รี ได้เรียกร้องให้รัฐมนตรีต่างประเทศ ลาฟรอฟ หยุดส่งอาวุธหนัก จรวด และกระสุนปืนใหญ่ของรัสเซียไปให้ (กลุ่มติดอาวุธ) ในยูเครน”
“เขาไม่เชื่อคำปฏิเสธของรัฐมนตรีต่างประเทศ ลาฟรอฟ ที่ว่าอาวุธหนักจากรัสเซียไม่ได้มีส่วนทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้น”
กระทรวงการต่างประเทศแดนหมีขาวระบุว่า รัฐมนตรีทั้งสองเห็นพ้องต้องกันว่า จำเป็นต้องมีการทำข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน และควรเปิดโต๊ะเจรจา ตามเงื่อนไขในข้อตกลงที่ผ่านการลงนามเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศแดนอินทรีเผยว่า เคร์รีเน้นย้ำว่า วอชิงตัน “ส่งเสริมการทำข้อตกลงหยุดยิงร่วมกัน ที่ผ่านการตรวจสอบจากโอเอสซีอี พร้อมทั้งยืนกรานว่า เราสนับสนุนอย่างแรงกล้า ให้ส่งเจ้าหน้าที่นานาชาติลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงจากกรณี MH17”