เอเอฟพี - รัฐบาลยูเครนและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครนสามารถบรรลุข้อตกลงในวันเสาร์ (19 ก.ค.) ที่จะจัดตั้งโซนปลอดภัย 20 กม.รอบจุดตกเครื่องบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส MH17 หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่าทีมเจ้าหน้าที่ OSCE ถูกจำกัดเข้าสำรวจพื้นที่ และมีสมาชิกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครนบางคนที่มึนเมาสั่งห้ามเจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ ด้านเจ้าหน้าที่มาเลเซียจำนวน 62 คนเดินทางมาถึงเคียฟ พร้อมทั้งคาดว่ารัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมมาเลเซีย ดาโต๊ะ สรี เลียว เตียงไล (Liow Tiong Lai) จะเดินทางไปที่จุดเกิดเหตุภายหลัง
ในวันเสาร์ (19) แหล่งข่าวความมั่นคงยูเครนเผยว่า รัฐบาลเคียฟและกบฎยูเครนตกลงที่จะจัดตั้งเขตปลอดภัยรอบบริเวณจุดตกของ MH17 เพื่อประโยชน์ในการกู้ภัย และทำการสอบสวนการตก
ในข้อตกลงนั้นรวมไปถึงการจัดตั้งเขตปลอดภัยราว 20 กม. เพื่อให้ยูเครนสามารถทำงานกู้ภัย รวมไปถึงการค้นหาร่างผู้เสียชีวิต และส่งคืนให้กับญาติผู้โดยสารเหล่านั้นได้ในที่สุด วาเลนไทน์ นาลิวายเชนโก (Valentyn Nalyvaychenko)หัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงยูเครนให้สัมภาษณ์ผ่านโทรทัศน์วันนี้(19)
ภายใต้การแทรกแซงของนานาชาติ ถึงแม้จุดเครื่องบินตกจะอยูในเขตอิทธิพลกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครน และเป็นเขตสงคราม แต่รัฐบาลยูเครนมีสิทธิ์ทำคดีสอบสวนเรื่องนี้ได้
โดยก่อนหน้านี้ CNN สื่อสหรัฐฯรายงานว่า OSCE ที่เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุแต่ไม่สามารถเข้าพื้นที่เกิดเหตุอย่างสมบูรณ์ เพราะถูกกบฏยูเครนขัดขวางไว้ ถึงขั้นมีสมาชิกกบฎบางคนที่ดื่มสุราห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่ OSCE เข้าไปตรวจดูพื้นที่เกิดเหตุ
ในขณะเดียวกัน ทีมมาเลเซีย 62 คน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สอบสวนเครื่องบินตกทั้ง 2 คดีได้เดินทางมาถึงยูเครนในวันเสาร์ (19) และคาดว่ารัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมมาเลเซีย ดาโต๊ะ เสรี เลียว เตียงไล (Liow Tiong Lai) จะเดินทางไปยังจุดตกในภายหลัง จากการที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นาจิบ ราซัค ได้ต่อสายถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในคืนดึกวันศุกร์ (18) ร้องขอให้สามารถเข้าพื้นที่ได้
“ผมได้คุยกับปูติน พร้อมกับย้ำว่าที่เกิดเหตุไม่ควรให้มีใครไปแตะต้องก่อนเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบ” นาจิบ ราซัคกล่าว สำนักข่าวเบอร์นามารายงาน
เดลีสตาร์ สื่อมาเลเซียรายวานว่า รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมมาเลเซียจะออกเดินทางในคืนนี้ (19) เพื่อออกเดินทางมายังยูเครน