xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ดัตช์-ออสซีเข้าจุด MH17 ตกไม่ได้ กองทหารยูเครนโจมตีกวาดล้างกบฏ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมาชิกกองพันดอนบาสส์ ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนรัฐบาลยูเครน ออกตรวจการณ์ตามพื้นที่แถบชานเมืองลืยซืยชันสค์ ทางภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อวันเสาร์ (26 ก.ค.) ในเวลาที่กองทหารยูเครนดำเนินปฏิบัติการยึดคืนเมืองรืยซืยชันสค์ ที่ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ และปราบปรามกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย ซึ่งแผ่อิทธิพลในภาคตะวันออกของยูเครน
เอเจนซีส์ - การสู้รบหนักที่เกิดขึ้นในพื้นที่รอบๆ สถานที่เที่ยวบิน MH17 ถูกยิงตกทางภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อวันอาทิตย์ (27 ก.ค.) บีบบังคับให้กำลังตำรวจดัตช์และออสเตรเลียที่ไม่ถืออาวุธ ต้องระงับแผนการเข้าไปรักษาความปลอดภัยบริเวณดังกล่าว ขณะเดียวกัน รัสเซียออกมาวิจารณ์มาตรการลงโทษเพิ่มเติมครั้งล่าสุดของสหภาพยุโรป (อียู) ว่า เป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบ พร้อมกันกล่าวหาสหรัฐฯ ด้วยว่า มีส่วนในสถานการณ์วุ่นวายในยูเครนตะวันออกจากการหนุนหลังรัฐบาลกรุงเคียฟ

กองกำลังตำรวจของเนเธอร์แลนด์และออสเตรเลีย มีกำหนดที่จะเดินทางเข้าสู่พื้นที่เครื่องบินโดยสารของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ถูกยิงตก หลังจากได้ทำข้อตกลงกับฝ่ายกบฎแล้ว ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะเปิดทางให้เดินหน้าดำเนินการสืบสวนสอบสวนโศกนาฏกรรมครั้งนี้ต่อไปได้ ในขณะที่เหตุเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 777 ลำนี้ถูกสอยร่วง ล่วงเลยมาได้ 10 วันแล้ว

ทว่าหน่วยงานผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ดูแลการเดินทางคราวนี้ ต้องยกเลิกแผนการนี้ไปอย่างกะทันหัน หลังจากเกิดการสู้รบกันที่เป็นการทำลายการตกลงหยุดยิงกันระหว่างกองทัพรัฐบาลกับฝ่ายกบฎในพื้นที่รอบๆ สถานที่เกิดเหตุ โดยที่เชื่อกันว่าบริเวณนี้ยังคงมีศพอีกจำนวนหนึ่งของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายบนเครื่องบินซึ่งเสียชีวิตหมดทั้ง 298 คน

อเล็กซานเดอร์ ฮุก รองหัวหน้าคณะผู้เฝ้าติดตามขององค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) แถลงว่า สถานการณ์ในเวลานี้อันตรายเกินกว่าที่พวกเจ้าหน้าที่ปราศจากอาวุธเหล่านี้จะเดินทางเข้าไปยังจุดที่เครื่องบินตก เขาแถลงกับพวกผู้สื่อข่าวจากที่มั่นของฝ่ายกบฎในเมืองโดเนตสก์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแถบนี้

ขณะที่ยังไม่ทราบชัดเจนในเฉพาะหน้านี้ว่าการสู้รบกันเกิดขึ้นตรงไหนแน่ แต่เจ้าหน้าที่กลาโหมของฝ่ายรัฐบาลยูเครนผู้หนึ่งบอกกับสำนักข่าวเอพีในวันอาทิตย์ว่า กองกำลังของฝ่ายรัฐบาลเวลานี้กำลังทุ่มเทความพยายามในการขับไล่กวาดล้างพวกกบฏให้ออกไปจากพื้นที่รอบๆ จุดที่เที่ยวบิน MH17 ตก
ทหารช่างยูเครนตรวจสอบขีปนาวุธด้าน ในเมืองลืยซืยชันสค์ ทางตะวันออกของยูเครน เมื่อวันเสาร์ (26 (ก.ค.)  โดยขีปนาวุธแบบนี้เป็นชนิดเดียวกับที่กลุ่มติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซียใช้โจมตีกองกำลังยูเครน
ฮุกบอกว่า จะคอยเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และจะเริ่มส่งกำลังตำรวจเข้าไปยังสถานที่ดังกล่าวในตอนเช้าวันจันทร์ (28) ถ้าหากมีความปลอดภัยมากขึ้น

ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ของมาเลเซีย แถลงว่า เขาได้ทำความตกลงกับพวกกบฎที่ควบคุมพื้นที่บริเวณเครื่องบินตกแล้ว โดยฝ่ายนี้ยินยอมให้กำลังตำรวจของเนเธอร์แลนด์และออสเตรเลียเข้าไปได้

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา อันเดรย์ ลีเซนโค โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของยูเครนแถลงว่า กองทหารยูเครนกำลังสู้รบกับพวกกบฎในพื้นที่ต่างๆ หลายแห่งในวันอาทิตย์ รวมทั้งที่เมืองเดบัลต์เซเว ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเครื่องบินตกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 25 กิโลเมตร ทั้งนี้มีรายงานข่าวหลายกระแสระบุด้วยว่า รัฐบาลยูเครนกำลังพยายามเผด็จศึกตีเมืองโดเนตสก์คืน

ถึงแม้สถานการณ์ยังมีความเสี่ยงอยู่มาก แต่ปรากฏว่าได้มีสามีภรรยาชาวออสเตรเลียคู่หนึ่ง เดินทางเข้าไปยังบริเวณที่ MH17 ถูกยิงตกตามลำพังเมื่อวันเสาร์ (26) เพื่อทำตามคำมั่นที่ให้ไว้กับลูกสาววัย 25 ปี นักศึกษาวิศวกรรมอวกาศ ซึ่งเป็น 1 ใน 298 ชีวิตที่ดับสูญไปพร้อมกับเครื่องบินลำนี้

ในวันเสาร์เช่นกัน กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้ออกคำแถลงตอบโต้สหภาพยุโรป (อียู) อย่างเดือดดาลว่า ไร้ความรับผิดชอบ และเตือนว่า มาตรการแซงก์ชันล่าสุดของบรัสเซลส์ทำให้ความร่วมมือและความมั่นคงของสองฝ่ายตกอยู่ในความเสี่ยง ซึ่งรวมถึงความพยายามในการต่อสู้กับลัทธิก่อการร้าย การแพร่กระจายอาวุธทำลายล้างสูง องค์กรอาชญากรรม ตลอดจนความท้าทายและอันตรายรูปแบบใหม่อื่นๆ
 ชาวบ้านในเมืองลืยซืยชันสค์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน เข้าแถวรอรับรับบริจาคขนมปังในวันอาทิตย์ (27 ก.ค.)
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมา (25) อียูประกาศลงโทษทางเศรษฐกิจต่อมอสโก โดยถือเป็นการแซงก์ชั่นครั้งแรกที่มีสาเหตุจากพฤติกรรมของรัสเซียในยูเครน มาตรการเหล่านี้ที่สำคัญแล้วเป็นการห้ามไม่ให้ออกวีซ่าเข้าอียู และอายัดทรัพย์สินซึ่งมีอยู่ในอียู ของผู้อำนวยการหน่วยงานความมั่นคงและข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย ตลอดจนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซียจำนวนหนึ่งซึ่งเห็นกันว่ามีบทบาทในการกำหนดนโยบายที่คุกคามอธิปไตยและบูรณาภาพของยูเครน

นอกจากนั้น กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังออกคำแถลงอีกฉบับหนึ่ง กล่าวหาอเมริกาที่ประกาศแซงก์ชันมอสโกก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน ว่ามีส่วนผลักดันให้เกิดความขัดแย้งในยูเครน จากการสนับสนุนรัฐบาลโปรตะวันตกในกรุงเคียฟปราบปรามผู้ต่อต้านในดินแดนที่ประชากรพูดภาษารัสเซีย

อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของเยอรมนีฉบับวันเสาร์ได้รายงานคำสัมภาษณ์ของแฟรงก์-วอลเตอร์ สไตน์ไมเออร์ รัฐมนตรีต่างประเทศเมืองเบียร์ ซึ่งประกาศสนับสนุนมาตรการลงโทษของอียูว่า หลังจากการเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์เกือบ 300 คนบนเที่ยวบิน MH17 และการบุกตะลุยพื้นที่เกิดเหตุอย่างไร้ความเคารพของนักรบกลุ่มกบฏโดเนตสก์ พฤติกรรมของรัสเซียทำให้อียูไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากการแซงก์ชันรอบใหม่

นอกจากนั้น ความหวังของตะวันตกที่จะเห็นรัสเซียลดละความเกี่ยวข้องในยูเครนตะวันออกยังคงมืดมัว โดยสหรัฐฯ อ้างว่ารัสเซียยิงปืนใหญ่เข้าไปในยูเครนเมื่อวันศุกร์ รวมทั้งเคลื่อนย้ายระบบจรวดอานุภาพสูงเข้าใกล้พรมแดนติดกับยูเครน

ข้อกล่าวหานี้ทำให้เครมลินกริ้วหนักและตอบโต้ว่าวอชิงตันพยายามปั้นเรื่องใส่ร้ายตนไม่หยุดหย่อน
เรือรบของแดนหมีขาวระดมยิงกระสุนเนื่องในวันทหารเรือรัสเซีย (27 ก.ค.) ณ ท่าเรือเซวัสโตปอล คาบสมุทรไครเมีย อดีตดินแดนของยูเครน ที่มอสโกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ
ทหารเรือรัสเซียเดินสวนสนามเนื่องในวันทหารเรือ ณ ท่าเรือเซวัสโตปอล คาบสมุทรไครเมีย ในวันอาทิตย์ (27 ก.ค.)
กำลังโหลดความคิดเห็น