เอเอฟพี - ออสเตรเลียแถลงวันนี้ (27 ก.ค.) ว่า ในสัปดาห์หน้าจะส่งกำลังพลติดอาวุธ “จำนวนมาก” เข้าไปยังจุดที่เที่ยวบิน MH17 ตกลงมา ขณะที่เน้นย้ำว่า เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวจะเป็น “กองกำลังที่ไม่เป็นภัย” และไม่ได้ดำเนินภารกิจร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร
ออสเตรเลีย และเนเธอร์แลนด์ ได้เตรียมความพร้อมล่วงหน้า ก่อนส่งกองกำลังของทั้งสองประเทศเข้าประจำการในเขตอิทธิพลของกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย ทางตะวันออกของยูเครน เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในจุดที่เที่ยวบิน MH17 โหม่งโลก และกู้ร่างเหยื่อผู้เสียชีวิต ตลอดจนสำรวจซากอากาศยาน
จูลี บิชอป รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย ชี้แจงว่า จะมีเจ้าหน้าที่บางส่วนของคณะทำงานออสซี่ ในจุดที่เกิดเหตุพกพาอาวุธ เพื่ออารักขาเหล่าพนักงานสืบสวน แต่ไม่ได้ระบุว่า จะมีเจ้าหน้าที่ติดอาวุธจำนวนกี่คน
บิชอป ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ช่อง 10 จากกรุงอัมสเตอร์ดัมว่า “ส่วนสำคัญของคณะทำงานชุดนี้ คือ จะมีตำรวจฝ่ายสืบสวน ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการพิสูจน์อัตลักษณ์ และการสืบสวน ซึ่งเป็นชาวเนเธอร์แลนด์หรือออสเตรเลีย”
“สิ่งที่เราต้องการคือ การรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อที่เราจะสามารถตรวจสอบได้โดยละเอียด และนำร่างผู้เสียชีวิตกลับมาทั้งหมด”
พล.อ.อ.แองกัส ฮุสตัน อดีตผู้บัญชาการทหารออสเตรเลีย ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นทูตพิเศษออสเตรเลียประจำยูเครนตะวันออกกล่าวว่า ทหารจากกองกำลังป้องกันประเทศออสเตรเลีย (เอดีเอฟ) จะไม่มีส่วนร่วมในภารกิจลงพื้นที่ค้นหาซากเครื่องบิน ของคณะทำงานภายใต้การนำของตำรวจชุดนี้
แดนจิงโจ้กำลังเตรียมส่งตำรวจของรัฐบาลกลางออสเตรเลียไปยังเนเธอร์แลนด์ 190 นาย พร้อมกับทหารเอดีเอฟจำนวนเล็กน้อย ซึ่งรวมถึง คณะแพทย์ เพื่อเข้าร่วมปฏิบัติการป้องกันจุดที่เกิดเหตุ ที่เนเธอร์แลนด์เป็นหัวเรือใหญ่
ทางด้าน กลุ่มติดอาวุธฝักใฝ่รัสเซีย ซึ่งถูกกล่าวหาว่า ใช้ขีปนาวุธที่ได้รับจากมอสโก ยิงเที่ยวบิน MH17 ตกทางภาคตะวันออกของยูเครน ได้ออกมาส่งสัญญาณว่า จะยอมเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ดัชต์ และออสซี่เข้าไปเป็นจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น
ฮุสตันกล่าวกับเครือข่ายสถานีโทรทัศน์เอบีซีว่า “เจ้าหน้าที่ทหารมีส่วนร่วมในบางภารกิจ แต่ปฏิบัติการนี้อยู่ใต้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผมคิดว่า การทำเช่นนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง และการแสดงท่าทีที่ไม่รุนแรงหรือเป็นภัย เพื่อไม่ให้มีผู้เข้าแทรกแซงเป็นเรื่องสำคัญมาก
“หากเราใช้ยานพาหนะสีขาว (เข้าไปในจุดเครื่องบินตก) ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะทำร่วมกับองค์การเพื่อความมั่นคงและความร่วมมือแห่งยุโรป (โอเอสซีอี) ก็จะถือเป็นการแสดงท่าทีที่ถูกต้องอย่างชัดเจน”
ฮุสตันกล่าวว่า “ปฏิบัติการมนุษยธรรม” ครั้งนี้จะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์หน้า และเสริมว่า “เราจะส่งทั้งเจ้าหน้าที่ติดอาวุธและปราศจากอาวุธเข้าไปพร้อมกัน หากเป็นความประสงค์ของรัฐบาลออสเตรเลีย”
เขาระบุเพิ่มเติมว่า ภารกิจสำรวจพื้นที่เครื่องบินตกของเจ้าหน้าที่ออสเตรเลียบางส่วน “ประสบความสำเร็จอย่างมาก” และกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียที่พวกเขาได้พบ “มีความเป็นมืออาชีพ และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี”
ทั้งนี้ ในหมู่ผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องบินของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สที่เสียชีวิต 298 คน มี 28 คนเป็นพลเมืองสัญชาติออสเตรเลีย และอีก 9 เป็นบุคคลมีถิ่นที่อยู่ถาวรในแดนจิงโจ้