เอเจนซีส์ - รัฐบาลยูเครนใช้ภาพเด็กทารกนอนจมกองเลือดโจมตีประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ล่าสุดเมื่อคืนวานนี้ (18) หลังจากเผยแพร่ภาพสุดสยองรูปซากเด็กทารกนอนจมกองเลือดรวมกับเด็กอื่นๆที่เป็นผู้โดยสารราว 80 คน ที่มีเด็กทารก 3 คนรวมอยู่ในนั้น โดยเคียฟกล่าวหาว่าในขณะนี้มือปูตินได้เปื้อนไปด้วยเลือดของเด็กผู้โดยสาร MH17 จากการที่เขาให้การสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธยูเครน
ที่ปรึกษาของเคียฟ อองตวน เกราชเชนโก (Anton Gerashchenko) โจมตีประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ล่าสุดเมื่อคืนวานนี้(18)ด้วยการเผยแพร่ภาพทารกนอนจมกองเลือด หนึ่งในผู้โดยสารเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส บนอินเตอร์เนต พร้อมเขียนบรรยายถึงปูตินว่า “ความตายของทารกคนนี้จะหลอกหลอนคุณตลอดไป” และลงท้ายด้วย “แม่....ง มึ...งชั่วกัปชั่วกัลป์!!
ทั้งนี้ เกราชเชนโกกล่าวว่า เขารู้สึกเจ็บปวดที่ต้องตัดสินใจว่าจะเผยแพร่ภาพศพทารกตัวน้อยที่อยู่ท่ามกลางซากเครื่องบินที่กระจายเกลื่อนพร้อมผู้โดยสารอื่น ที่มีเด็กทั้งหมด 80 คน และ 3 คน เป็นทารกเดินทางมากับเที่ยวบินนี้หรือไม่ แต่ทว่า สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้ (18) ตัดสินใจที่จะไม่เปิดเผยภาพทารกน้อยนี้ ด้วยเหตุผลด้านจรรยาบรรญ
มีการเกรงว่าทั้งเคียฟและมอสโกจะฉวยโอกาสเครื่องบิน MH17 เป็นเครื่องมือการเมืองในการโจมตีซึ่งกันและกันมากกว่าที่จะใช้เพื่อสร้างสันติภาพ ซึ่งทางตะวันตกเกรงว่า การเปิดสอบสวนการตกของ MH17อย่างเต็มรูปแบบจะถูกขัดขวางโดยรัสเซีย และยูเครนจะใช้สงครามน้ำลายทำเรื่องให้เลวร้ายลงไปกว่านี้ ซึ่งจะไม่สามารถทำให้สืบสวนการตกนอกโดเนตสค์เมื่อบ่ายวันพฤหัสบดี (17) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สื่ออังกฤษรายงานว่า ก่อนหน้านี้ปูตินได้โทษว่า เป็นความผิดของเคียฟที่ไม่สามารถนำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครนเข้าสู่โต๊ะเจรจาได้สำเร็จ “เหตุการณ์โศกนาฎกรรมนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นเลย ถ้าหากมีสันติภาพเกิดขึ้นในยูเครนก่อนหน้านี้ และความเป็นปรปักษ์ได้ก่อตัวขึ้นมาอีกครั้งในบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ และแน่นอนที่สุด รัฐบาลเคียฟต้องรับผิดชอบทั้งหมดในเรื่องนี้” ปูตินแถลง
แต่สิ่งที่ปูตินกล่าวไม่ได้รับการสนับสนุนจากโลกตะวันตกที่ผู้นำชาติมหาอำนาจของโลกต่างแทบจะไม่สามารถระงับความโกรธจากการที่รัสเซียแสดงการยั่วยุทางทหารบริเวณชายแดนยูเครน-รัสเซีย ในคืนวันศุกร์ (18) สหรัฐฯและอังกฤษได้ประนามว่ารัสเซียเป็นต้นตอต่อเหตุมรณะของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส และไม่ถึงชั่วโมงที่ภาพซากทารกเผยแพร่ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ได้กล่าวโทษรัสเซียว่า ป้อนอาวุธให้กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนรัสเซียจนเป็นสาเหตุให้ผู้โดยสารทั้งหมด 298 คนเสียชีวิตยกลำอย่างน่าเศร้า การเข้ามาแทรกแซงของสหรัฐฯ ในครั้งนี้เกิดมาจากการเปิดเผยของถนนดาว์นิง สตรีทที่มีความเป็นไปได้ว่า MH17 จะถูกยิงตกจากจรวดมิสไซล์ของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ยิงมาจากโทเรซ (Torez) เขตอิทธิพลของกลุ่มกบฎควบคุมไว้
ก่อนหน้านี้ เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศกร้าวว่า คนที่มีส่วนต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้ต้องรับผิดชอบ จากล่าสุดมียอดผู้เสียชีวิตชาวอังกฤษถึง 10 คน รวมไปถึงริชาร์ด เมน (Richard Mayne)วัย 20 ปี นักศึกษาภาควิชาคณิตศาสตร์และการเงิน จากมหาวิทยาลัยลีดส์ โดยไซมอน เมน ( Simon Mayne)ให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษว่า “ปูตินฆ่าลูกชายของผม”
ตลอดทั้งวัน เจ้าหน้าที่กู้ภัย รวมไปถึงคนงานเหมืองบางส่วนที่ได้รับอนุญาตจากกลุ่มกบฎยูเครนเข้าไปทำงานกู้ภัยในจุดที่ MH17 ถูกยิงตกด้วยขีปนาวุธแบบภาคพื้นดินสู่อากาศ โดยพบว่ามีร่างผู้เสียชีวิตบางส่วนเริ่มเน่า และมีอีกเป็นจำนวนมากที่ยังต้องค้นหา โดยล่าสุด OSCE ที่เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานว่าไม่สามารถเข้าสู่พื้นที่ตกได้อย่างเต็มที่เพราะได้รับการขัดขวางจากกลุ่มกบฏ
เกราชเชนโก ที่ปรึกษารัฐบาลเคียฟกล่าวว่า “ผมได้รับข้อมูลที่น่าเศร้าว่า เหล่ากบฎไม่เพียงแต่เก็บของมีค่า เช่น เครื่องประดับ เงินสด จากผู้เสียชีวิต แต่ยังรวมไปถึงบัตรเครดิตอีกด้วย” และต่อมาได้โพสต์ภาพทารกที่เสียชีวิตจากเหตการณ์นี้ พร้อมกล่าวว่า “เราไม่ทราบชื่อของหนูน้อยผู้นี้ หรือแม้กระทั่งเชื้อชาติ บางทีอาจจะเดินทางมาจากเนเธอร์แลนด์ มาเลเซีย หรือ สหรัฐฯ” และเขาเสริมว่า “ไม่มีใครสามารถจินตนาการภาพเด็กทารกคนนี้ต้องตกจากเครื่องบินสูงหลายกิโลเมตรร่วงสู่พื้นดิน”
และพบว่าภาพเด็กทารกเสียชีวิตถูกเผยแพร่ พร้อมกับรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตเด็กบนเครื่องอย่างน้อย 80 คน นอกจากนี้ที่ปรึกษาเคียฟยังได้โพสต์ภาพฐานยิงขีปนาวุธของกลุ่มกบฏที่เขาอ้างว่าเป็นอาวุธของปูติน
คำเตือน : มีภาพรุนแรงมากโดยไม่มีการเซ็นเซอร์ โปรดพิจารณาก่อนคลิก
