เอเจนซีส์ - ผู้นำกบฏยูเครน อเลกซานเดอร์ โบโรได (Aleksander Borodai) แถลงกับสื่อยอมรับว่า กล่องดำของ MH17 อยู่ในความครอบครองและจะส่งมอบกล่องดำพร้อมกับร่างผู้เสียชีวิตให้กับหน่วยงานสอบสวนนานาชาติ ICAO นอกจากนี้รัฐบาลยูเครนอ้างว่า รัสเซียติดอาวุธหนักให้กลุ่มกบฏอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงรถถังหุ้มเกราะ 4 คัน และระบบยิงขีปนาวุธอีก 3 อัน
สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้ (20) ว่า รัฐบาลยูเครนอ้างว่าในขณะนี้กองทัพรัสเซียเพิ่มจำนวนมากอยู่ตามพรมแดนติดยูเครนตะวันออก และเสริมกำลังให้กับกลุ่มโปรรัสเซียด้วยรถถัง
จากการดักฟังโทรศัพท์พบว่า รัสเซียมีความสนใจในกล่องดำ MH17 ที่ในวันอาทิตย์ (20) กลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครนยอมรับว่า พบกล่องดำของเครื่องบินโบอิ้ง 777 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส และนำกลับไปยังโดเนตสก์เพื่อรอส่งมอบให้กับหน่วยงานสอบสวนนานาชาติ ICAO
ด้านผู้นำกบฏยูเครนอเลกซานเดอร์ โบโรได (Aleksander Borodai) แถลงกับสื่อว่า “ทางเราพบสิ่งของที่คาดว่าน่าจะเป็นกล่องดำของ MH17 ที่ได้ส่งกลับไปยังโดเนตสค์ และตอนนี้ทางเราเก็บรักษาไว้ แต่ทางเราไม่มีเจ้าหน้าที่เชี่ยวชาญเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ แต่ได้นำสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์กลับมา และหนึ่งในนั้นคาดว่าจะเป็นกล่องดำ”
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ความมั่นคงยูเครนได้รายงานว่า รัสเซียได้เสริมกำลังให้กับกลุ่มติดอาวุธยูเครนตะวันออกด้วยระบบยิงขีปนาวุธ 3 อันพร้อมกับรถถังหุ้มเกราะ 4 คัน ในขณะที่กองกำลังรัสเซียจำนวนมากป้วนเปี้ยนตามพรมแดน
และกลุ่มโปรเคียฟได้เผยแพร่คลิปเสียงลับที่ได้จากการสนทนาทางโทรศัพท์ช่วงบ่ายวันศุกร์ (18 ก.ค.) ระหว่างผู้บัญชาการระดับสูงของกบฎยูเครนและลูกน้องของเขาที่อยู่ในจุดตกของ MH17 ซึ่งบทสนทนาเกี่ยวข้องกับ MH17 โอเลกซานดร์ เซอร์ไฮโยวิช (Oleksandr Serhiyovych) ผู้บัญชาการหน่วยวอสตอก (Vostok) ได้โทรศัพท์ถามลูกน้องว่า ได้พบกล่องดำหรือไม่ เพราะทางมอสโกอยากรู้ว่ากล่องดำ MH17 อยู่ที่ใด และเซอร์ไฮโยวิชได้เตือนว่า ทางสมาชิกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียต้องเป็นผู้เก็บรักษากล่องดำไว้ และเก็บให้ห่างจากเจ้าหน้าที่สอบสวนนานาชาติที่จะเดินทางไปที่เกิดเหตุภายหลัง
นอกจากนี้ ในการโทร.ครั้งที่ 2 ของเซอร์ไฮโยวิช เขาได้บอกกับลูกน้องที่ทำงานในภาคสนามว่า “นี่ไม่ใช่คำขอของผมเอง แต่มาจากเพื่อนของเราที่อยู่ในระดับสูงมากสนใจในกล่องดำ MH17 และต้องการรู้ว่าในขณะนี้อยู่ที่ไหน ผมหมายถึงเพื่อนเราในกรุงมอสโก” เซอร์ไฮโยวิชกล่าว
และสมาชิกกลุ่มโปรรัสเซียที่เรียกตัวเองว่า “โนโวรอสซิยา” ( Novorossiya) หรือรัสเซียใหม่ ก่อนหน้านี้ได้ทวีทข้อความว่า “กล่องดำของ MH17 นั้นถูกส่งไปโดเนตสก์แล้ว”
สื่ออังกฤษรายงานในวันอาทิตย์ (20) ว่า ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนคดีเครื่องบิน MH17 จากนานาชาติยังไม่สามารถเข้าไปยังสถานที่เกิดเหตุได้เนื่องจากยังไม่มีความปลอดภัย แต่โบโรไดเผยมีแผนส่งมอบกล่องดำให้กับองค์การบินพลเรือนสากล (International Civil Aviation Organisation) หรือ ICAO และยังกล่าวว่าร่างของผู้เสียชีวิตในขณะนี้ถูกเก็บที่ห้องเย็นของตู้รถไฟที่จอดอยู่ที่สถานีเมืองโทเรซ (Torez) จนกว่าเจ้าหน้าที่ ICAO จะเดินทางมาถึง
ขณะที่ แอนดรี ไลเซนโก (Andriy Lysenko) โฆษกรัฐบาลรัสสเซียแถลงว่า รัสเซียยังคงติดอาวุธให้กบฎยูเครนอย่างต่อเนื่อง “ภายใน 24 ชั่วโมงมานี้ พบว่ามีการส่งรถถังหุ้มเกราะ 4 คัน ระบบยิงขีปนาวุธ Grad รวมไปถึงรถหุ้มเกราะ APC (Armored Personnel Carrier) 4 คัน และรถบรรทุก Ural ที่บรรทุกอาวุธสงครามจนเต็มคันจำนวนหนึ่ง ไปยังลูกานสค์จากเมืองไบเลนเก (Bilenke) เขตคราสโนดอน (Krasnodon) รัสเซีย
นอกจากนี้ สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ของยูเครนรายงานว่า “เจ้าหน้าที่รักษาชายแดนยูเครนสังเกตว่า มีคาราวานรถถังรัสเซียจำนวน 30 คัน เคลื่อนไหวใกล้พรมแดนยูเครนใน บริยานสค์ (Bryansk) และรถหุ้มเกราะจำนวนมากใกล้กับโวชาคตินส(Novoshakhtins) ในรอสตอฟ (Rostov) “ข่าวจากหน่วยงานรักษาพรมแดนยูเครนพบว่า มีทหารรัสเซียจำนวน 100 นายที่สถานีจ่ายแก๊สใกล้กับหมู่บ้านสตริลโคฟ (Strilkove) เขตเคอร์สัน Kherson ปรจำในจุดพร้อมยิง และสั่งให้รถถัง 4 คัน และรถหุ้มเกราะ APC 3 คันอยู่ในขั้นพร้อมรบ และในขณะเดียวกัน มีการเคลื่อนปืนใหญ่ Howitzer 14 กระบอกไปยังหมู่บ้านเปเรคอป (Perekop) รัสเซียซึ่งอยู่ตรงข้ามกับแผ่นดินใหญ่ยูเครน”
และในวันอาทิตย์ (20) ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโกแห่งยูเครน เผยว่าเขามีภาพถ่ายทางดาวเทียมที่แสดงถึงจุดที่ตั้งระบบยิงขีปนาวุธฺ BUK ถูกยิงเพื่อโจมตี MH17 ซึ่งจากการที่กลุ่มกบฎยูเครนขัดขวางการทำคดีสอบสวน MH17 โปโรเชนโกแห่งยูเครนแถลงว่า “จะช่วยพวกนั้นไม่ได้เพราะในขณะนี้ผมมีภาพถ่ายดาวเทียมในมือแสดงถึงจุดที่ระบบขีปนาวุธยิงโจมตี MH17 รูปภาพแสดงถึงระบบขีปนาวุธที่ยิง และจากหลักฐานทั้งหมดระบุว่ารัสเซียส่งอาวุธนี้สนับสนุนกลุ่มกบฏยูเครนรวมไปถึงโทรศัพท์ที่ดักฟังได้ และหลักฐานอื่นๆ ที่แน่นหนา”
และในวันอาทิตย์ (20) เจ้าหน้าที่จาก OSCE (Organisation for Security and Cooperation in Europe) ที่ไม่ได้ถูกฝึกให้สอบสวนเรื่องเครื่องบินตกได้รับอนุญาตให้ตรวจสอบบางศพ ซึ่งโบโรได ผู้นำโดเนตสก์ย้ำว่าศพผู้เสียชีวิตจะถูกส่งมอบเมื่อ ICAO มาถึงเท่านั้น