เอเจนซีส์ /เอเอฟพี- อาร์เซน อวาคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยยูเครนแถลงในวันศุกร์(13)ว่า กองกำลังแนชันแนลการ์ดของยูเครนสามารถสังหารกลุ่มกบฎแยกดินแดน 5 รายที่นำโดยผู้บัญชาการรบกบฎเชเชนในมาริอูโปลจากปฎิบัติการยึดคืนทางภาคตะวันออก ด้านเดนิส พูชิลิน ผู้นำสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ถูกลอบสังหารด้วยคาร์บอมบ์เมื่อวานนี้(12) แต่ไม่ได้รับอันตรายใด ด้านสื่อRTรายงาน สงสัยยูเครนทิ้งระเบิดฟอสฟอรัสขาวถล่มสลาเวียนสค์ ส่วนประธานาธิบดียูเครน เปโตร โปโรเชนโก ได้แจ้งต่อประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ว่าการที่รถถังสัญชาติรัสเซีย 3คันล่วงล้ำพรมแดนยูเครนตะวันออกเป็นสิ่งที่รับไม่ได้
อาร์เซน อวาคอฟ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยยูเครน แถลงผ่านเฟสบุ๊กวันนี้(13)ว่า ปฎิบัติการยึดยูเครนตะวันออกกลับคืนได้เริ่มต้นตั้งแต่รุ่งอรุณและยังคงดำเนินอยู่ในอีก 3ชั่วโมงถัดมา และเสริมว่าทหารยูเครนของกองกำลังแนชันแนลการ์ด 2นายได้รับบาดเจ็บจากการปะทะ
“ปฎิบัติการเริ่มตั้งแต่ 4.50น.และได้ดำเนินไปตามแผนที่วางไว้จนประสบความสำเร็จ และจุดยุทธศาสตรสำคัญที่ถูกยึดโดยกลุ่มก่อการร้ายอยู่ในความควบคุมของรัฐบาลเคียฟแล้วในขณะนี้ โดยพื้นที่ปฎิบัติการณ์ในมาริอูโปลถูกกองกำลังแนชันแนลการ์ดเข้าปิดล้อม” อวาคอฟแถลงผ่านเฟสบุ๊ก
โดยอวาคอฟชี้แจงว่าในปฎิบัติการยึดคืนภาคตะวันออกนี้มีทหารจากกองกำลังแนชันแนลการ์ด เจ้าหน้าที่ความมั่นคงจากกระทรวงมหาดไทยยูเครน รวมไปถึงหน่วยรบพิเศษ และย้ำว่า “ผู้ก่อการร้ายจากสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์มีผู้บัญชาการรบที่รู้จักคือ “กบฎเชเชน”
โดยพบว่ากลุ่มมุสลิมเชเชนติดอาวุธที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีจากสาธารณรัฐเชเชนเข้าร่วมต่อสู้เคียงบ่ากลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครนเป็นจำนวนมเพิ่มมากขึ้น
ด้านกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครนได้ยืนยันว่า มีสมาชิกของกลุ่มจำนวน 5 คนเสียชีวิตในการต่อสู้กับกองทัพยูเครนในมาริอูโปล สื่ออังกฤษ หนังสือพิพม์เดอะการ์เดียน รายงาน
และหนึ่งในทหารหน่วยแนชันแนลการ์ดเปิดเผยว่า กลุ่มแบ่งแยกดินแดนได้ทำลายรถหุ้มเกราะไป 1 คันในระหว่างการสุ้รบ และทหารหน่วยแนชันแนลการ์ดอีกนายเสริมว่า มีเจ้าหน้าที่ทหารยุเครน 4นายได้รับบาดเจ็บแต่ไม่มีใครเสียชีวิต
นอกจากนี้ในวันพฤหัสบดี(12)เอเอฟพีรายงานว่า ยังเกิดคาร์บอมบ์ขึ้นที่ใจกลางโดเนตสค์ ทำลายรถมินิบัสของหัวหน้ากลุ่มแบ่งแยกดินแดนยูเครนที่รุ้จักในนาม เดนิส พูชิลิน ผู้นำสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ ส่งผลให้การ์ดรักษาความปลอดภัย 3นายของเขาที่อยู่ในรถเสียชีวิต โดยอิตาร์ทาสส์ สื่อรัสเซียรายงานว่า พูชิลินไม่ได้ใช้รถคันนั้นมาเป็นเวลา 2วันแล้ว โดยเหตุคาร์บอมบ์เกิดห่างจากตึกที่ทำการโดเนตสค์ไปแค่ 100 ม.
และประชาชนยูเครนในเมืองสลาเวียนสค์ ที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครนต้องตกใจตื่นขึ้นกลางดึกวันพฤหัสบดี(12)เพราะการปูพรมระเบิดทางอากาศโดยกองทัพยูเครน ที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์และสื่อท้องถิ่นชี้ว่า อาจจะเป็นระเบิดฟอสฟอรัสขาว
หมู่บ้านเซมโยนอฟกา(Semyonovka) เกือบทั้งหมดถูกไฟไหม้ที่พื้นดินดูเหมือนไม่มีท่าทีที่เปลวไฟจะดับลงได้ โดยหมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่นอกเมืองสลาเวียนสค์ ชาวบ้านจากหมู่บ้านเซมโยนอฟกาได้ให้ความเห็นกับผู้สื่อข่าวRTว่า “เราทุกคนต่างเป็นพยานกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ กองทัพยูเครนใช้จรวด รวมไปถึงระเบิดปูพรมเล่นงานพวกเรา พื้นดินติดไฟและลุกไหม้ทั้งๆที่พื้นดินจะลุกไหม้ด้วยตัวเองได้อย่างไร และพบว่าพื้นดินไหม้ไหนานถึง 45 นาทีกว่าดับ” โรมาน ลิตวินอฟ (Roman Litvinov) ชาวบ้านเซมโยนอฟกาให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
“การโจมตีเริ่มขึ้นตั้งแต่ 2.00น. และทุกคนที่ผมพบต่างรู้สึกเจ็บคอ และไอตลอดเวลา ซึ่งผมคิดว่าต้องเกิดจากการเผาไหม้แน่นอน และเรารู้สึกถึงผลที่ตามมาอย่างแท้จริงในภายหลัง ยังมีผุ้คนเป็นจำนวนอาศัยอยู่ที่นี่ และเด็กจำนวนมากที่เรายังไม่สามารถอพยพพวกเขาออกไปได้” ทาตยานา ชาวบ้านอีกคนที่ประสบเหตุกล่าวกับ RT
ทั้งนี้การใช้ระเบิดเพลิง (incendiary bomb) ที่ออกแบบเพื่อให้เกิดเพลิงไหม้ โดยการใช้นาปาม ฟอสฟอรัสขาว หรือสารเคมีต่างๆที่เป็นอันตรายนั้นถูกห้ามโดยองค์การสหประชาชาติ แต่เคียฟได้ปฎิเสธโดยสิ้นเชิงจากรายงานข่าวการใช้ระเบิดประเภทนี้ต่อพลเรือนยูเครน และแนชันแนลการ์ดได้โต้แย้งรายงานการใช้ระเบิดฟอสฟอรัสขาวว่า ไม่มีมูลแต่อย่างใด
จากการรายงานพบว่า ฟอสฟอรัสขาวเป็นสารที่มีลักษณะคล้ายขี้ผึ้ง มีสีขาวใสออกเหลือง มีกลิ่นคล้ายกระเทียม จะทำการสันดาปอย่างรวดเร็วกับออกซิเจน ทำให้เกิดประกายไฟและควันสีขาวและเมื่อได้เจอกับความชื้นจะทำปฏิกิริยาจน เกิดกรดฟอสฟอริก เมื่อสัมผัสมนุษย์ มันจะไหม้ทั้งผิวหนังและเนื้อทุกส่วนจนเหลือแต่ซากกระดูกเท่านั้น
เป็นระเบิดที่ทำมาเพื่อให้เกิดปฏิกิริยากับอ๊อกซิเจน นั่นคือทำอัตรายกับสิ่งมีชีวิตที่มีอ๊อกซิเจนในเซลเนื้อเยื่อโดยตรง ถ้าระเบิดกับอาคารบ้าน เรือนไม่ส่งผลเสียหายเท่าไดนักคงมีแต่แรงอัดระเบิดเท่านั้นที่ทำให้บ้าน เรือนเสียหาย จุดประสงค์หลักคือทำมาเพื่อผลทางการทหาร ทำให้ทหารคนนั้นไม่สามารถทำ การรบได้อีกต่อไป นิยมใช้มากในสงครามเวียดนามควบคู่ไปกับระเบิดนาปาม และพบว่าอิสราเอลใช้ระเบิดฟอสฟอรัสขาวถล่มเขตฉนวนกาซาไม่หลายปีมาแล้ว
ในการแถลงข่าวล่าสุด โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ เจน ซากี ได้เลี่ยงคำถามจากผู้สื่อข่าวเอพีเกี่ยวกับ รายงานการใช้ระเบิดฟอสฟอรัสขาวของกองทัพเคียฟ แต่เมื่อซากีถูกต้อนจนมุมซากีได้เลี่ยงไปว่า เธอเองก็ไม่ทราบถึงสถานการณ์ในพื้นที่ โดยกล่าวว่า เธอคิดว่าเป็นการโยงถึงพวกรัสเซียใช้ระเบิด และเมื่อถูกถามถึงรายงานข่าวเป็นครั้งที่ 2 ซากีกลับถามว่า “มาจากใคร มาจากพวกรัสเซียหรือ” นักข่าวเอพีจึงตอบว่า “ไม่..มาจากชาวบ้านยุเครนในพื้นที่” และชี้แจงต่อว่า มีทั้งวิดีโอคลิปและภาพนิ่งประกอบเป็นหลักฐานการโจมตี ทำให้ซากีต้องตอบว่า “ไม่ ดิฉันไม่ได้เห็นรายงานพวกนั้น”
และสื่อบีบีซีของอังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(12)ว่า ประธานาธิบดียูเครน เปโตร โปโรเชนโก ได้แจ้งต่อประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ถึงรถถัง 3คันของรัสเซียได้วิ่งข้ามพรมแดนเข้ามาในยูเครนด้านตะวันออกบริเวณทีตกอยู่ในการควบคุมของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซีย และเขารับไม่ได้ต่อสิ่งนี้
โดยอวาคอฟเปิดเผยว่า รถถังรัสเซียพร้อมกับรถหุ้มเกราะแล่นผ่านจุดตรวจที่ควบคุมโดยกลุ่มกบฎยูเครนในลูฮานสค์ (Luhansk) ในวันพฤหัสบดี(12) นอกจากนี้ CNN สื่อสหรัฐฯรายงานรายละเอียดเพิ่มเติมในวันนี้(13)ว่า รัฐมนตรีมหาดไทยยูเครนอ้างจากรายงานข่าวกรองของยูเครนว่า มีรถถัง 2 คันได้แยกตัวจากกองคาราวาน และออกมุ่งหน้าไปยังฮอร์ลิฟกา (Horlivka) และในที่สุดปะทะกับทหารยูเครน ทำให้บางส่วนของคาราวานรถถังที่แยกตัวออกมาได้รับความเสียหาย แต่อย่างไรก็ตาม CNN ไม่สามารถยืนยันต่อรายงานนี้
ในขณะที่ทางรัสเซียได้ปฎิเสธการอ้างจากโปโรเชนโก และกระทรวงต่างประเทศรัสเซียกล่าวตอบโต้ว่า “เป็นข่าวโคมลอยอีกชิ้นที่ปล่อยมาจากยูเครน”
