เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ในเวลารุ่งสางวันนี้ (24) มีกลุ่มติดอาวุธร่วม 100 คนพร้อมทั้งปืนกลอัตโนมัติ และระเบิด โจมตีคลังสรรพาวุธของกองทัพยูเครนที่ Artyomovsk ใกล้กับเมืองโดเนตสค์ ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ประท้วงติดอาวุธในเมืองสลาเวียนสค์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน จากปฏิบัติการบุกโจมตีของกองกำลังยูเครน และเมื่อวานนี้ (23) กองทัพยูเครนสามารถยึดคืนที่ทำการเมืองเมืองมาริอูโปลได้สำเร็จ ด้านกระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสแถลงวันนี้ (24) ว่า ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟรองซัวส์ ออลลองด์ มีกำหนดเยือนจอร์เจียเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ
สำนักข่าวอิตาร์ ทาสส์ของรัสเซียรายงานว่า ช่วงคืนดึกของวันพุธ (23) ไปจนถึงรุ่งสางของวันนี้ (24) หน่วยสรรพาวุธของกองทัพยูเครนใกล้กับโดเนตสค์ถูกกลุ่มติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายจำนวนราว 100 คนเข้าโจมตี กระทรวงกลาโหมยูเครนรายงานวันนี้ (24)
โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า ในเวลา 2.00 น. ของวันนี้ (24) มีเสียงปืน และตามด้วยระเบิด และเสียงรัวของปืนอัตโนมัติดังขึ้นได้ยินทางตะวันตกของ Artemivsk มีการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง “ชั่วข้ามคืนวันพุธไปวันพฤหัสบดี มีกลุ่มคนไม่ทราบฝ่ายจำนวนราว 100 คนได้ใช้อาวุธบุกโจมตีฐานทัพใน Artemivsk กลุ่มคนร้ายใช้ทั้งปืนกลอัตโนมัติ เครื่องยิง-จรวดอาร์พีจี และระเบิดแบบขว้าง” กระทรวงกลาโหมยูเครนแถลง
และแถลงเพิ่มว่า “มีเจ้าหน้าที่ 1 นายบาดเจ็บ แต่ไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต และขณะนี้กองทัพยูเครนยังสมารถควบคุมฐานทัพและคลังเก็บอาวุธใน Artemivsk ได้”
และในขณะเดียวกันของวันนี้ (24) ที่เมืองสลาเวียนสค์ ทางตะวันออกของยูเครน ใกล้จุดตรวจมีผู้เสียชีวิต 2 คน หลังจากกลุ่มกองกำลังยูเครนบุกจู่โจม โฆษกกลุ่มปกป้องตนเองนิยมรัสเซีย สเตลลา โฮโรเชวา ให้สัมภาษณ์กับสื่อรัสเซีย RT
“มีการยิงเกิดขึ้นจริง ในทุกคืนที่บริเวณจุดตรวจของเรามีเหตุเกิดขึ้น และในครั้งนี้ก็เช่นกัน กลุ่มที่น่าสงสัยขับรถผ่านจุดตรวจของเรา เจ้าหน้าที่ขอดูบัตรประจำตัวแต่ทางกลุ่มนี้กลับเปิดฉากยิงใส่” โฮโรเชวากล่าว และเสริมว่า ในขณะนี้กลุ่มปกป้องตนเองกำลังสืบสวนว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการบุกโจมตีครั้งนี้
และพบว่าเกิดเหตุการณ์แทบเหมือนกันที่ด่านตรวจของกลุ่มผู้ประท้วงใน Artyomovsk ใกล้กับโดเนตสค์ โดยผู้ประท้วงนิยมรัสเซียให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอินเตอร์แฟกส์ทางโทรศัพท์ว่า “Artyomovskไม่สงบอีกต่อไป มีเหตุการณ์ยิงกันเกิดขึ้น ยังไม่ทราบข้อมูลถึงความเสียหาย”
โดย RT รายงานว่า ปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้ายที่เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งเกิดขึ้นที่นอกเมืองสลาเวียนสค์ในวันนี้ (24) กองกำลังยูเครนที่มาพร้อมรถถังและรถหุ้มเกราะพยายามฝ่าเข้าไปในเมือง และจากรายงานของกระทรวงมหาดไทยยูเครนพบว่า มีผู้ประท้วงนิยมรัสเซียอย่างน้อย 5 คนเสียชีวิต รวมตำรวจยูเครน 1 นายที่ร่วมปฏิบัติการนี้ได้รับบาดเจ็บ
“ในปฎิบัติการจู่โจมนี้ ด่านตรวจที่ตั้งอย่างผิดกฏหมายโดยผู้ประท้วงแบ่งแยกดินแดน 3 แห่งถูกทำลายในตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองสลาเวียนสค์” กระทรวงมหาดไทยยูเครนแถลง
และพยานในเหตุการณ์รายงานผ่านทวิตเตอร์ว่า กลุ่มปกป้องตนเองประจำเมืองสลาเวียนสค์ในขณะนี้ทำการเผากองยางรถยนต์ในบริเวณถนนที่มุ่งจากกรุงเคียฟเข้ามาสู่ตัวเมือง และสื่อรัสเซีย รอสซิยา 24 รายงานว่า กลุ่มปกป้องตนเองสามารถขับไล่กองกำลังทหารยูเครนในจุดตรวจที่ห่างไปทางเหนือของเมืองสลาเวียนสค์ราว 3 กม. ได้สำเร็จ
ทั้งนี้ ชาวบ้านในท้องที่รายงานว่า มีรถหุ้มเกราะอย่างน้อย 8 คันได้แล่นผ่านหมู่บ้าน Hrestische ที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองสลาเวียนสค์ Gazeta.ru. รายงาน และพบว่ามีหน่วยสไนเปอร์ของกองทัพยูเครนจำนวนอย่างน้อย 3 นายมาประจำอยู่ที่ด่าน และเมื่อมีนักข่าวพยายามจะผ่านด่านไป มือสไนเปอร์เปิดฉากยิงใส่
และพบว่ามีกองคาราวานหุ้มเกราะยูเครน 2 ชุดกำลังวิ่งมุ่งหน้าไปยังเมืองสลาเวียนสค์ โดยพบว่าขบวนแรกห่างจากเมืองสลาเวียนสค์ไปราว 6 กม. ในขณะที่ขบวนที่ 2 ห่างไปราว 3 กม. นอกจากนี้ยังพบว่ามีเฮลิคอปเตอร์ Mil Mi-24 และ Mi-8 ถูกพบบินวนเหนือเมืองArtemivsk ใกล้กับเมืองโดเนตสค์
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ได้ประนามเคียฟในการใช้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงทางภาคตะวันออกของยูเครนว่า “เป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรง” และย้ำว่า จากเหตุการณ์ในภาคตะวันออกของยูเครนที่เกิดขึ้นได้ยืนยันว่า รัสเซียทำถูกต้องที่สนับสนุนการเดินหน้าลงประชามติของไครเมีย
และด้านกรุงเคียฟ กระทรวงกลาโหมยูเครนและกระทรวงมหาดไทยของยูเครนยังรายงานในวันนี้ (24) ถึงเหตุการณ์ปะทะเกิดขึ้นระหว่างกองกำลังยูเครนและกลุ่มผู้ประท้วงนิยมรัสเซียในเมืองทางตะวันออกของประเทศในชั่วข้ามคืนที่ผ่านมา
ทหารยูเครนสามารถเข้าควบคุมที่ทำการเมืองมาริอูโปล ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศได้สำเร็จ ซึ่งตรงจากการยืนยันจากแหล่งข่าวของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนถึงการเสียการควบคุมที่ทำการเมืองแห่งนี้ไป
โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมามีการปะทะระหว่างกองกำลังยูเครนและกลุ่มป้องกันตัวเองของยูเครนนิยมรัสเซีย เป็นผลให้มีผู้ประท้วง 3 คนเสียชีวิต ทั้งนี้เมืองแห่งนี้ที่มีประชากรร่วม 500,000 คน ถูกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนเข้ายึดตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน เป็นต้นมา
“ยูเครนสามารถยึดที่ว่าการเมืองมาริอูโปลจากกลุ่มผู้ประท้วงได้สำเร็จ และสามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว” อาร์เซน อาวาคอฟ รัฐมนตรีมหาดไทยรักษาการของยูเครนแถลงผ่านเฟซบุ๊ก
และกระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสได้ประกาศการเยือนจอร์เจียอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟรองซัวส์ ออลลองด์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ไมตรีระหว่างสองประเทศ ซึ่งการประกาศนี้มีขึ้น 1 วันหลังจากที่เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ประกาศจะใช้กำลังทางทหารตอบโต้หากผลประโยชน์ของรัสเซียในยูเครนถูกโจมตี และเขาได้ยกสงครามจอร์เจียในปี 2008 ขึ้นเป็นตัวอย่างประกอบ
“ประธานาธิบดีฝรั่งเศสมีกำหนดการเยือนจอร์เจียในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดความตึงเครียดขึ้นในภูมิภาคนี้จากสาเหตุจากวิกฤตยูเครน และทำให้เกิดสงครามน้ำลายระหว่างชาติตะวันตกและรัสเซีย”
และยังแถลงเสริมต่อว่า “ฟรองซัวส์ ออลลองด์ จะเยือนจอร์เจียเพียงไม่กี่วันเท่านั้น” โลรองต์ ฟาบิอูส์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวในแถลงการณ์เยือนร่วมกับรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมัน แฟรงก์-วอลเตอร์ สไตน์ไมเออร์
ซึ่งทั้งฟาบิอูส์และสไตน์ไมเออร์อยู่ในกรุงทบิลิซิ เมืองหลวงของจอร์เจีย 1 วัน หลังจากที่รัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสองไปเยือนมอลโดวา เพื่อต้องการกระชับความสัมพันธ์กับทั้งมอลโดวา และจอร์เจีย เพื่อก้าวต่อไปในการลงนามในข้อตกลงทางการเมืองและการค้ากับอียูเหมือนกับที่ทางสหภาพยุโรปได้กระทำกับยูเครน