นางเสาวนีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงถึงดัชนีความสามารถด้านการแข่งขันของธุรกิจเอสเอ็มอีประจำไตรมาสที่ 1 ของปีนี้พบว่า ดัชนีสุขภาพของธุรกิจเอสเอ็มอีโดยรวมอยู่ที่ 57.2 ลดลง 4 จุดจากไตรมาสก่อนหน้า ส่วนดัชนีความสามารถในการทำธุรกิจโดยรวมเท่ากับ 54.2 ลดลง 4 จุด ซึ่งปัญหามาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ย่ำแย่ลงตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา แต่เชื่อว่าไตรมาส 2 จะปรับตัวดีขึ้น โดยสุขภาพของธุรกิจเอสเอ็มอีจะขึ้นมาอยู่ที่ 61.8 ขณะที่ความสามารถในการทำธุจกิจนั้นจะอยู่ที่ 59.3
ขณะ นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า เอสเอ็มอีประสบปัญหาตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมาแล้ว เพราะว่าผลกระทบจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีต้นทุนสูงและจ้างงานจำนวนมาก มาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนคือ การให้เข้าถึงเงินทุน และระยะยาวถึงปานกลางต้องช่วยแก้ปัญหาการจัดการและการตลาดด้วย และศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจเตรียมจะปรับประมาณการและตัวเศรษฐกิจปีนี้ ในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ คาดขยายตัวร้อยละ 2-3
ขณะ นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า เอสเอ็มอีประสบปัญหาตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมาแล้ว เพราะว่าผลกระทบจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ โดยเฉพาะธุรกิจที่มีต้นทุนสูงและจ้างงานจำนวนมาก มาตรการช่วยเหลือเร่งด่วนคือ การให้เข้าถึงเงินทุน และระยะยาวถึงปานกลางต้องช่วยแก้ปัญหาการจัดการและการตลาดด้วย และศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจเตรียมจะปรับประมาณการและตัวเศรษฐกิจปีนี้ ในวันที่ 19 มิถุนายนนี้ คาดขยายตัวร้อยละ 2-3